ปลัด ยธ.โต้"ปิยบุตร" ยัน"ราชทัณฑ์ปันสุข"ไม่ได้ใช้งบราชการ ระบุเป็นงบส่วนพระองค์ ปีนี้ให้เพิ่มอีก 118 ล้านบาท ชี้โครงการพระราชทานความช่วยเหลือ ตั้ง คกก.ไม่มีอำนาจสั่งการ แค่ให้ข้อมูลพื้นที่ขาดแคลนอุปกรณ์การแพทย์
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 27 มกราคม 2564 กระทรวงยุติธรรม นายวิศิษฎ์ วิศิษฎ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ชิ้แจงกรณี นายปิยบุตร แสงกนก เลขาธิการคณะก้าวหน้า ตั้งคำถามกรณีการตั้งคณะกรรมการราชทัณฑ์ปันสุข จนทำให้สังคมเกิดความสับสน โดย นายวิศิษฎ์ ระบุว่า "โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" เป็นโครงการที่ในหลวง รัชกาลที่ 10 ทรงมีพระราชดำริว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์เป็นโรงพยาบาลแห่งเดียวในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ต้องให้บริการแก่ผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยจำนวนมาก แต่ยังขาดแคลนบุคลากร เครื่องมือแพทย์และเวชภัณฑ์ ซึ่งกรมราชทัณฑ์มีหน้าที่ดูแลสุขภาพของผู้ต้องขังเพื่อให้เข้าถึงการรับการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมตามหลักมนุษยธรรม เมื่อพ้นโทษออกไปจะได้มีสุขภาพดี จึงพระราชทานความช่วยเหลือทั้งการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ รวมทั้งมีจิตอาสาพระราชทานเข้าไปให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ การพยาบาล การอบรมให้ความรู้ในเรื่องต่างๆ
"ปัจจุบันเรือนจำมีผู้ต้องขังจำนวนมาก แต่กรมราชทัณฑ์มีข้อจำกัดด้านงบประมาณ บุคลากร เครื่องมือแพทย์ และเวชภัณฑ์ที่ไม่สอดคล้องกับจำนวนผู้ต้องขังที่แออัด ในปี 2563 ได้รับพระราชทานเงินมาให้จัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ไว้ใช้ทั้งในเรือนจำและโรงพยาบาลภายนอกจำนวน 190 ล้านบาท ปีนี้พระราชทานให้อีก 118 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ประชาชนและโรงพยาบาลภายนอกได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน ยืนยันว่า โครงการพระราชทานสอดคล้องกับตามหลักสากล หลักสิทธิมนุษยชน หลักมนุษยธรรม และมาตรฐานขั้นต่ำขององค์การสหประชาชาติ ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็นปฏิญญากรุงเทพ และข้อกำหนดแมนเดลา และไม่ได้ใช้งบประมาณของทางราชการแต่อย่างใด" นายวิศิษฎ์ กล่าว
เมื่อถามว่า สามารถตอบคำถามนายปิยบุตร ทั้ง 9 ข้อได้หรือไม่ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า สิ่งที่พูดมาน่าจะชัดเจนทั้งหมดแล้ว โครงการราชทัณฑ์ปันสุขเป็นโครงการที่ให้ความช่วยเหลือ และการตั้งคณะกรรมการฯ ก็ไม่ต้องใช้กฎหมายรองรับ เพราะไม่ใช่การบริหารราชการแผ่นดิน อีกทั้งคณะกรรมการฯ ก็ไม่มีอำนาจสั่งการใดๆ รวมถึงรัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม หรือปลัดฯ ก็ไม่มีอำนาจในการสั่งให้คณะกรรมการฯ ชุดนี้กระทำการใดๆ เช่นกัน มีบทบาทเพียงให้ข้อมูลเพื่อให้การช่วยเหลือเข้าถึงจุดที่ยังขาดแคลนมากที่สุด เช่น รถเอ็กซ์เรย์เคลื่อนที่ควรไปตั้งที่จุดใดจึงจะเป็นประโยชน์ที่สุด หรือผู้ต้องขังเรือนจำใดจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาวัณโรค ซึ่งการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ไม่มีกรอบระยะเวลา
"สำหรับรายชื่อของคณะกรรมการฯ ชุดดังกล่าวไม่ทราบมีการเสนอรายชื่ออย่างไร ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้รับพระราชทานความช่วยเหลือเท่านั้น ที่ผ่านราชวงศ์ได้ทำโครงการความช่วยเหลือประชาชนชนผ่านกระทรวงยุติธรรมหลายเรื่อง ตั้งแต่รัชสมัยของในหลวง รัชกาลที่ 9 เช่น โครงการห้องสมุดพร้อมปัญญา ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ผู้ต้องขังได้อ่านหนังสือมากขึ้น และโครงการกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา" ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี