ครม.อนุมัติ‘ผบ.ทสส.’กู้วิกฤตสงขลา ประกาศพรก.ฉุกเฉิน ‘อนุทิน’ลั่นทำงานไม่ช้า

ครม.อนุมัติ‘ผบ.ทสส.’กู้วิกฤตสงขลา ประกาศพรก.ฉุกเฉิน ‘อนุทิน’ลั่นทำงานไม่ช้า

วันพุธ ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ครม.อนุมัติผบ.ทสส.กู้วิกฤตสงขลา

ประกาศพรก.ฉุกเฉิน

อนุทินลั่นทำงานไม่ช้า

เร่งอพยพช่วยคนตกค้าง

หาดใหญ่ยังจมบาดาล

ลุ้นฝนหยุด-5วันคลี่คลาย

นายกฯประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแก้น้ำท่วมสงขลามอบอำนาจผบ.ทสส. บัญชาการ ยันไม่ซ้ำซ้อน ธรรมนัสผอ.ศนภ. โต้ลั่นรัฐบาลทำงานไม่ช้า แก้ปัญหาตามสถานการณ์ ยันติดตามในวอร์รูมทำเนียบฯไม่ลงพื้นที่ซ้ำ ขณะที่โฆษกรบ.เผยสถานการณ์น้ำท่วม สงขลา อพยพ 1.2 พันครัวเรือนแบ่งสี คัดกรองผู้อพยพตามลำดับ เขียวเหลือง-แดงอพยพแดงก่อน คาดคลี่คลายใน 5 วันถ้าฝนไม่ตกเพิ่มระดม ฮ.จากทุกกระทรวง ทบวง กรมเสริมทัพอพยพ ด้านเสธ.ทบ.ระดมยุทโธปกรณ์-กำลังพล กู้น้ำท่วมหาดใหญ่ เร่งอพยพประชาชนพ้นจุดวิกฤตเร็วที่สุด เชื่อนายกฯแก้ปัญหาบริหารจัดการไม่ให้สะเปะสะปะผบ.ทร.เผยเตรียม ร.ล. อ่างทอง-ร.ล.ช้างสมทบ ร.ล.จักรีนฤเบศพร้อม ฮ.2ลำ - เรือยาง ให้เข้าถึงจุดน้ำแรง คนตกค้างได้มากที่สุด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดภาคใต้ โดยรัฐมนตรีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ปฎิบัติงานในพื้นที่เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วย


ทบ.ระดมยุทโธปกรณ์-กำลังพลลุยหาดใหญ่

พล.อ.ชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์เสนาธิการทหารบกให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมติดตามสถานการณ์น้ำจังหวัดภาคใต้ ถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาว่า กองทัพบกระดมเครื่องมือและทรัพยากรที่มีในทุกกองทัพภาคลงไปช่วยกองทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ตั้งแต่คืนวันที่ 24 พฤศจิกายนทั้งรถยกสูง เรือท้องแบน เรือยาง เฮลิคอปเตอร์จากส่วนกลาง รวมถึงกำลังพลที่มีความสามารถที่ได้รับการฝึกในการช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย ส่วนกรณีช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่วิกฤตที่ออกจากพื้นที่ไม่ได้ ตอนนี้เราระดมเครื่องมือที่มีอยู่ทั้งหมดในพื้นที่จนหมดมือแล้ว ทั้งเฮลิคอปเตอร์ รถบรรทุก รวมถึงอุปกรณ์ทั้งหมดที่มีอยู่ ขณะนี้รอเครื่องมือส่วนกลางที่จะลงไปสนับสนุนเพิ่มเติม ยอมรับว่าเครื่องมือในพื้นที่มีไม่เพียงพอ และเครื่องมือบางส่วนจะไปถึงในพื้นที่วันนี้ (25 พฤศจิกายน) ส่วนการบริหารจัดการในพื้นที่สะเปะสะปะทำให้ประชาชนสับสนใจการขอความช่วยเหลือนั้น นายกฯเรียกประชุมแก้ปัญหาวันนี้ โดยต้องนำคนที่ติดอยู่ในพื้นที่วิกฤติออกมาให้เร็วที่สุด

ส่งร.ล.จักรีนฤเบศร-ฮ.2ลำช่วยอพยพ

ด้านพล.ร.อ.ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) กล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยอ.หาดใหญ่ จ.สงขลาว่า สั่งการให้เรือหลวงจักรีนฤเบศรพร้อมเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยเหลือ ซึ่งจะออกจากที่ตั้งได้ช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ส่วนที่ต้องออกช่วงบ่ายเนื่องจากต้องรอของบริจาคก่อน อีกทั้งเรือขนาดเล็กไม่สามารถเดินทางได้ เพราะกระแสน้ำไหลแรง จึงต้องใช้สิ่งของเฮลิคอปเตอร์ในการดรอปของ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ประชาชนคาดหวังกองทัพช่วยเหลือในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ พล.ร.อ.ไพโรจน์กล่าวว่า เรากำลังดำเนินการเช่นนั้นอยู่ ซึ่งเรือหลวงจักรีนฤเบศรจะเดินทางไปเป็นระลอกแรก หลังจากนั้นจะมีเรือหลวงอ่างทองและเรือหลวงช้างตามไปอีกระลอก

ร.ล.ช้าง-ร.ล.อ่างทองส่งช่วยระลอกสอง

พลเรือตรีปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงว่ากองทัพเรือจัดกำลังเรือรบขนาดใหญ่ อากาศยาน ชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนในภาคใต้ที่ประสบอุทกภัยรุนแรง โดยร.ล.จักรีนฤเบศรจะออกเดินทางจากฐานทัพเรือสัตหีบภายในวันนี้ พร้อมเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ทีมแพทย์ ทีมครัวสนาม อุปกรณ์กู้ภัย สิ่งของบรรเทาทุกข์และเสบียงอาหาร–น้ำดื่ม โดยร.ล.จักรีนฤเบศรมีขีดความสามารถเป็นฐานบินลอยน้ำในการปฏิบัติการของเฮลิคอปเตอร์และโดรน และยังทำหน้าที่เป็นครัวลอยน้ำที่มีขีดความสามารถผลิต อาหารปรุงสุกได้วันละ 3,000 ชุด เพื่อสนับสนุนการส่งทางอากาศสู่พื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้ยังเตรียมทีมแพทย์ไปกับเรือด้วยทำหน้าที่เป็นโรงพยาบาลลอยน้ำได้เมื่อจำเป็น

ขณะเดียวกัน กองทัพเรือยังเตรียมจัดกำลังร.ล.ช้างและร.ล.อ่างทอง เป็นกำลังช่วยเหลือระลอกที่ 2 หากจำเป็นต้องเพิ่มเติมกำลัง และเนื่องจากการช่วยเหลือประชาชนเป็นเรื่องเร่งด่วนมาก กองทัพเรือจัดส่งชุดปฏิบัติการพิเศษ พร้อมเรือยาง จากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.กร.) พร้อมกำลังพลรวม 14 ลำ เพื่อไปช่วยเหลือประชาชนที่ตกค้างในในพื้นที่กระแสน้ำรุนแรง โดยทั้งหมดจะเดินทางไปกับเครื่องบินลำเลียงของกองทัพอากาศภายในวันนี้เช่นกัน กองทัพเรือยังคงปฏิบัติภารกิจอย่างสุดความสามารถในภาวะวิกฤต ที่ประชาชนเดือดร้อน และจะยืนหยัดเคียงข้างประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ทอ.พร้อมยันต้องเข้าถึงคนติดพื้นที่ก่อน

พล.อ.อ.เสกสรร คันธา ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) กล่าวถึงการสนับสนุนภารกิจน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ของกองทัพอากาศว่า กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเต็มที่ ที่ผ่านมาได้มีการลำเลียงโดยอากาศยานของกองทัพอากาศไปแล้ว หลังจากนี้จะมีการระดมสรรพกำลังและบริหารทรัพยากรของกองทัพกับส่วนราชการอื่น ยืนยันว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ประชาชนต้องเข้าถึงประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ให้ได้ก่อน

ธรรมนัสจับมือเหล่าทัพสู้ท่วม-อพยพคน

ด้านร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวหลังประชุมแก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดภาคใต้ ร่วมกับนายกฯผ่านระบบ VDO Conferenceว่า ขณะนี้ระดมความช่วยเหลือจากทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาไฟฟ้าที่โรงพยาบาลถูกตัด และผู้ป่วยฉุกเฉินต้องใช้ออกซิเจน โดยเราตั้งศูนย์บัญชาการฯติดตามสถานการณ์อยู่ที่อ.หาดใหญ่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนี้ รมว.กลาโหม

สั่งทุกเหล่าทัพระดมกำลังเข้ามาช่วยเหลือในพื้นที่นี้ทั้งหมด ส่วนกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.). นายกฯและรมว.มหาดไทยตั้งศูนย์ของปภ. กระทรวงเกษตรฯตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ที่โรงแรมซิกเนเจอร์ และเป็นศูนย์อพยพด้วย ส่วนการลำเลียงอาหารให้ผู้ประสบภัย จะให้แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นผู้ควบคุมควบคุมดูแลทั้งหมด ยืนยันอาหารมีเพียงพอ แต่ขณะนี้ต้องอพยพประชาชนที่เดือดร้อนออกจากพื้นที่ให้เร็วที่สุด

ส่งเจ็ตสกีแรงม้าสูง-เรือหางยาวเข้าจุดน้ำแรง

ส่วนที่ชาวบ้านสะท้อนว่า ไม่รู้ว่าจะอพยพได้อย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เนื่องจากตั้งแต่คืนวันอาทิตย์จนถึงเวลานี้มีกระแสน้ำรุนแรง เรือเจ็ตสกีบางลำเข้าไปไม่ถึง อีกทั้งเรือท้องแบนก็เข้าพื้นที่ไม่ได้ ดังนั้น วันนี้จะแก้ปัญหาใหม่ โดยใช้เรือเจ็ตสกีที่มีแรงม้าสูงเข้าไปช่วยเหลือประชาชน

“วันนี้จะบัญชาการให้เป็นเรื่องเป็นราว เป็นรูปธรรม ที่จะดำเนินการเข้าช่วยเหลือ พร้อมยอมรับว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้เนื่องจากคาดการณ์ว่า น้ำจากอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งเกิดฝนตกหนักมาสมทบกับน้ำในอำเภอหาดใหญ่ที่มีจำนวนมากอยู่แล้ว และน้ำทุกมุมไหลลงมารวมกันทั้งหมด ทำให้เกิดปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นสูง ลึกและไหลเชี่ยว ลึก ส่งผลให้เรือท้องแบนเข้าไปช่วยเหลือไม่ได้ จึงเพิ่มเรือหางยาวของชาวประมงเข้าไปช่วย และเรือจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ หรือหน่วยซีล พร้อมเจ็ตสกีแรงม้าสูงเข้าไปช่วยเพิ่มเติมในทุกจุด”ร.อ.ธรรมนัสกล่าว

คาด3วันคลี่คลาย-ระดมฮ.10ลำสแตนด์บาย

และว่า กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของฝน วันที่ 26 พฤศจิกายนจะเบาลง ดังนั้นการระบายน้ำจึงเป็นหน้าที่กรมชลประทานระบายน้ำให้เร็วที่สุด ขณะนี้บานประตูทุกบานของลำน้ำ เปิดไว้หมดแล้ว คาดว่าจะใช้เวลา 3 วัน สถานการณ์จะคลี่คลาย ขอให้ความมั่นใจประชาชนที่ยังติดอยู่ในบ้านเรือนว่า วันนี้ทุกหน่วยงานจะเร่งเข้าช่วยเหลือ โดยแบ่งออกเป็น 2 โซน ใช้เส้นทางรถไฟเป็นหลักคือ โซนตะวันออก กับโซนตะวันตก และมีจุดที่นำรถทหาร และรถกรมชลประทาน รวมถึง ปภ. ไปตั้งและใช้เจ็ตสกี หรือเรือที่ผ่านกระแสน้ำแรงได้เข้าไปช่วยเหลือประชาชนรวมถึงเฮลิคอปเตอร์จากทุกกองทัพภาค สแตนด์บายไว้10 ลำ

ทั้งนี้ร.อ.ธรรมนัสยอมรับว่า มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ซึ่งได้แก้ปัญหาแล้ว เนื่องจากก่อนหน้านี้มีกระสอบทรายไปทับเสาส่งสัญญาณ ประกอบกับกระแสน้ำแรงและไฟดับ ซึ่งวันนี้จะเร่งแก้ไข

กู้ระบบไฟรพ.หาดใหญ่ได้แล้ว-ขอฮ.ย้ายผู้ป่วย

ขณะที่นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงการช่วยเหลือโรงพยาบาลในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลาว่า ขณะนี้ระบบไฟฟ้าในโรงพยาบาลหาดใหญ่ยังดำเนินการได้ระดับหนึ่ง แต่ไม่ค่อยเสถียร เพราะเพิ่งกู้ระบบไฟฟ้ากลับมาได้ โดยได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในการขนย้ายผู้ป่วยไอซียู ไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 2 ราย ในจำนวนนี้คือเด็กทารก ผู้ป่วยไอซียูมีพอสมควรนอกจากนี้ ยังประสานอีก 2-3 โรงพยาบาลไว้รองรับ ขณะที่กำลังขอเฮลิคอปเตอร์จากทส.เพิ่ม ยืนยันทีมแพทย์จะดูแลเต็มที่ ส่วนความเสียหายของโรงพยาบาล ยังไม่ได้ประเมิน เพราะยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ ระดับน้ำสูงมาก เกือบ 2 เมตร ส่วนเรื่องเยียวยาจะดำเนินการภายหลัง ตอนนี้แก้สถานการณ์เฉพาะหน้าไปก่อน

ท่วมหาดใหญ่หนักในรอบ300ปี

นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่หาดใหญ่ต่างจากพื้นที่น้ำท่วมภาคกลางและภาคเหนือ ซึ่งระบบจัดการน้ำของ จ.สงขลาใช้คลองระบายน้ำ สถานการณ์ที่หนักกว่ารอบที่ผ่านมาเนื่องจากฝนตกสะสมมาก ใน อ.สะเดา ส่วนคลอง ร.1 ที่รองรับน้ำได้ 1,200 ลูกบาศก์เมตรไม่เพียงพอกับปริมาณฝนสะสมที่ 880 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ทั้งบริเวณพื้นที่โดยรอบยังมีฝนตกต่อเนื่องทำให้ระบบคลองในพื้นที่รับน้ำได้ไม่พอ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ครั้งนี้ปริมาณน้ำฝนหนักมากในรอบ 300 ปี ซึ่งการบริหารจัดการน้ำในอนาคต ต้องขุดลอกคลอง ร.1 ให้ลึกขึ้น ขยายคลองอู่ตะเภา เพื่อรองรับสถานการณ์ที่นานๆครั้งจะเกิดขึ้น

เฝ้าระวังน้ำสูงเกินตลิ่งกว่า2เมตร

นายดนุชา กล่าวว่า นายกฯได้เน้นย้ำการจัดการครั้งนี้คือ การเร่งช่วยชีวิตประชาชน ระดมสรรพกำลังช่วยในพื้นที่ และเฝ้าระวังตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศเตือนว่าจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์ล่าสุดพบว่า ระดับน้ำริมตลิ่ง เวลา 11.00-13.00 น. ของวันนี้ที่มีปริมาณฝนตกมาเมื่อคืนอีก ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 2.20 เมตร จึงเป็นสถานการณ์ที่ประชาชนในพื้นที่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง

จิสด้าชี้ท่วมหาดใหญ่วิกฤติน้ำสูงเกิน4ม.

GISTDA เผยผลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำท่วมขังในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยใช้เทคนิค HAND Model (Height Above Nearest Drainage) ร่วมกับข้อมูลจากดาวเทียม Sentinel-1A ของวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ประเมินความลึกของน้ำ เพื่อสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน พบความเสียหายรุนแรงเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะต่อโครงสร้างพื้นฐานและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ดังนี้ประชาชน ได้รับผลกระทบประมาณ 150,230 คนที่อยู่อาศัยได้รับผลกระทบแล้ว 25,102 หลังคาเรือนสถานที่สำคัญ ได้รับผลกระทบประกอบด้วย โรงเรียน 47 แห่ง และโรงพยาบาล 8 แห่ง เส้นทางคมนาคม ได้รับผลกระทบระยะทางรวมกว่า 536 กิโลเมตร

พื้นที่ระดับน้ำท่วมวิกฤตส่วนใหญ่อยู่ในโซนสีน้ำเงินเข้ม ซึ่งจากการวิเคราะห์และจำแนกตามเฉดสีในแผนที่แสดงให้เห็นความเร่งด่วนในการเข้าช่วยเหลือประชาชน เนื่องจากระดับน้ำท่วมขังในพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในระดับอันตรายสูง ดังนี้ โซนสีฟ้าอ่อน ระหว่าง 0.5 – 1 เมตรระดับน้ำท่วมถึงเอวโซนสีน้ำเงินเข้ม ระดับน้ำระหว่าง 2 – 3 เมตร ระดับน้ำท่วมสูงมิดหัว พบในพื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอหาดใหญ่โซนสีเข้มจัด/เกือบดำ ระดับน้ำมากกว่า 4 เมตร ระดับน้ำลึกมาก ต้องเน้นย้ำว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของอำเภอหาดใหญ่มีน้ำท่วมขังระดับ โซนสีน้ำเงินเข้ม (2-3 เมตร) ซึ่งเป็นระดับที่สูงมากและบ่งบอกถึงอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน สำหรับประชาชนที่ต้องการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่องและเป็นปัจจุบัน (Near Real-time) เข้าถึงข้อมูลได้ที่:เว็บไซต์: https://disaster.gistda.or.thแอปพลิเคชัน “เช็คน้ำ” สำหรับระบบปฏิบัติการ iOS: https://gqr.sh/yxQp และ Android: https://gqr.sh/rcGq

ประกาศพรก.ฉุกเฉินสงขลา-ผบ.ทสส.คุม

นายอนุทิน ชาญวีรกูลนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม.ว่า วันนี้เราจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่สงขลา ให้ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.)เป็นผู้อำนวยการสถานการณ์ บูรณาการความช่วยเหลือทั้งหมดในการสั่งการอนุมัติ คุ้มครองผู้ปฏิบัติงานทุกอย่างเบ็ดเสร็จ

นายกฯย้ำว่า ตอนนี้เราต้องไปบริหารสถานการณ์เรื่องการระบายน้ำ ทำหลายอย่างควบคู่กันไปและเรื่องอาหาร เรื่องวัสดุดำรงชีพทุกอย่างตอนนี้พร้อมหมด หล่าทัพจัดเตรียมยานพาหนะทั้งเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ เรือและรถระดมกันลงไปช่วยเหลือประชาชนพื้นที่เกิดเหตุ ยืนยันไม่ได้ช่วยเหลือล่าช้า ไม่ได้ติดขัดทำงานกันเต็มที่ ช่วงเกิดเหตุใหม่ๆทุกคนต้องกระจายกำลัง กระจายทรัพยากรกระจายกำลังพลลงไปช่วยเหลือชีวิต ความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก ตอนนี้เมื่อเราทราบปัญหาหลายเรื่องแล้ว เราถึงมาเร่งตั้งกองบัญชาการทั้งส่วนหน้า ส่วนสนับสนุนและใช้สถานการณ์ฉุกเฉินใช้พระราชกำหนด(พ.ร.ก.)สถานการณ์ฉุกเฉินกำกับดูแล

“ยืนยันรัฐบาลช่วยเหลือเต็มที่ ตอนนี้ทุกอย่างที่ช่วยเหลือประชาชนระดมลงไปเต็มที่ งบประมาณทรัพยากรและการสนับสนุน จากทุกองค์กรที่รัฐบาลกำลังดูแลอยู่รวมถึงความร่วมมือที่เราได้จากทางองค์กรต่างๆภาคเอกชนเราสนับสนุนลงไปเต็มที่”นายกฯระบุ

ส่งเครื่องปั่นไฟช่วยรพ.-ยกเระดับ4

เมื่อถามว่าสถานการณ์ใน 3 โรงพยาบาลถือว่าวิกฤติแล้ว นายกฯกล่าวว่า ต้องทำงานร่วมกัน เพราะน้ำทำลายวงจรไฟฟ้าต่างๆ แต่เรามีรถปั่นไฟทั้งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)เข้าไปสแตนด์บายรออยู่ และระดมคนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ในภาคส่วนอื่นลงไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่างไฟ ให้มั่นใจว่าในสถานที่ที่ต้องดูแลผู้ป่วยต้องมีไฟฟ้าโหลดไว้ตลอดและการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยต้องวางแผน เพราะผู้ป่วยไอซียูไม่ใช่เคลื่อนย้ายกันง่ายๆ ถ้าเราจะทำให้มีสาธารณูปโภคที่ใช้งานได้ตลอดเวลาเราก็ไม่จำเป็นต้องเคลื่อนย้าย

ถามต่อว่าตอนนี้รัฐบาลยังควบคุมสถานการณ์ได้อยู่ ไม่มีอะไรเกินมือใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เราก็ควบคุมสถานการณ์ และไม่ใช่แค่ควบคุมอย่างเดียว แต่ต้องช่วยเหลือและบรรเทาสถานการณ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ องคาพยพทั้งหลายก็ระดมไปอยู่ในพื้นที่หมดแล้วหน้างานต้องไปช่วยเหลือประชาชนอย่างที่สุดตอนนี้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)อยู่ในพื้นที่และยกระดับภัยขึ้นมาเป็นระดับที่ 4 ทั้งนี้ ในเรื่องช่วยคนออกมาไม่มีคำว่าเดตไลน์เราต้องพยามเอาคนออกมาจากบ้านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และถ้าสถานการณ์คลี่คลาย ต้องเร่งเข้าไปฟื้นฟูดูแล

ลุ้นไม่มีฝนตกเพิ่มเร่งระบายน้ำออก

ส่วนที่ในหลวงทรงมีพระราชกระแสห่วงเรื่องการอพยพคน นายกฯกล่าวว่า ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งมาและได้พระราชทานสิ่งของเครื่องใช้ให้ไปดูแลด้วย ส่วนการระดมสรรพกำลังต่างๆ พาหนะ เครื่องมือต่างๆตรงนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่เร่งดำเนินการไปแล้ว ซึ่งในเรื่องระยะเวลาช่วยประชาชนนั้น ทุกอย่างต้องทำแข่งกับเวลาอยู่แล้ว สถานการณ์ตอนนี้ที่นั่นก็รอการระบายน้ำออกให้เร็วที่สุด ถ้าไม่มีฝนเติมมา และฝนวันนี้ดีกว่าเมื่อวาน ฉะนั้นถ้าไม่มีฝนเติมเข้ามาและไม่มีน้ำไหลมาจากที่อื่น เพราะอำเภอหาดใหญ่เป็นแอ่งกระทะ มันก็จะค่อยๆระบายมวลน้ำที่อยู่ในเมืองออกไปได้ เมื่อถึงระดับที่เราเข้าไปช่วยเหลือ โดยไม่มีอุปสรรคใดๆแล้ว เราก็ระดมเรื่องการช่วยเหลือเข้าไปอย่างเต็มที่

มอบอำนาจผบ.ทสส.-ธรรมนัสไม่ซ้อน

ถามย้ำว่าตกลงคนที่มีอำนาจตัดสินใจในพื้นที่เป็นของผบ.ทสส.หรือร.อ.ธรรมนัส นายกฯกล่าวว่าร.อ.ธรรมนัส ถ้าเขาไปเจอหน้างาน อย่างถ้าผ่านไปโรงพยาบาล สมมุติเกิดเหตุไฟดับ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับกระทรวงท่าน ท่านก็สั่งการได้เลย เพราะทำในฐานะรัฐบาลคือนายกฯเป็นคนสั่งการ ตนบอกแล้วรัฐมนตรีทุกคนสั่งการเปรียบเสมือนนายกฯสั่งการก็ช่วยกันสั่งการไม่ใช่อำนาจอยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่งทุกคนอยู่หน้างานสามารถสั่งการได้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเป้าหมายคือความปลอดภัยของประชาชน ส่วนผบ.ทสส. ทำหน้าที่บูรณาการทั้งหมด และย้ำว่าอำนาจไม่ได้ซ้ำซ้อนกัน ตอนนี้เมื่อทุกคนกระจายความช่วยเหลือไปหมดแล้ว เดี๋ยวเค้าจะมารายงานสถานการณ์ความเป็นไปต่างๆ ซึ่งผบ.ทสส.ในฐานะผู้อำนวยการสถานการณ์จะรวบรวมสถานการณ์ทั้งหมดและจัดหน่วยงานความรับผิดชอบไปตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งนี้ รัฐบาลกับผบ.ทสส.เป็นคนเดียวกัน บูรณาการการทำงานร่วมกันภายใต้กฎหมาย

ป้องธรรมนัสลงคนแรกไม่เกี่ยวการเมือง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการที่ร้อยเอกธรรมนัสเป็นผู้อำนวยการ แต่กลับไม่มีแผนบริหารจัดการ และการประชุมแก้ปัญหาสถานการณ์น้ำที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส ทำไมไม่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยจังหวัดสงขลา แต่ไปอยู่จังหวัดเชียงใหม่ นายกฯย้อนถามว่า “คุณพูดอย่างนี้ได้อย่างไรเขาลงไปคนแรกเลย ลงไปถึงก่อนผมอีก ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองเลย ร.อ.ธรรมนัสลงไปพร้อมอธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมชลประทานยังอยู่ในพื้นที่ เพื่อบัญชาการเรื่องการระบายน้ำ ขณะนี้ยังไม่ได้กลับ และช่วงที่ตนลงพื้นที่ก็ได้หารือกับอธิบดีกรมชลประทาน และเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ร.อ.ธรรมนัส พยายาม ลงพื้นที่แต่ฟ้าปิด ทำให้เครื่องลงไม่ได้ และท่านบอกกับตนว่าจะรีบลงไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้

สงขลาอพยพ1.2พันครัว-แบ่งสีย้าย

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์น้ำท่วมจ.สงขลาว่า จากการรายงานของปภ.มีประชาชนนับหมื่นที่ได้รับภัยพิบัติ และจำนวนครัวเรือนที่จำเป็นต้องอพยพแล้ว 1,228 ครัวเรือนใน 16 ตำบล และมีประชาชนเสียหาย 697,231 คนโดยกองทัพบกส่งเฮลิคอปเตอร์(ฮ.) ช่วยผู้ป่วย กองทัพเรือ ส่ง ฮ. 3 ลำ เรือท้องแข็ง 14 ลำ พร้อมเครื่องยนต์และเจ้าหน้าที่หน่วยซีล เข้าไปช่วยในพื้นที่แคบ กองทัพอากาศ ส่งฮ.3 ลำ พร้อมบรรทุกอาหารผ่านเครื่องบิน c 130 ส่งต่อศูนย์อพยพ บรรทุกเจตสกี เข้าไปช่วยเหลือ กรมทรัพยากรธรรมชาติฯ 2 ลำ และปภ.เข้าไปเพิ่มอีก รวมแล้ว ฮ.ในพื้นที่กว่า 10 ลำ ทุกความช่วยเหลือมุ่งไปที่จ.สงขลาอย่างเต็มที่

“ขณะที่การอพยพคนจำนวนมากต้องคัดกรองแบ่งสีเขียว เหลือง แดง โดยจะย้ายกลุ่มสีแดงก่อน แล้วค่อยเป็นสีเหลืองและสีเขียว ขณะเดียวกัน คนที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือก็จะมีอาหาร และน้ำดื่มส่งไปให้ก่อนพร้อมกันนี้ สำนักงานน้ำแห่งชาติ คาดการณ์ว่าน้ำจะคลี่คลายได้ภายใน 5 วัน หากไม่มีฝนมาเพิ่ม ตอนนี้มีปริมาณน้ำ 400 ล้านลูกบาศก์เมตร”นายกฯกล่าว

สั่งเรือลาดตระเวน-13ตอพยพด่วน

และว่า นายกฯสั่งให้มีเรือลาดตระเวนตลอดเวลา ยืนยันในพื้นที่ติดตามใกล้ชิด ตำบล หมู่บ้าน บูรณาการข้อมูลกัน หลายคนกังวลสัญญาณโทรศัพท์ไม่เพียงพอ หรือแบตเตอรี่โทรศัพท์ไม่เพียง ตอนนี้หน่วยงานประสานงานกันในพื้นที่ใช้วิทยุสื่อสารแทน ย้ำว่ารัฐบาลติดต่อได้ในทุกพื้นที่ ขณะนี้มี 13 ตำบล เป็นพื้นที่สีแดง ที่ต้องเร่งอพยพโดยด่วน

ส่วนช่องทางการรับเรื่องร้องเรียนมีการเพิ่มคู่สายด่วน 1784 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย หรือ ปภ. คอยรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนอยู่แล้ว พร้อมมีแอปพลิเคชัน และลิงก์”หาดใหญ่ ฟลัส“ ซึ่งมีผู้ร้องเรียนมาแล้วกว่า 1,000 ราย และ ยังมีหลายเพจที่ตัวกลางในการช่วยเหลือรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนมีทั้งข้อมูลใหม่และข้อมูลที่ซ้ำกัน ดังนั้น ปภ.จะทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมด และประเมินก่อนส่งทีมงานเข้าไปช่วยเหลือ ยืนยันทุกพื้นที่จะส่งเจ้าหน้าที่ไปให้ความช่วยเหลือเร็วที่สุด

ประกาศพ.ร.ก.เพื่อตัดสินใจได้เร่งด่วน

นายสิริพงศ์ยังชี้แจงถึงการประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน เพื่อจะตัดสินใจเร่งด่วนหน้างาน จึงต้องมีกฎหมายคุ้มครองเจ้าหน้าที่ด้วย โดยมีผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ดูหน้างานยุทธโธปกรณ์และกำลัง ที่จะได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากหน่วยงานอื่น ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯและรมว.เกษตรฯผู้อำนวยการศูนย์จัดการน้ำภัยพิบัติ จะบริหารจัดการร่วมกับจังหวัด ยืนยันอำนาจหน้าที่ไม่ซ้ำซ้อนกัน

ปภ.สรุป9จว.ใต้ยังวิกฤติ-ตาย13ราย

เวลา 12.45 น.วันเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสรุปสถานการณ์อุทกภัยทั่วประเทศ โดยนายธีรพัฒน์คัชมาตย์ อธิบดี ปภ.เผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ของศูนย์อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปัจจุบัน ข้อมูลถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน เวลา 06.00 น. ยังมีสถานการณ์อุทกภัยในภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคกลาง รวม 20 จังหวัด 147 อำเภอ 1,080 อำเภอ 7,573 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 941,768 ครัวเรือน 2,680,515 คน และมีผู้เสียชีวิตรวม 41 ราย

สำหรับภาคใต้ยังมีสถานการณ์ 9 จังหวัดได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาสกินพื้นที่ 98 อำเภอ 643 ตำบล 4,688 หมู่บ้าน ประชาชนรับผลกระทบ798,695 ครัวเรือน 2,196,758 คน ผู้เสียชีวิตรวม 13 รายคือ นครศรีธรรมราช 6 คน ปัตตานี 3 คน ยะลา 2 คน พัทลุง 2 คน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top