“พรรคกล้า” ปราศรัยเดือดหมดเวลาการเมืองยุคนายหัว ผู้แทนต้องเข้าถึงง่ายรับใช้ปชช.“กรณ์” ขอเลือกกาเบอร์ 1 “สราวุฒิ สุวรรณรัตน์" สร้างแรงกระเพื่อมการเมืองทั้งประเทศ
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 ช่วงค่ำพรรคกล้าจัดปราศรัยใหญ่ ที่สะพานโค้งร้อยปี อ.ชะอวด นครศรีธรรมราช ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งซ่อมวันอาทิตย์นี้ โดยมีแกนนำพรรคทั้งนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค , นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค , นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเบอร์ 1 นครศรีธรรมราช , กรรมการบริหารและสมาชิกพรรค และประชาชนในพื้นที่ 4 อำเภอ ทั้งชะอวด เฉลิมพระเกียรติ พระพรหม จุฬาภรณ์ เข้าร่วมฟังการปราศรัยเต็มพื้นที่สะพานโค้งร้อยปี
รูปแบบการปราศรัยใหญ่ พรรคกล้าต่างไปจากเวทีปราศรัยของพรรคการเมืองอื่นๆ มีการนำของดีจังหวัดนครศรีธรรมราชโชว์บนเวทีปราศรัย โดยนายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวปราศรัยว่า ไม่ใช่แค่เดินหน้าหาเสียงเพียงอย่างเดียวเหมือนที่พรรคการเมืองทั่วไปเคยทำมา แต่การเลือกตั้งครั้งซ่อมครั้งนี้อยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนและคนทั้งประเทศ พรรคกล้าจึงถือโอกาสนี้นำเสนอของดีนครศรีธรรมราชให้เป็นที่รู้จักทั่วประเทศ และเปิดโอกาสให้ประชาชนจาก 4 อำเภอ ขึ้นเวทีสะท้อนปัญหาในพื้นที่ที่ต้องการให้พรรคการเมืองแก้ไข จึงเป็นที่มาของการจัดเวทีปราศรัยแนวใหม่ที่พรรคการเมืองอื่นๆ ไม่ค่อยได้ทำ
นายกรณ์ กล่าวว่า ตนเองได้อยู่ในพื้นที่ต่อเนื่องเป็นสิบวัน ได้เรียนรู้วิถีชีวิต เข้าใจในความคาดหวัง ความเดือดร้อน และความช่วยเหลือที่ประชาชนต้องการจากพรรคการเมือง พร้อมย้ำว่า 10 กว่าปีที่ผ่านมา การเมืองมีแต่ความขัดแย้ง และมีผู้ได้ประโยชน์จากความขัดแย้งแต่ประชาชนไม่ได้เคยประโยชน์ พรรคกล้าจึงต้องการสร้างการเมืองสร้างสรรค์ เน้นการแก้ปัญหาปากท้อง และมองว่านครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ มีโอกาสมากมาย แต่ปัญหาคือขาดการใส่ใจ ขาดการบริหารจัดการ ขาดผู้นำที่มีวิสัยทัศน์และความจริงใจในการแก้ปัญหาและการพัฒนา
หัวหน้าพรรคกล้า กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ หากเลือกแบบเดิมก็ได้แบบเดิม แต่หากเลือกนายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ จะเป็น ส.ส.คนแรกและคนเดียว พรรคกล้าทั้งพรรคจะต้องทำงานเพื่อเขตนี้ และยังเป็นการส่งสัญญาณว่าชาวนครศรีธรรมราชต้องการการเมืองที่ดีขึ้น ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง และจะกระตุ้นให้พรรคการเมืองเก่าปรับตัว ทำงานเพื่อประชาชน เน้นการลงมือทำเหมือนพรรคกล้า สุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์ก็คือประชาชน
นายกรณ์ ยังกล่าวถึงการทำงาน 5 ด้านของพรรคกล้าคือ 1.เศรษฐกิจเพื่อคนตัวเล็ก ช่วยเรื่องการค้าขาย ให้ผู้ประกอบการรายเล็กอยู่ได้ อย่างการเข้าถึงการค้าออนไลน์ รวมถึงการพัฒนาแห่งท่องเที่ยวในพื้นที่ 2. ราคาสินค้าเกษตรที่เป็นธรรม โดยยกตัวอย่างลานประมูลยาง อ.ชะอวด มีการรวมตัวกันของชาวสวนยางให้พ่อค้าคนกลางมาประมูลยาง ทำให้ชาวสวนมีอำนาจต่อรองราคา 3. การศึกษา ครูต้องมีเวลากับนักเรียนให้มากขึ้น ไม่ใช่เสียเวลากับงานเอกสารหรือการทำวิทยฐานะ 4. เรื่องคุณภาพชีวิต ที่ยังมีปัญหา บางพื้นที่อยู่ห่างจากเซ็นทรัลนครศรีธรรมราชเพียง 10 กว่ากิโลเมตร แต่ไม่มีน้ำปะปา รวมถึงน่าสนับสนุนโอกาสให้เยาวชนเข้าถึงกีฬา และ 5.เศรษฐกิจสร้างสรรค์ แปลงของดีและแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เป็นโอกาสทำมาหากินให้กับพี่น้องประชาชน พร้อมย้ำว่า สัมผัสได้ว่าประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องการการเมืองที่ดีขึ้น ต้องการนักการเมืองที่เอาความต้องการของประชาชนเป็นที่ตั้ง และจะสร้างแรงกระเพื่อมไปอีก 7 เขตของนครศรีธรรมราช และทั่วประเทศ หากพรรคกล้าชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ แสดงให้คนทั้งประเทศเห็นว่าพลังบริสุทธิ์เอาชนะได้ กาเบอร์ 1 สราวุฒิ สุวรรณรัตน์ เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงการเมือง
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวปราศรัยว่า ตอนนี้หมดเวลาการเมืองแบบนายหัว หมดเวลาการเมืองแบบนักปกครองแล้ว ผู้แทนประชาชนต้องเข้าถึงคนง่ายๆ ต้องมาเพื่อรับใช้ประชาชน และเมื่อได้เห็นผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ แล้ว จึงมั่นใจว่าการเลือกนายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ เป็นผู้สมัครของพรรค เลือกถูกคนแล้ว เพราะพรรคกล้าส่งคนเก่งและรูปหล่อลง ไม่ได้ส่งเสาไฟฟ้าลง มั่นใจว่าชาวนครศรีธรรมราชไม่ขายสิทธิ์ขายเสียง
เลขาธิการพรรคกล้า กล่าวด้วยว่า ถ้าเกิด ส.ส.เขตนี้เป็นนายสราวุฒิ จะเป็นการส่งสัญญาณบอกไปทั่วประเทศ ว่าการเลือกตั้งทำให้สุจริตได้ มีความคิดสร้างสรรค์ได้ ไม่แบ่งแยกคนได้ การเมืองใหม่เกิดขึ้นได้ และนี่คือปฐมฤกษ์ของการเมืองไทย
นายสราวุฒิ สุวรรณรัตน์ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเบอร์ 1 นครศรีธรรมราช กล่าวปราศรัยว่า ถ้าตนเองชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ส.ส.ทุกคนในนครศรีธรรมราช นักการเมืองทั่วประเทศไทยที่กำลังจับตามอง จะเห็นว่าคนเขต 3 นครศรีธรรมราชพร้อมให้โอกาสเด็กรุ่นใหม่ๆ คนที่ตั้งใจทำงาน คนที่ไม่ได้มาจากบ้านหรือพ่อแม่เป็นนักการเมืองมาก่อน และหมายความว่าหาก ส.ส.ที่มีอยู่ขณะนี้ ไม่ทำงาน คนนครศรีธรรมราชก็จะเลือกคนอื่น ซึ่งจะทำให้ ส.ส.ทุกคนจะลุกขึ้นมาช่วยกันทำงาน แต่หากตนเองแพ้ ต่อไปจะไม่มีเด็กรุ่นใหม่ๆ หันหน้าเข้าการเมืองอีกเลย จะไม่มีน้ำดีมาไล่น้ำเสีย เพราะเคยเห็นตัวอย่างตนเอง เพราะฉะนั้นวันอาทิตย์นี้ เป็นวันที่จะตัดสินว่าอนาคตของนครศรีธรรมราชหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร ไปช่วยกันให้เห็นว่าเบอร์ 1 ไม่ซื้อเสียง แต่สามารถชนะได้ กาเบอร์ 1 ชัดเจนพี่เณรบูรณ์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี