นายกฯ เปิด “มอเตอร์เวย์โคราช” พร้อมกำชับ สงกรานต์ระมัด ระวังเดินทาง มีสติสัมปชัญญะ รองโฆษกรบ.เผย ครม.รับทราบแผนป้องกัน-ลดอุบัติเหตุ รณรงค์ “สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด” ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ 5 ด้าน ชี้วัดผล ลดเหตุบาดเจ็บต่ำร้อยละ 5
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่าในช่วงบ่ายตนจะเดินทางไปเป็นประธานการเปิดใช้งานทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางประอิน-สระบุรี-นครราชสีมา ช่วง อ.ปากช่อง-อ.สีคิ้ว ตนจะไปดูเส้นทาง กรุงเทพ-โคราช ที่เปิดช่วงแรกจะสามารถบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องของการเดินทางได้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้
นายกฯกล่าวอีกว่าการเดินทางไปต่างจังหวัดขอให้ระมัดระวัง โดยเฉพาะการใช้ยานพาหนะ รถต้องพร้อม คนต้องพร้อม ไม่ดื่มสุรา พักผ่อนให้เพียงพอ สนุกสนานอะไรก็อย่าให้เกินเลย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ชีวิตตัวเอง ชีวิตครอบครัวและชีวิตคนอื่นที่ได้รับผลกระทบจากเราไปด้วย นี่แหล่ะคือ จิตสำนึกของคนไทยทั้งประเทศ เราควรจะต้องนึกแบบนี้ อย่านึกถึงแต่ตัวเอง นึกถึงแต่ความสนุกชั่วคราว จะทำอะไรก็ตาม จะต้องมีสติสัมปชัญญะในการดำรงชีวิตต่อไปเพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัวและเพื่อคนอื่นด้วย รัฐบาลมีหน้าที่ในการบริหารสิ่งเหล่านี้ให้บูรณาการซึ่งกันและกัน ทุกอย่างเริ่มจากมนุษย์ จากคนทั้งสิ้น
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าครม.รับทราบแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2564 ตามที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.)เสนอโดยชื่อในการรณรงค์ว่า“สงกรานต์สุขใจ ขับขี่ปลอดภัย ห่างไกลโควิด”มุ่งเน้นการบริหารจัดการในลักษณะพื้นที่เป็นตัวตั้งควบคู่กับการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการดำเนินการเพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคโควิด -19 โดยบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง ให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเคร่งครัด ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกและความตระหนักด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนและประชาชน
ทั้งนี้ได้กำหนดตัวชี้วัดผลการดำเนินงานที่สำคัญดังนี้คือ จำนวนครั้งการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้เสียชีวิต และจำนวนผู้บาดเจ็บลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ5 เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี จำนวนผู้ถูกดำเนินคดีในพฤติกรรมเสี่ยงหลัก เช่น ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ ไม่สวมหมวกนิรภัยและไม่คาดเข็มขัดนิรภัยเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ5เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลสงกรานต์เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี
สำหรับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนประกอบด้วย 5 ด้านได้แก่ 1.ด้านการบริหารจัดการ เช่น จัดตั้งศูนย์ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ระดับส่วนกลาง จังหวัด กรุงเทพมหานคร อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำประชาคมชุมชนหรือหมู่บ้าน จัดตั้งด่านชุมชน รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวอย่างระมัดระวัง 2.ลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม เช่น สำรวจและตรวจสอบลักษณะกายภาพของถนน จุดเสี่ยง จุดอันตราย จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งและจุดที่เกิดอุบัติเหตุใหญ่ และดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้มีความปลอดภัย กำหนดมาตรการแนวทางการแก้ไขปัญหาบริเวณจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัยในการสัญจร
3.ลดปัจจัยเสี่ยงด้านยานพาหนะ เช่น กำกับดูแล ควบคุม รถโดยสารสาธารณะ รถโดยสารไม่ประจำทาง พนักงานขับรถโดยสาร และพนักงานประจำรถให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ กฎหมาย อย่างเคร่งครัด ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งด้วยรถบรรทุกหยุดประกอบกิจการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เข้มงวดกับรถตู้ส่วนบุคคลหรือรถเช่าให้มีมาตรฐานความปลอดภัย 4.ด้านผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย เช่น การบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งการขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ การเสพยาเสพติดหรือของมึนเมา ขับรถย้อนศรและดำเนินการตามมาตรการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์อย่างเข้มข้น 5.ด้าน การช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ เช่น จัดเตรียมความพร้อมของโรงพยาบาล แพทย์ พยาบาล และหน่วยบริการการแพทย์ฉุกเฉิน จัดเตรียมความพร้อมของหน่วยกู้ชีพและกู้ภัย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี