“2 กลุ่ม พปชร.” วิ่งกันฝุ่นตลบ “สรวุฒิ-บุญยิ่ง” ชื่อโผล่ชิงดำรมต.สัดส่วน “กลุ่มสามมิตร” ส่วน “กลุ่ม 3 ช.” ส่ง “ชัยวุฒิ-ไผ่ ลิกค์” แข่ง ขณะพรรคร่วมรัฐบาล “ภูมิใจไทย” สงวนท่าที “ประชาธิปัตย์” ขอยึดสัดส่วนโควตา 7 ต่อ 1

28 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) “ประยุทธ์ 2/3” หลังเก้าอี้ว่างลง 3 ตำแหน่ง ว่า ในส่วยนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ในวันที่ 2 มีนาคม 2564 ที่จะมีการเสนอรายชื่อให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พิจารณา ก่อนนำชื่อส่งพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม ตัดสินใจ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในพรรค พปชร. มีความเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก โดยที่ทั้ง “กลุ่มสามมิตร” และ “กลุ่ม 3 ช.” พยายามวิ่งผลักดันคนในกลุ่มของตัวเอง ล่าสุด “กลุ่มสามมิตร” ได้ผลักดันนายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี และนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี ให้พรรคพิจารณาในการประชุม กก.บห. ในวันที่ 2 มีนาคม 2564

ขณะที่ “กลุ่ม 3 ช.” ก็พยายามผลักดันนายชัยุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร เสนอให้ที่ประชุม กก.บห.ได้พิจารณาเช่นกัน  

ส่วน “ส.ส.ภาคใต้” ของพรรค ที่มี ส.ส.อยู่ 13 คน ก็ต้องการโควตารัฐมนตรีเช่นกัน แต่อาจจะยาก เนื่องจาก 13 ส.ส.ในภาคใต้ยังขาดเอกภาพ ต่างคนต่างเสนอตัวเองขึ้นมาเป็น จึงอาจทำให้เสียเปรียบกลุ่มอื่นๆ  

ทั้งนี้ ทั้ง 2 กลุ่ม คือ “กลุ่มสามมิตร” และ “กลุ่ม 3 ช.” จะมีการเสนอรายชื่อคนในกลุ่มตัวเอง ให้ พล.อ.ประวิตร พิจารณา ก่อนนำรายชื่อส่ง พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจต่อไป

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง “พรรคภูมิใจไทย” (ภท.) และ “พรรคประชาธิปัตย์” (ปชป.) ยังคงสงวนท่าทีอยู่ โดยกำลังรอการส่งสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีในการปรับ ครม.ครั้งนี้ โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทยที่มองว่าน่าจะได้เพิ่มมาอีก 1 ตำแหน่ง เนื่องจากพรรคมีจำนวน ส.ส. เพิ่มมากขึ้นเป็น 61 เสียง ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ยังอยู่ที่ 51 เสียง ดังนั้นน่าจะนำสัดส่วน 1 ตำแหน่งที่ว่างลงของพรรคประชาธิปัตย์ จากนายถาวร เสนเนียม มาให้ภูมิใจไทยได้ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังคงยืนยันให้ยึดโควตาเดิมที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ร่วมรัฐบาลในครั้งแรกคือ 7 ต่อ 1

อย่างไรก็ตาม หากดูจำนวนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว ปรากฏว่า พรรคพลังประชารัฐ​ มี​ ส.ส.121 คน พรรคประชาธิปัตย์​ มี 51 คน แต่จากคดี กปปส.ทำให้นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร และนายอิสระ​ สมชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ ถูกตัดสิทธิ์ ส่วนกรณีของนายถาวร​ เสนเนียม​ ส.ส.สงขลา ยังรอความชัดเจน ขณะที่พรรคภูมิใจไทยมี​ 61​ เสียง​ ยังไม่นับรวม​ 4​ ส.ส.พรรคก้าวไกล