"จตุพร"แนะฝ่ายค้านโชว์ศักยภาพ กระชากโกง รบ.ไร้ประสิทธิภาพล้มเหลว แฉทำผิดกฎหมาย เชื่อจะปลุก ปชช.ลุกฮือ เปรยถ้าทำไม่ได้สภามีแต่หดหู่ สิ้นหวัง
เมื่อ 31 มกราคม 2564 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.กล่าวในรายการลมหายใจพีซทีวีเวทีทัศน์ ในหัวข้อ "ทางตัน" โดยระบุว่า ในแต่ละเรื่องราวก็ยังไปไม่ถึงไหนยังย่ำอยู่กับที่ เพียงแต่มีตัวละครและเรื่องราว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่ความเป็นจริงแล้วโดยสถานะรวมก็ยังเป็นการเมืองที่หาทางออกกันไม่เจอ
ดังนั้น เราต้องยอมรับความเป็นจริงว่า การบริหารประเทศภายใต้คณะรัฐประหาร แม้กระทั่งวันคืนอำนาจก็คืนไม่ครบ เป็นประชาธิปไตยครึ่งเสี้ยว และท้ายที่สุดก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ประเทศนี้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆ ได้
อีกทั้ง กล่าวว่า ตนเคยได้อธิบายไว้ว่า หลักใหญ่ปัญหาของประเทศนี้ยังย่ำอยู่กับที่ ปัญหาความเหลื่อมล้ำตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ยิ่งมีช่องว่างห่างกันมากตามลำดับ เพราะทุนผูกขาดของประเทศนั้น ไม่ว่าบ้านเมืองจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญจะเป็นเช่นไร ทุนผูกขาดก็ยังอยู่ยั้งยืนยง เหล่านี้คือภาพรวม
ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนนั้น ตนได้อธิบายหลายครั้งว่า หลักคิดต่างๆ ทั้งเรื่อง มาตรการการเยียวยา ที่เต็มไปด้วยปัญหา และข้อครหา เพราะสุดท้าย คนที่ยากจนจริงๆ จะเสียโอกาสเหมือนกับหลายครั้งที่ผ่านมา ทฤษฎีเรื่องโครงการคนละครึ่ง เป็นทฤษฎีมือใครยาวสาวได้สาวเอา เป็นทฤษฎีของการแก่งแย่ง ซึ่งไม่ได้สร้างอะไรที่เป็นผลดีให้กับประเทศนี้และกลายเป็นว่าทุกคนจะอยู่ได้ด้วยการแก่งแย่งเท่านั้น ทั้งที่ หน้าที่ของรัฐคือการสร้างความเสมอภาค ไม่ใช่การชิงโชค หรือการแก่งแย่ง
ดังนั้น ท่ามกลางการบริหารที่ล้มเหลวทุกด้าน แล้วทำให้ประชาชนไปชุลมุนกับปัญหาของการรักษาชีวิตภายใต้เศรษฐกิจแบบนี้ ตนเห็นว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามจะทำทุกเรื่องให้เป็นปัญหาทั้งหมด เพราะหากทุกเรื่องเป็นไปด้วยวิธีการตามปกติก็จะไม่เป็นปัญหา และประชาชนเองก็ไม่ต้องกระตือรือร้น มุ่งไปหาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนคนในชาติพึงจะได้รับ
อีกอย่าง การทำให้ทุกเรื่องเป็นเรื่องยากเสียทั้งหมด แต่ละโครงการกว่าจะได้มา เป็นเสมือนการมุ่งให้ประชาชนแย่งชิง เอาตัวให้รอด มากกว่ามุ่งที่จะไปสนใจรัฐบาลว่า บริหารประเทศ มีการทุจริตคอรัปชั่น ล้มเหลวผิดพลาดใดๆ หรือไม่นั้น
ความสนใจในส่วนนี้ก็จะจางหายไปตามลำดับ ชีวิตก็หมุนวน ไม่มีเวลาคิดถึงความเหลื่อมล้ำ ความอยุติธรรมทั้งปวง ซึ่งตนเคยเปรียบเปรยเรื่องนี้ว่า เหมือนกับการสร้างกำแพงเมืองจีน วันๆไม่ต้องคิดอะไร คิดแต่การหาก้อนหินที่จะสร้างกำแพง คิดแต่การใช้แรงแต่ละวัน
สภาพคนไทย ณ ปัจจุบันนี้ก็ไม่มีอะไรแตกต่าง เราก็อยู่ท่ามกลางวังวนอย่างนี้ ยิ่งโครงการเบี้ยผู้สูงอายุ แทนที่รัฐบาลจะแก้ไขได้ในวันเดียว แต่กลับลากเรื่องนี้ให้ประชาชนไปมุ่งเน้นสนใจ เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นเรื่องที่มีการจัดการแทบทั้งสิ้น
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางรัฐบาลในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ ตนเคยอธิบายไว้ว่าการอภิปรายครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และรัฐบาลจะยกเรื่องที่เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสถาบันเป็นประเด็นหลักจนกระทั่งฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปราย การทุจริต การล้มเหลว ความผิดพลาดและการทำผิดกฎหมายของรัฐบาลได้ และหากมีการยื่นให้ตีความญัตติ ก็จะเลยสมัยประชุม หรือยินยอมให้อภิปรายก็เสนอใช้วิธีการประชุมลับ หรือจะประท้วงจนกระทั่งอภิปรายไม่ได้
ดังนั้น ภาพความหดหู่ในเวทีรัฐสภา ก็จะเต็มไปด้วยเวทีแห่งการสิ้นหวัง และตนก็เห็นว่า หากฝ่ายค้านต้องการจัดการกับรัฐบาลอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เป้าหมายของการอภิปรายไม่ไว้วางใจคือการล้มรัฐบาล ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดคือการกระชาก เรื่องการทุจริตคอรัปชั่นอย่างไร ไร้ประสิทธิภาพอย่างไร แล้วให้ประชาชนทำความเข้าใจ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับศักยภาพของฝ่ายค้าน
นายจตุพร กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองในประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า ที่เพิ่งได้ประชาธิปไตยมาไม่นาน หลังจากเผด็จการครองประเทศยาวนานกว่า 50 ปี แต่สุดท้าย สถานการณ์ทางการเมืองหลังจากนางอองซานซูจี แม้จะถูกล็อคด้วยรัฐธรรมนูญไม่สามารถขึ้นเป็นประธานาธิบดีได้ เพราะมีสามีเป็นคนต่างชาตินั้น
ไม่ว่า นางอองซานซูจี จะอยู่ในสถานะตำแหน่งทางการเมืองอย่างไรก็ตาม คนทั้งโลกก็เคารพนับถือ อองซานซูจี เหมือนกับเป็นผู้นำประเทศพม่าโดยปริยาย แม้ในทางนิติศาสตร์ไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ แต่ในทางรัฐศาสตร์ ทุกประเทศก็เคารพฐานะเช่นผู้นำ มากกว่าคนที่อยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดี
แต่การเมืองระดับโลกอย่างกรณีรัฐยะไข่นั้น ทำให้สถานะนักต่อสู้ เพื่อสิทธิเสรีภาพ เพื่ออิสรภาพ ของอองซานซูจีลดน้อยลงในเวทีโลก แต่ในประเทศพม่า การเลือกตั้งครั้งที่ 2 ก็ยังได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย ท่ามกลางกระแสที่กองทัพระบุถึงการโกงเลือกตั้ง ดังนั้นกลิ่นไอของรัฐประหารในประเทศพม่าก็ดังกระหึ่ม บรรดานานาชาติต่างก็แสดงความวิตก ถึงสถานะของประเทศพม่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เราจะต้องติดตามกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี