มีพรก.ฉุกเฉินเพื่ออะไร!“โจ้”ซัด โควิดระบาดรอบ 3 โทษใครไม่ได้นอกจาก “บิ๊กตู่”คน จี้ลาออก พร้อมจวกรัฐไร้การบริการจัดการวัคซีน
เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2564 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคพท. และ นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคพท. แถลงถึงการระบาดของโควิด -19 รอบ 3 ว่า เรื่องนี้โทษใครไม่ได้นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เพราะท่านสวมหมวก ผอ.ศบค. ท่านต้องรับผิดชอบ โดยวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือนถึงวันที่ 31 มีนาคม ส่วนการระบาดรอบ 3 เกิดขึ้นประมาณวันที่ 27-28 มีนาคม ซึ่งมีพ.ร.ก.ฉุกเฉินยังบังคับอยู่ และ ศบค.ชุดใหญ่มีการต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ทั้งนี้ การระบาดเกิดขึ้นกับหลายกลุ่มทั้งนักกการเมือง เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ดารานักร้องนักแสดง นางแบบพริตตี้ กลุ่มตำรวจที่เข้าไปดูแลสถานบันเทิง ขณะที่สถานบันเทิงเปิดถึงตีสี่ตีห้า แล้วจะมีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปเพื่ออะไร ส่วนประชาชนที่ไม่ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงกลับต้องมาติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกกจากนี้มีผลกับปฏิทินการเปิดประเทศ เพราะรัฐบาลเตรียมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว โดยช่วง เมษายน-มิถุนายน ต้องกักตัว 7 วัน ส่วนช่วง กรกฎาคม-กันยายน ไม่ต้องกักตัว และจะเริ่มเปิดจริงจังวันที่ 1 มกราคม 65 ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่มีการวางแผน ไม่รอบคอบระมัดระวังตาม มาตรา 164 โดยคุมการระบาดภายในประเทศไม่ได้ ขณะที่วัคซีนของแอสตร้าเซเนกาและซิโนแวคเพิ่งเข้ามา 3.5 แสนโดส ซึ่งตั้งแต่ปีที่แล้วจนถึงตอนนี้เราเพิ่งได้รับวัคซีนเท่านี้ ขณะที่เรากำลังจะเปิดประเทศ ถือว่าล้มเหลว ส่วนที่ให้องค์การเภสัชนำเข้าวัคซีนให้เอกชน 10 ล้านโดส แล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่ทำ แล้วต้องมีขั้นตอนรับรองจาก อย.ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เท่ากับว่า ศบค.ไม่ได้บริหารจัดการอะไรเลย สิ้นเปลืองงบประมาณเบี้ยประชุมเปล่าๆ ส่วนที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกอะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนั้น พูดเหมือนไม่รับผิดชอบอะไรเลย ท่านเอาชีวิตประชาชนไปเดิมพันแบบนั้นได้อย่างไร ส่วนวัคซีนได้คุณภาพหรือไม่เพราะคนที่ฉีดยังติดโควิด ท่านด่ากราดไม่ให้คนอื่นเที่ยว แล้วตัวเองรับผิดชอบอะไรบ้างกับสิ่งที่ผิดพลาด ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์รับผิดชอบด้วยการลาออก
“พล.อ.ประยุทธ์ไม่ห่วงประชาชน แต่ล่าสุดวันที่ 7 เมษายนท่านกลับมัวแต่ห่วงเรื่องเจรจาต่อขยายสัญญาสายสีเขียวกับบีทีเอส ซึ่งผมขอฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์และเลขา ครม.ว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทย 75 ได้ยื่นเรื่องผ่านประธานสภาฯ ไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ. ประยุทธ์สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170(5) ประกอบมาตรา 184(2) และมาตรา 186 หรือไม่ กรณีการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 40 ปี ทั้งที่สัญญาเดิมยังเหลืออีก 10 ปี โดยพล.อ.ประยุทธ์ ลงนามหลังพ้นจากหัวหน้า คสช. แต่กลับใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งคสช.ที่ 3/2562 เมื่อเดือนเมษายน 62 ซึ่งหลีกเลี่ยงพ.ร.บ.ร่วมทุน ปล่อยให้มีการผูกขาดตัดตอน หากศาลตัดสินว่าท่านผิดจริง พล.อ.ประยุทธ์ต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้นายกฯ” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวกรณีการบริหารแต่งตั้งพวกพ้องเข้ารับตำแหน่งโดยมิชอบว่า วันที่ 19 เมษายน 10.00 น. ตนจะไป ป.ป.ช.ยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.อ.ประยุทธ์ในข้อหา “เป็นหัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดิน เป็นผู้บังคับบัญชานายณัฏฐพล ทีปสวรรณ ที่บริหารราชารล้มเหลว ไร้จิตสำนึก ปล่อยให้มีการทุจริต” ส่วนนายณัฏฐพลในข้อหา “ไม่มีความซื่อสัตย์ ไร้ประสิทธิภาพ ไร้ความสามารถ ไร้คุณธรรมจริยธรรม ไร้สำนึก ฉ้อฉล แต่งตั้งคนสนิทและพวกพ้องเป็นผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี