"ทิพานัน"อัดเด็กเพื่อไทย ปั้นน้ำเป็นตัว มั่ววิจารณ์รัฐเยียวยาโควิด ยันมีมาตรการอุ้มเอสเอ็มอี-ทุกกลุ่ม มั่นใจนโยบายรัฐรอบคอบ พร้อมเดินหน้าเศรษฐกิจเต็มรูปแบบอย่างรัดกุม
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2564 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่ นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรม คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าววิจารณ์ว่ารัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาตรการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนในการระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่ไม่รอบคอบ ล้มเหลวในการบริหารประเทศนั้น เป็นการวิจารณ์เหมือนปั้นน้ำเป็นตัว ซึ่งขอว่าอย่าทำเช่นนั้น ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะของเพื่อไทยที่เสนอมาก็ไม่รอบคอบ ไม่เท่าเทียม ไม่อยู่ในเหตุในผล เสมือนว่า "จำเขามาพูด" มากกว่า
ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลได้ออกมาบังคับใช้นั้นเป็นไปอย่างรอบคอบ รัดกุม ฟังเสียงสะท้อนจากทุกภาคส่วนทั้งทีมแพทย์ ประชาชน และภาคธุรกิจ ไม่ได้เป็นนโยบายจากแดนไกลที่สั่งมาแล้วต้องทำตาม โดยจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้แบบที่บางพรรคมักถูกบุคคลอื่นครอบงำ สำหรับมาตรการ "เราชนะ" ที่เยียวยา 3,500 บาท 2 เดือน ที่แตกต่างจากการเยียวยาเดือนละ 5,000 บาท 3 เดือนนั้น เพราะในสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดในปีที่แล้วเราได้ใช้มาตรการที่เคร่งครัดอย่างสูงสุด เพราะเป็นโรคอุบัติใหม่ ข้อมูลทางการแพทย์ยังอยู่ในขั้นตอนศึกษา สถานการ์โรคไม่มีความนิ่งแน่นอน มีการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งแตกต่างกันมากกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่ดำเนินมาตรการสร้างสมดุลทั้งการควบคุมโรคและระบบเศรษฐกิจ จัดแบ่งโซนกลุ่มจังหวัดตามระดับความรุนแรงของการแพร่ระบาดทำให้บรรเทาจำนวนและผลกระทบของประชาชนไปได้มาก ส่วนระยะเวลาคือ 2 เดือนนั้นก็เป็นมาตรการในเบื้องต้นที่คาดการณ์จากสถานการณ์ของโรค สามารถต่อขยายได้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตามที่เป็นจริง ข้อเสนอของเพื่อไทยที่ให้จ่าย 5,000 บาท 3 เดือน จึงเป็นข้อเสนอที่โดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ความเป็นจริง
"ทั้งนี้ รัฐบาลไม่เคยละเลยกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SME) และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เช่น โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน การเพิ่มเงินช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการบรรเทาผลกระทบในระยะเร่งด่วน ต่างประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ 1.มาตรการเสริมสภาพคล่อง บรรเทาภาระหนี้สินของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและประชาชน 2.มาตรการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนผู้ใช้แรงงาน การลดหย่อนเงินสมทบนายจ้าง และผู้ประกันตน เพิ่มสิทธิประโยชน์ การว่างงาน ฯลฯ และ 3.มาตรการลดค่าใช้จ่ายประชาชน โดยการลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา และค่าอินเตอร์เน็ต รวมถึงลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนอสังหาริมทรัพย์ ลดอัตราการหักภาษี ณ ที่จ่ายเหลือ 2% ขยายเวลามาตรการทางการเงินของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 7 แห่งที่อยู่ภายใต้กำกับกระทรวงการคลังเพื่อเสริมสภาพคล่องและพักชำระหนี้ เช่น สินเชื่อเสริมพลังฐานราก สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 สินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ฯลฯ และสำหรับ 5 จังหวัด ที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดนั้น ขณะนี้ความจำเป็นเร่งด่วนอย่างสูงสุดคือการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาด ลดจำนวนผู้ติดเชื้อและสียชีวิตเพื่อให้ประชาชนปลอดภัย" น.ส.ทิพานัน กล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลได้ประกาศการฟื้นฟูและเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยให้เข้มแข็ง ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยศักยภาพเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เป็น 4.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 24 ของ GDP ในอีก 6 ปีข้างหน้า ในโมเดลเศรษฐกิจ BCG พ.ศ.2564 - 2569 ซึ่งโมเดลเศรษฐกิจใหม่นี้เรียกว่า "BCG" หรือ Bio-Circular-Green Economy เศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว เป็นการเชื่อมโยงหลักคิดเศรษฐกิจพอเพียง (SEP) สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และเป็นการสานพลังของจตุภาคีทั้งภาคประชาชน เอกชน หน่วยงานภาครัฐ และเครือข่ายต่างประเทศ อีกด้วย
สำหรับงบประมาณที่เหลือรวมกัน 6 แสนล้านบาทนั้น นายกฤษฎาและพรรคเพื่อไทย ต้องทำความเข้าใจว่าไม่สามารถเอามาแจกได้อย่างเดียวตามที่พรรคเพื่อไทยเสนอ งบดังกล่าวต้องเตรียมไว้ใช้สำหรับการสาธารณสุขและการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างครบวงจรอย่างมั่นคง รวมถึงใช้ในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนด้วย เพราะเราต้องมีงบประมาณรองรับทั้งการป้องกันไม่ให้เกิดโรค การควบคุมการแพร่ระบาดโรค การรักษาพยาบาลผู้ที่ติดเชื้อ และการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวเพิ่มเติมอีกมาก ดังนั้นจึงเห็นว่าข้อเสนอของพรรคเพื่อไทยจึงเป็นข้อเสนอที่ไม่รอบคอบ ไม่มองอนาคตที่ต้องวางแผนรองรับทางเศรษฐกิจ ล้วนแต่จะจ้องดิสเครดิตรัฐบาลไปวันๆ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี