เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี( ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานที่ประชุม ได้ให้ความเห็นชอบมาตรการ"เราเที่ยวด้วยกัน " ระยะที่ 3 และมาตรการ"ทัวร์เที่ยวไทย" เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องช่วงสงกรานต์ไปจนถึงครึ่งปีหลังหลังจากที่มาตรการทยอยสิ้นสุดลงจนถึงวันที่ 31 พ.ค.2564
ทั้งนี้ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยว่า ครม.เห็นชอบโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 และโครงการทัวร์เที่ยวไทย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวถึงครึ่งปีหลัง ดังนี้
1.โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 เพิ่มอีก 2 ล้านสิทธิ์ ภายใต้งบโครงการที่เหลืออยู่ 5.7 พันล้านบาท เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2564 ถึง 31 สิงหาคม 2564 โดยปรับเงื่อนไขโครงการดังนี้
-ปรับระยะเวลาการจองห้องพักล่วงหน้าจาก 3 วัน เป็น 7 วัน
-ปรับวิธีการจ่ายค่าห้องพัก ผ่านแอปฯ เป๋าตังและถุงเงิน พร้อมเพิ่มระบบการยืนยันตัวตน ด้วยการแสกนใบหน้าเมื่อเช็คอินเข้าพัก
-ปรับ e-voucher ร่วมจ่าย (Co-pay) 40% เป็น 600 บาทต่อห้องต่อคืน ราคาเดียวทุกวัน
-ใช้เดินเฉพาะการท่องเที่ยวข้ามจังหวัดเท่านั้น
น.ส.รัชดา กล่าวว่า 2.โครงการทัวร์เที่ยวไทย โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทางของประชาชนในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) ร้อยละ 40 ของค่าใช้จ่ายแพ็กเกจนำเที่ยว แต่ไม่เกิน 5,000 บาท โดยต้องเป็นการเดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) ไม่ต่ำกว่า 3 วัน 2 คืน ไม่มีการกำหนดราคาขั้นต่ำ รวม 1,000,000 สิทธิ์ วงเงินงบประมาณ 5,000 ล้านบาท ตั้งแต่ พฤษภาคม–สิงหาคม 2564
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการ ได้แก่ นักท่องเที่ยว ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ณ วันลงทะเบียน โดย นักท่องเที่ยว 1 คนสามารถใช้สิทธิ์ตามโครงการฯ ได้ 1 สิทธิ์ และได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับประชาชนผู้ท่องเที่ยวที่ได้รับเงินสนับสนุนหรือประโยชน์ใดๆ
ส่วนผู้ประกอบการ ต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายกับกรมการท่องเที่ยวก่อนวันที่ 1 ม.ค. 63 ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติโดยกรมการท่องเที่ยว สามารถรับนักท่องเที่ยวได้บริษัทละ 3,000 ราย ทั้งนี้โครงการทัวร์เที่ยวไทย เป็นการส่งเสริมฟื้นฟูธุรกิจภาคการท่องเที่ยวในประเทศตลอดห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจท่องเที่ยวช่วยสร้างรายได้หลักของประเทศสูงถึงร้อยละ 17 ของจีดีพี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 รายละเอียดสำคัญคือ จะมีการเพิ่มอีก 2 ล้านสิทธิ์จากเดิมที่เคยให้สิทธิ์ไปแล้วรวม 6 ล้านห้องในช่วงเฟส 1 และ เฟส 2 รวมถึงจะขยายเวลาดำเนินโครงการไปจนถึงวันที่ 31 ก.ค. 2564 โดยคุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ์ของผู้ได้รับสิทธิ์เหมือนกับโครงการระยะที่ 1 และ 2 แต่มีการดำเนินการตามแนวทางการป้องกันการทุจริตในส่วนอื่นๆ เช่น การป้องกันการสวมสิทธิด้วยระบบสแกนใบหน้า และการยืนยันตัวตนของผู้ใช้สิทธิที่สาขาธนาคารกรุงไทยดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี