8แกนนำกปปส.นอนคุกต่อ
ยังไม่ได้ประกันตัว
รอลุ้นคำสั่งศาล26ก.พ.นี้
บิ๊กตู่ย้ำปรับคณะรัฐมนตรี
ต้องทำให้เร็วและดีที่สุด
‘บิ๊กป้อม’ริบโควตากปปส.
ปชป.โดดขวางห้ามหั่นเก้าอี้
ฝุ่นยังตลบ!หลังรัฐมนตรีกปปส.ตกเก้าอี้ ในคดีโค่นรัฐบาลยิ่งลักษณ์“บิ๊กตู่” ส่งสัญญาณให้ พรรคร่วมรัฐบาลหารือปรับครม.ปรับแค่3 ตำแหน่ง หรือปรับใหญ่ขอคิดอีกทียันไม่มีแรงกดดัน ย้ำต้องทำให้เร็วและดีที่สุด “บิ๊กป้อม” ประกาศชัดไม่มีแล้วโควตา กปปส.แต่ต้องเป็นของพปชร.พร้อมทั้งส่งสัญญาณถึงพรรคร่วมใช้ข้อตกลงเดิม ในขณะที่’ปชป.’ออกมาดักคออย่าหั่นเก้าอี้รัฐมนตรี ส่ง’เสี่ยต่อ’เคลียร์’เสี่ยหนู’ภูมิใจไทยถึงกระทรวงฯ
เมื่อเช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายหลังศาลฎีกาตัดสินคดีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และทำให้ 3 รัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่ง ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการหารือกับนายกรัฐมนตรีในเรื่องดังกล่าว ซึ่งการปรับ ครม.ก็ต้องปรับ แต่จะปรับอย่างไรอยู่ที่นายกฯ
ริบเก้าอี้รมต.โควต้ากปปส.
เมื่อถามถึงเก้าอี้รัฐมนตรีของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เป็นโควตาของ กปปส. ทาง พล.อ.ประวิตร กล่าวสวนทันทีว่า “โควต้า กปปส.ที่ไหน เป็นโควตาของพรรคพลังประชารัฐ เขาอยู่พรรคพปชร.”
เมื่อถามว่าอย่างนี้แสดงว่าเอาใครมาแทนก็ได้ ถ้าคนนั้นมีความเหมาะสมใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า อยู่ที่ที่ประชุมพรรค พปชร.และแล้วแต่นายกฯ
เมื่อถามต่อว่าครั้งนี้จะมีการสลับโควตากันหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “แล้วแต่คุณ จะสลับใครก็สลับเอาเอง”เมื่อถามอีกว่ารัฐมนตรีช่วยฯ จะมีโอกาสได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการฯ หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว
ยึดโควต้าเดิมจัดตั้งรัฐบาล
พล.อ.ประวิตร ยังให้ ให้สัมภาษณ์กรณี ส.ส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) วอล์กเอาท์ในการประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ หลัง ส.ส.พรรค พปชร.เลื่อนร่าง พรบ.ตำรวจแห่งชาติและร่าง พรบ.ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม มาพิจารณาก่อนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ2 ว่า เป็นเรื่องของเขา ตนจะไปรู้ได้อย่างไร เมื่อถามว่า หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นเกมของพรรค ภท.เพื่อตอบโต้และเอาคืนกรณี ส.ส.พรรค พปชร.ไม่โหวตไว้วาง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการภท.พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เอาคืนอย่างไร ตนทำอะไรผิด ที่จะเอาคืน ส่วนเรื่องการไม่โหวตของลูกพรรค ก็เป็นเรื่องของลูกพรรค
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องประสานงานเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเรื่องของพรรค ภท.ส่วนตัวคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าพรรคภท.เรียบร้อยดี ไม่มีอะไร บรรยากาศการทำงานของพรรคร่วมยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรคาใจ เพราะเป็นเรื่องของลูกพรรค
โควตาพรรคร่วมรบ.ไม่เปลี่ยน
เมื่อถามถึงการเสนอชื่อบุคคลขึ้นดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่างลง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ต้องห่วงเป็นเรื่องของนายกฯ เมื่อถามว่า ทางพรรคพปชร. จะเสนอใครมาแทน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “จะไปรู้เหรอ ต้องไปถามนายกฯ” เมื่อถามย้ำว่า ทางพรรคพปชร. จะเสนอชื่อมา หรือให้นายกฯ คัดเลือกเอง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้นายกฯ เลือกเอา ตนให้สิทธินายกฯ เพราะเป็นคนทำงาน
เมื่อถามว่า กลุ่ม 3รัฐมนตรีช่วย หรือ3ช.มีโอกาสขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการหรือไม่ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามนายกรัฐมนตรี ตนจะไม่เสนอใครทั้งนั้น และยืนยันว่าโควต้าพรรคร่วมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เป็นไปตามที่คุยกันตั้งแต่ตั้งรัฐบาล
ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะมีการย้ายกระทรวงหรือไม่ว่า “ไม่มีๆ อยู่ที่นายกฯจะตัดสินใจ แต่ตรงนี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว”เมื่อถามว่า การปรับครม.ครั้งนี้จะกระทบถึงกระทรวงแรงงานหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอให้รอก่อน เมื่อถามอีกว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีการพูดคุยกับแกนนำพรรคบ้างหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย ตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันอยู่
สามมิตรเปิดป้องเลี้ยงข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเสร็จสิ้น นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ได้เดินลงมาส่ง พล.อ.ประวิตร ขึ้นรถยนต์เพื่อออกจากทำเนียบฯ จากนั้นได้เดินย้อนกลับขึ้นไปยังห้องทำงานของนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับนายอนุชา และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม โดยใช้เวลาประมาณ 30นาที ต่อมา นายสุชาติ กล่าวภายหลังรับประทานอาหารว่า ในระหว่างรับประทานอาหารมีการแสดงความเป็นห่วงเพื่อนรัฐมนตรีทั้ง 2 คนคือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ส่วนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไม่ขอให้ความเห็น เพราะขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่
จากนั้นเวลา 12.45 น. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าเรื่องการปรับครม. พปชร. ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน จะเป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรค พปชร.จะปรึกษาหารือกับนายกรัฐมนตรี ส่วนรายละเอียดขั้นตอนจะเป็นอย่างไรตนไม่สามารถระบุได้
เชื่อหัวหน้าพรรคคงต้องเหนื่อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลทำงานมาปีกว่า เพิ่งผ่านช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วมีอุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้น การปรับ ครม.ครั้งนี้ควรเป็นการปรับใหญ่เลยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ที่กระทบมีแค่ 2 พรรคการเมืองคือ พปชร. กับพรรคประชาธิปัตย์ แต่ละพรรคก็ต้องหาคนมาทดแทน เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าพรรคภูมิใจไทยก็อยากปรับ ครม. นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ตนไม่สามารถไปพูดถึงพรรคอื่น
เมื่อถามว่า การปรับ ครม.รอบนี้จะมีการสลับกระทรวงระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้พิจารณา เชื่อว่าหัวหน้าพรรคคงต้องเหนื่อย เมื่อถามว่า ในส่วนของกลุ่มสามมิตรจะมีการเสนอตัวขอเปลี่ยนกระทรวงหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี และส่วนตัวไม่มีความประสงค์จะไปตรงไหน นอกจากนี้ เชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาภายในของพรรค พปชร. และไม่มีใครวิ่งอะไร
เมื่อถามว่า มีข่าวว่ามีรัฐมนตรีช่วยว่าการบางคนอยากเป็นรัฐมนตรีว่าการ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ข่าว ขอให้ฟังหัวหน้าพรรคที่จะเป็นคนชี้ให้ ไม่มีปัญหา เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ข่าวก็เป็นเรื่องของข่าว ยืนยันพรรคเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเชื่อว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะลงตัว เมื่อถามย้ำว่า โดยมารยาทการปรับ ครม.เป็นเรื่องของหัวหน้าพรรคกับนายกฯใช่หรือไม่ คนอื่นไม่ควรมาวิ่งเต้นใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถูกต้อง
จุรินทร์ขอให้ยึดโควต้าเดิม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)กล่าวกรณีที่ นายถาวร เสนเนียม ต้องพ้นเก้าอี้รมช.คมนาคมใน โควต้าปชป.ว่า นายกฯยังไม่ได้ส่งสัญญาณปรับ ครม. และยืนยันว่า ไม่กังวลหลังมีกระแสข่าวว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคต้องการขอโควต้ารัฐมนตรีเพิ่มมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งตามหลักการควรจะจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีเท่าเดิม เหมือนตอนที่ขอร่วมรัฐบาล แต่หลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ไม่สามารถตอบล่วงหน้าได้ เพราะนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณาเรื่องสัดส่วนของแต่ละพรรคเอง และตนเองไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตัดสินใจได้
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า พรรคยังไม่ได้วางแนวทางว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค ส่วนโควต้า จะมอบให้กลุ่ม ส.ส. ภาคใดนั้น ยังไม่ขอตอบในรายละเอียด เพราะพรรคมีกระบวนการพิจารณาอยู่แล้ว โดยจะพิจารณาในที่ประชุมร่วม ส.ส.และ กรรมการบริหาร ของพรรค
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ตอบคำถามถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)จำเป็นต้องยึดเก้าอี้โควตาเดิมหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า จำนวนเสียงของพรรคภูมิใจไทยมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ต้องมาดูกันว่ามากอย่างไร ใช้ตัวเลขอะไรเป็นตัวฐานคำนวณ
เมื่อถามต่อว่า ไม่น่าจะนำเสียงของพรรคอื่นมารวมใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ต้องมาดูเสียงว่าเป็นอย่างไร ตนคิดว่าต้องพูดคุยกัน
เมื่อถามย้ำว่า จะกลายเป็นปัญหาของรัฐบาลหรือไม่หากมีการปรับครม.และต้องมาเกลี่ยตำแหน่งกันใหม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ต้องมาพูดคุยกันว่าเดิมเราคุยกันไว้อย่างไร และถ้าจะเปลี่ยนมีเหตุผลอะไรในการเปลี่ยน ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องมาพูดคุยกัน การเมืองต้องพูดคุย
เมื่อถามต่อว่า หากมีการยึดเก้าอี้ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์คืนไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า “ผมยังไม่บอกว่า ไม่มีปัญหาอะไร ต้องไปดูว่าเดิมคุยกันอย่างไร ฐานเสียงเดิมเป็นอย่างไร”
บอกทุกอย่างต้องมีเหตุผล
เมื่อถามว่าอีกว่า แสดงว่าให้ยึดคำพูดเดิมที่เคยตกลงกันไว้ใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ควรเป็นอย่างนั้น ตนเพิ่งทราบว่าจะมีเรื่องการปรับเกลี่ยโควตากัน ถ้ามีการเปลี่ยนเกลี่ยกันใหม่ต้องดูเหตุผลรับได้หรือไม่ ส่วนจะต้องพูดคุยกันในพรรคก่อนที่จะพูดคุยกับนายกฯก่อนหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ต้องรับสัญญาณก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ในฐานะที่มีรัฐมนตรีของพรรคอยู่ด้วยในกรณีนี้ พรรคก็ต้องเตรียมและพูดคุย ส่วนหากมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของนายนิพนธ์เองก็พร้อมใช่หรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าวว่า ก็ต้องว่ากันตามมติพรรค พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีใครพูดได้คนเดียวต้องดูมติพรรคเป็นอย่างไร
เมื่อถามอีกว่า ในช่วงเวลานี้คิดว่าจะปรับครม.แค่ตำแหน่งที่ว่างหรือควรจะดูให้ครอบคลุมทั้งหมด นายนิพนธ์ กล่าวว่า แล้วแต่นายกฯ เพราะอำนาจในการปรับครม.อยู่ที่นายกฯคนเดียว ส่วนมีการมองกันไปไกลว่าควรมีการยุบสภาฯและเลือกตั้งใหม่ คิดว่าเหตุผลนี้จำเป็นหรือไม่ นายนิพนธ์ กล่าว ตนยังไม่มีความเห็นเรื่องนี้ เพราะตนคิดว่าไม่ใช่ข้อขัดแย้งระหว่างสภาฯกับรัฐบาล.
เสี่ยต่อดอดพบเสี่ยหนู
วันเดียวกันที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขา ปชป. ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียน และพบปะพูดคุยกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้า พรรคภูมิใจไทยท่ามกลางกระแสปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในเร็วๆนี้ หลัง 3 รัฐมนตรี กปปส.พ้นจากตำแหน่ง
‘บิ๊กตู่’ยันไม่ได้กดดันอะไร
บ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับครม. ว่า สำหรับพรรคพลังประชารัฐต้องเสนอชื่อขึ้นมา เบื้องต้นต้องปรับ ครม. 3 ตำแหน่ง แต่ต้องแต่งตั้ง รัฐมนตรีที่จะมารักษาการเพื่อการประชุมครม.สัปดาห์หน้า จากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลต้องหารือกัน มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะทำอย่างไรกับตำแหน่งที่ว่าง
“แล้วค่อยเสนอมาให้ผมพิจารณาอีกครั้งว่าจะใครดำรงตำแหน่งไหน ทุกอย่างมีขั้นตอน ไม่ใช่จะรวดเร็วภายในวันนี้ พรุ่งนี้ แต่ก็ต้องเร็วสุด เพราะการบริหารงานต้องมีผู้รับผิดชอบโดยตรง ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด การปรับครม.ครั้งนี้กำลังพิจารณาว่าจะปรับเฉพาะตำแหน่งที่ว่างหรือปรับใหญ่ ส่วนกรอบเวลา ผมได้แจ้งไปยังพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่เป็นแกนนำรัฐบาลหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมตามสัดส่วนที่มีอยู่ ส่วนจะปรับเพิ่มหรือสลับตำแหน่งต้องดูอีกที เพราะบางตำแหน่งยังทำงานไม่ถึงปี ไม่มีแรงกดดันใด ๆ อยู่ที่ผมตัดสินใจ ส่วนปัญหาพรรคร่วมรัฐบาล อย่ามองว่าเป็นปัญหา แต่เป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีลักษณะเช่นนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สุดท้ายปัญหาการเมืองก็ต้องพูดคุยให้รู้เรื่อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเมินผลงานของรัฐมนตรีอยู่แล้ว ซึ่งมีผลงานดีทุกคน เมื่อมีข้อบกพร่องก็ต้องแก้ไข
ส่วนที่ประเมินกันว่ารัฐมนตรีสอบตกหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวย้อนว่า “คนที่ถามนั่นแหละสอบตก”
เยี่ยม8แกนนำกปปส.ในเรือนจำ
ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทนายความ กลุ่มญาติ ของอดีตแกนนำและแนวร่วมกลุ่ม กปปส.ทยอยเข้าเยี่ยมผู้ที่ถูกตัดสินโทษคดีการชุมนุมและบุกรุกสถานที่ราชการของกลุ่ม กปปส.ประกอบด้วยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายถาวร เสนเนียม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายอิสสระ สมชัย นายชุมพล จุลใส นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ และ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์
นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ อดีตแกนนำ กปปส.กล่าวว่า ขณะนี้ทุกคนยังมีกำลังใจดี เข้าใจ และยอมรับกระบวนการยุติธรรม ทุกคนสามารถอยู่ได้สบายเหมือนคนทั่วไป แม้มีโรคประจำตัวหมดแต่ก็มีการรักษาตามกระบวนการ ส่วนความคืบหน้าทางคดี วันนี้รอศาลอุทธรณ์พิจารณาให้ประกันตัว คาดว่าตอนนี้สำนวน คำร้องถูกส่งไปยังศาลอุทธรณ์แล้ว ซึ่งหลังจากนี้ต้องรอศาลพิจารณาว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่
กักตัว8แกนนำกปปส.14วัน
ด้านนายกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงมาตรการดูแลแกนนำ กปปส.ทั้ง 8 คนว่า มีการดำเนินการตามมาตรการปกติเช่นเดียวกับผู้ได้รับโทษรายอื่นๆ โดยเริ่มจากการซักประวัติและตรวจร่างกาย ซึ่งตามรายงานพบว่า นายสุเทพ , นายอิสสระ และนายสุวิทย์ มีโรคประจำตัว เช่น ความดัน, เบาหวาน แต่ละคนมียารักษาโรคติดตัวมาด้วย ส่วนอดีตพระพุทธะอิสระ มีโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจระหว่างหลับ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตอนนอน ก็ได้นำเครื่องช่วยหายใจมาด้วย
หลังการทำประวัติเสร็จแล้ว ก็ได้ให้ทั้งหมดไปอยู่ที่แดน 2 ซึ่งกำหนดไว้เป็นสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการ ตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 เป็นเวลา 14 วัน พร้อมซักประวัติเพิ่มเติมและให้อยู่ในห้องเดียวกันทั้งหมด เพื่อช่วยลดความเครียดจากการถูกควบคุมตัวในวันแรก
เรียกสอบโจ้พาดพิงกองทัพเรือ
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการตัดสินคดีกปปส.ส่งผลให้สส.หลายคนต้องพ้นจากตำแหน่งว่า ขั้นตอนหลังจากนี้อยู่ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ทั้งยังระบุ ตนได้รับหนังสือจากผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่ขอตัว สส.ไปสอบสวน 2คน หนึ่งนั่นนั่น คือ น.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี พปชร. ไปดำเนินคดีกรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแล้ว ซึ่งช่วงระหว่างนี้ใกล้ปิดสมัยประชุมแล้วจึงบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมไม่ทัน แต่หลังจากนี้ เมื่อปิดสมัยประชุมแล้ว สส.จะไม่มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ตำรวจสามารถเรียกไปสอบสวนได้โดยไม่ต้องขออนุญาตสภา
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับส.ส. อีก 1 รายที่จะถูกเรียกตัวไปสอบสวนนั้น คือนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.มักกะสัน ได้ทำหนังสือมายังนายชวน เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปิดสมัยประชุมสภา และรายละเอียดการอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องดำน้ำ เพราะถือเป็นการหมิ่นประมาทกองทัพเรือ
ถกคุณสมบัติผู้สมัครสสร.
วันเดียวกันในการประชุมรัฐสภา พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม ในวาระที่ 2 เรียงรายมาตราต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยหลังเห็นชอบให้สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) จำนวน 200 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนแล้ว ได้อภิปรายเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็น ส.ส.ร
โดยสมาชิกรัฐสภาที่สงวนคำแปรญัตติ เช่น ส.ส.ฝ่ายค้าน ส่วนใหญ่ได้อภิปรายถึงคุณสมบัติของบุคคลที่จะเป็น ส.ส.ร. ว่าไม่ควรเป็นบุคคลซึ่งมีลักษณะต้องห้ามไม่ให้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส., เป็นข้าราชการการเมือง, เป็น ส.ส. และ ส.ว. หรือรัฐมนตรี ที่สำคัญไม่ควรเป็นบุคคลที่มาจากแม่น้ำ 5 สาย เช่น เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาตามรัฐธรรมนูญนี้, เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2557, เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ และเคยดำรงตำแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากไม่ต้องการให้มีการสืบทอดอำนาจ
ขณะที่ น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายกรณีการห้ามไม่ให้พระภิกษุสามเณรมีส่วนร่วมในการเป็น ส.ส.ร.เนื่องจากเห็นว่า การร่างรัฐธรรมนูญจะต้องให้สิทธิทุกคนได้แสดงความเห็นอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากกลไกของรัฐต้องเข้าไปดูแลคณะสงฆ์ อีกทั้งยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับเดียวกันที่สุดแล้วที่ประชุมมีมติเห็นชอบในมาตรา 256/3 ตามที่คณะกรรมาธิการมีการแก้ไข ด้วยคะแนนเสียง539 ไม่เห็นด้วย 50 เสียง งดออกเสียง 17 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง ขณะเดียวกัน ยังมีมติเห็นชอบกับคณะกรรมาธิการที่มีการตัดมาตรา 256/4 เท่ากับไม่ห้ามคนจากแม่น้ำ 5 สาย เป็น ส.ส.ร. แต่ยังคงห้ามพระภิกษุสงฆ์
ยังไม่มีคำสั่งให้ประกันตัวกปปส.
เวลา 16.40 น. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งของศาลอุทธรณ์ลงมายังศาลอาญา โดยตนจะยังรออยู่ที่ศาลต่อจนกว่าทางศาลอาญาจะเเจ้งว่ามีคำสั่งศาลอุทธรณ์ตกลงมาในวันนี้หรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานตามขั้นตอน ภายหลังหมดเวลาทำการเเล้ว หากคำสั่งศาลอุทธรณ์ยังไม่ลงมา ก็จะต้องรอฟังคำสั่งอีกครั้งในที่ 26กุมภาพันธ์ ว่า จะมีคำสั่งศาลอุทธรณ์ส่งมายังศาลอาญาอีกหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี