เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2564 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สื่อสารมวลชนได้รายงานเป็นข่าวครึกโครมเป็นการทั่วไปว่านายชัยวัฒน์ เป้าเปื่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ทำร้ายร่างกาย ผศ.นพพร ขุนค้า อาจารย์สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จนได้รับบาดเจ็บ ในร้านอาหาร 13 november ตรงข้ามสถานีรถไฟฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 27 มี.ค.64 ที่ผ่านมานั้น
การกระทำดังกล่าวอาจเข้าข่ายความผิด “ฐานทำร้ายร่างกาย” ตามประมวลกฎหมายอาญาม.295 ความว่า “ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้าย ร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” หรืออาจเข้าข่ายความผิด “ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.391 ความว่า “ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่น โดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว จะสอบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อวินิจฉัยว่าเข้าองค์ประกอบความผิดใดต่อไป
แต่อย่างไรก็ตามการที่นายชัยวัฒน์ เป็น ส.ส.ผู้ทรงเกียรติแต่กลับมีพฤติกรรมละเมิดกฎหมายอาญา โดยการทำร้ายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บย่อมต้องถูกสังคมครหาในทางลบถึงการกระทำที่เย้ยกฎหมายบ้านเมือง อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนได้ ซึ่งรัฐธรรมนูญ 2560 ม.291 ได้กำหนดมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 ไว้ เพื่อเป็นเครื่องมือในการกำกับ และลงโทษผู้ที่กระทำการฝ่าฝืน ซึ่งกรณีของนายชัยวัฒน์ เป้าเปื่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ทำร้ายร่างกาย ผศ.นพพร ขุนค้า อาจารย์สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ จนได้รับบาดเจ็บนั้น อาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ในข้อ 7 และข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 13 และข้อ 17 ประกอบข้อ 27 อีกด้วยอันเป็นการก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่งโดยชัดแจ้ง
ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงนำความไปยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ในวันนี้ เวลา 10.00 น. เพื่อขอให้ไต่สวนและมีความเห็นในกรณีดังกล่าว อันเป็นการใช้อํานาจขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง หรือไม่ อย่างไร หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติฯ ขอให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อพิพากษาลงโทษ ตามครรลองของกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี