“วิษณุ “ย้ำ ศาลรธน.ชี้ชัดแล้ว ปมบ้านพักหลวง “บิ๊กตู่” แย้ม เอกชนแบะท่าพร้อมคุยค่าโง่โฮปเวลล์
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา10.00น.ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ กรณีฝ่ายค้านอยากให้รัฐบาลชี้แจงเรื่องบ้านพักหลวงและเหมืองทองอัคราเพิ่มเติมว่า ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงเพิ่มเติม
เมื่อถามถึงข้อมูลที่ฝ่ายค้านเอามาอภิปราย กรณีค่าน้ำ ค่าไฟ บ้านพักหลวง เป็นข้อมูลเก่าหรือใหม่ว่า ทั้งหมดปรากฏชัดอยู่ในคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ค่าน้ำค่าไฟเป็นส่วนหนึ่งของบ้านหลวง เขาให้อยู่โดยไม่เก็บเงินก็จะรวมเข้าไปตรงนั้น เรื่องนี้มีระเบียบกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักอาศัยในบ้านพักรับรองกองทัพบก และระเบียบว่าด้วยเรื่องค่าน้ำค่าไฟซึ่งบ้านหลวง หลวงจะเป็นผู้ออกให้
ส่วนกรณีคำพิพากษาศาลฎีกา ที่นางอมรรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ยกขึ้นมาอภิปราย มีอยู่จริงแต่เป็นเรื่องของการเช่าบ้านเอกชน ซึ่งเอกชนได้รับสิทธิในการเช่าบ้านและเบิกเงิน ฉะนั้นค่าน้ำค่าไฟก็เป็นเรื่องของเขาเอง ถ้าใช้น้ำไฟหลวงก็ต้องจ่ายเป็นภาษี เอามาเทียบเคียงกันไม่ได้ เพราะนี่เป็นบ้านหลวง ส่วนที่บอกว่า อยู่บ้าน แล้วต้องเอาเงินนั้นพร้อมคิดว่า ต้องได้ประโยชน์แทนเงินเท่าไหร่แล้วเงินนั้นต้องเอามาเสียนั้นไม่ใช่ เพราะมีประมวลรัษฎากรระบุเอาไว้ชัดว่า ไม่ต้องเสีย เหมือนกับกรณีที่ข้าราชการได้อยู่บ้านหลวง เช่น แฟลตตำรวจหรือข้าราชการที่ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด เช่น ผู้พิพากษา จะต้องมีสิทธิได้รับบ้าน แต่บ้านไม่มีก็ได้รับเป็นเงินค่าเช่าบ้านแทน ซึ่งเงินส่วนนี้ก็ได้รับข้อยกเว้นไม่เสียภาษีแต่น้ำไฟเขาต้องออกเอง มันคนละเรื่องกัน
เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้าน ระบุเป็นความผิดของรัฐบาลที่เอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกเพื่อให้ บริษัท คิงส์เกต ถอนฟ้องรัฐบาล นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการเจรจา จะพูดอะไรไปมากกว่านี้คงไม่ได้ เพราะการเจรจายังไม่จบ ส่วนเหตุผลที่ต้องเจรจา เนื่องจากเรื่องนี้อนุญาโตตุลาการมีคำแนะนำตั้งแต่เดือน ก.พ. 2563 ว่าให้ทั้งสองฝ่ายไปเจรจา จากนั้น บริษัทคิงส์เกตได้ยื่นหนังสือมาขอเจรจาและการเจรจาเดินหน้าไปด้วยดี ดังนั้นคำวินิจฉัยใดที่ออกมาว่าใครชนะใครแพ้จะต้องจ่ายเงินกี่บาท กี่พัน กี่หมื่น กี่แสน ที่ออกมาจึงเป็นเฟคนิวส์ เพราะบาทเดียวยังไม่เสีย แต่ยอมรับว่า ค่าทนายต่างคนต่างเสีย ส่วนผลเจรจาจะเป็นอย่างไรต้องมารายงานให้รัฐบาลทราบ และอนุญาโตตุลาการทราบ แต่เวลานี้ยังไม่มีการรายงาน เพราะยังอยู่ในขั้นตอนเหล่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะนำไปสู่การฟ้องร้องรัฐบาลที่ทำให้เกิดการเสียหายตามที่ฝ่ายค้านอ้างหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่เกิดความเสียหาย ยกตัวอย่างเหมือนกรณี โฮปเวลล์ ต้องขออธิบายซ้ำ เพราะอาจฟังไม่ทันหรือไม่เข้าใจเพราะไม่มีกฎหมายในมือ จึงขออธิบายว่า ตามพ.ร.บ.การรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มี 2 มาตรา คือมาตรา 9 มีอายุความ 1 ปี มาตรา 10 มีอายุความ 2 ปี ถ้าพูดถึงอายุความ 1 ปีก็ขาดไปแล้ว ถ้าอายุความ 2 ปีจะครบเดือนเม.ย.นี้ แต่ในความเป็นจริงไม่เป็นอย่างนั้น เพราะกรณีละเมิดอาจเป็นการไล่เบี้ย สมมุติ เจ้าหน้าที่ของรัฐไปทำละเมิด แล้วคนฟ้องเจ้าหน้าที่ หรือฟ้องรัฐ รัฐก็จ่ายไปจากนั้นรัฐต้องไปไล่เบี้ยจากต้นเหตุ
"ตรงนี้ใช้มาตรา 9 มีอายุความ 1 ปี นับตั้งแต่ที่จ่ายเงิน แต่กรณีนี้ยังไม่ได้จ่ายแล้วจะไล่เบี้ยอย่างไร ส่วนมาตรา 10 ที่มีอายุความ 2 ปี หมายความถึงตัวเจ้าหน้าที่ทำละเมิดรัฐเอง เช่น คนของหลวงเอารถหลวงไปใช่ แล้วไปชน ถือว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐทำละเมิดต่อรัฐ รัฐต้องฟ้องเจ้าหน้าที่ซึ่งปัญหาโฮปเวลล์ อยู่ที่มาตรา 9 รัฐยังไม่ได้จ่ายเงิน อายุความจึงยังไม่เริ่มนับที่ไปไล่เบี้ย แต่ยอมรับที่จ่ายช้าเป็นความเสียหาย เพราะศาลและอนุญาโตตุลาการตัดสินแล้ว มีค่าดอกเบี้ยเดินวันละ 2 ล้านบาท และในขณะที่เราคุยกันอยู่ แต่กระทรวงคมนาคมเห็นว่ายังไม่สมควรจ่ายและมีการตั้งกรรมการสอบเอาไว้ก่อนเพราะถึงเวลาอยากจะจ่ายเพื่อประหยัดดอกเบี้ย อายุความจะเดินทันทีถ้าไม่สอบสวนไว้ก่อนอาจไม่ทันเป็นเรื่องที่ถูกแล้วทั้งหมดมีเท่านี้" นายวิษณุ กล่าว
เมื่อถามว่า รัฐบาลเดินมาถูกทางและทำดีที่สุดแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถามก็ต้องตอบอย่างนั้น จะไปบอกว่าทำไม่ถูกได้อย่างไร เมื่อถามว่าการฟ้องร้องของกระทรวงคมนาคมอาจต้องยืดเวลาออกไป และจะมีความเสียหายทางดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็คิดว่าเผื่อจะชนะ ถ้าชนะก็ไม่ต้องจ่ายทั้งต้นทั้งดอก แต่เวลานี้อนุญาโตตุลาการตัดสินว่าผิด ศาลปกครองก็ตัดสินว่าผิดโดยหลักก็สมควรต้องจ่าย แต่เมื่อกระทรวงคมนาคม คิดว่ามีช่องทางไปศาลรัฐธรรมนูญ ตนก็ไม่ทราบ ต้องว่าไปเป็นเรื่องของเขา แต่สุดท้ายแล้วไปกี่ศาลต่อกี่ศาลยังแพ้ ดอกเบี้ยก็เดินไปตลอด แต่สมมติไปถึงจุดหนึ่งเลิกไม่มีคดีและรัฐพร้อมเจรจาก็คงเจรจากันได้ ดังนั้นมาคุยกัน กำขี้ดีกว่ากำตดดีหรือไม่ เชื่อเขาคุยกันได้ และทางบริษัทเขาก็แบะท่าว่าพร้อมจะคุย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี