“นายกฯ”สั่งบูรณาการแก้ปัญหาเตียงไม่พอ พร้อมตั้งศูนย์แรกรับ ส่งต่อจนคลี่คลายไม่มีใครรอเตียงเกิน 48 ชม.แล้ว ชี้นำดมเดลแก้ปัญหาที่สมุครสาครมาใช้ ที่คลองเตย ย้ำ ต้องทำทุกทางเพื่อลดการสูญเสียให้มากที่สุด
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 เวลา 15.00 น.ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า ตามที่เราได้รับทราบสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 ที่แพร่กระจายเป็นวงกว้างและเกิดกลุ่มก้อนต่างๆในหลายจังหวัด ตนในฐานะนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศบค.) ได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิด และได้สั่งการเพื่อดำเนินการแก้ไขสถานการณ์
โดยเรื่องการบริหารจัดการเตียงสำหรับผู้ป่วย ตนได้สั่งการให้มีการจัดระบบการบูรณาการเรื่องเตียงและโรงพยาบาลสนามทั้งหมด โดยให้มีการจัดแบ่งกลุ่มผู้เข้ารับการรักษาพยาบาลตามระดับอาการ เป็น 3 กลุ่ม คือ ระดับสีเขียว คือ ผู้ป่วยไม่มีอาการหรืออาการน้อย จัดให้เข้าโรงพยาบาลสนาม, ระดับสีเหลือง คือ ผู้ป่วยอาการปานกลาง จัดให้เข้าโรงพยาบาลทั่วไป, ระดับสีแดง คือ ผู้ป่วยอาการรุนแรง จัดให้เข้าโรงพยาบาลเฉพาะทาง โดยให้ปรับรูปแบบการคัดกรองผู้ป่วย ให้ไปคัดกรองที่โรงพยาบาลสนามแทนโรงพยาบาลทั่วไป เพื่อลดการแออัดที่โรงพยาบาล และรักษาเตียงว่างไว้ให้ผู้ป่วยที่จำเป็น และให้เพิ่มเติมผู้รับโทรศัพท์สายด่วน 1668 / 1669 / และ 1330 ให้เพียงพอกับจำนวนผู้ป่วยด้วย
นายกฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด เพื่อช่วยแยกตัวผู้ป่วยออกจากชุมชน เพื่อรอส่งไปรักษาตัวต่อไป พร้อมกันนั้น ได้สั่งการให้ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กทม. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(อว.)และ กระทรวงกลาโหม ให้เร่งดำเนินการเพิ่มจำนวนเตียงทั้งในโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนามให้มากที่สุด ซึ่งผลการดำเนินการคือ เราสามารถติดต่อและจัดการให้ผู้ป่วยรอเตียงตกค้างทั้งหมด เข้าสู่ระบบการรักษาตามที่แบ่งไว้ 3 กลุ่ม โดยปัจจุบันไม่มีผู้ป่วยที่ต้องรอเตียงเกิน 48 ชั่วโมง โดยการจัดตั้งศูนย์แรกรับและส่งต่อ ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ทำให้สามารถแยกตัวผู้ป่วยออกมาจากชุมชนได้ทันที และนับจากวันจัดตั้ง สามารถส่งต่อผู้ป่วยที่รับเข้ามาไปแล้วถึง 96%
ทั้งนี้ จากความพยายามในการเพิ่มเตียงให้พร้อมรองรับผู้ป่วยที่มีมากขึ้น ทั้ง Hospitel และโรงพยาบาลสนาม ทำให้เรามีเตียงเพิ่มขึ้นจากช่วงสงกรานต์เกือบ 10,000 เตียง และมีเตียงว่างรวมทั่วประเทศมากกว่า 30,000 เตียง และรัฐบาลกำลังพิจารณาจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติมในกรุงเทพที่อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี เพื่อรองรับผู้ป่วยในพื้นที่กรุงเทพ
“วันนี้เราพูดได้ว่า สามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องของสายด่วนเพื่อรับตัวผู้ป่วย การส่งต่อผู้ป่วยทุกคนเข้ารับการรักษาได้อย่างทันการ และการเตรียมเตียงสำหรับผู้ป่วย ซึ่งผมต้องขอบคุณทุกหน่วยงาน และทุกคน ทุกองค์กรจิตอาสา ที่ได้ให้ความร่วมมือช่วยเหลือกันจนสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับกรณีคลัสเตอร์คลองเตยนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้ติดตามอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานระดมสรรพกำลังในการควบคุมการแพร่ระบาดให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยได้ใช้ประสบการณ์จากการจัดการในจังหวัดสมุทรสาครได้สำเร็จมาปรับใช้ คือใช้โมเดล “ตรวจเชื้อ ติดต่อ คัดกรอง แยกตัว ส่งต่อ และรักษา” โดยเน้นไปที่การตรวจเชิงรุก Active Case Finding ที่ระดมตรวจกลุ่มเสี่ยงในชุมชนที่มีการติดเชื้อให้ได้อย่างน้อย 1,000 คนต่อวัน โดยหน่วยเคลื่อนที่ และรถเก็บตัวอย่างชีวะนิรภัยพระราชทาน โดยจะตรวจเชิงรุกให้ได้อย่างน้อยทั้งหมด 20,000 คน จากนั้นก็จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปทันที นั่นคือการแยกผู้ป่วยตามระดับอาการ แล้วส่งตัวเข้าสถานพยาบาลแรกรับ เพื่อส่งไปรักษาตัวต่อ ก็จะเป็นการจำกัดวงการแพร่ระบาดให้วงเล็กที่สุด และในเวลาเดียวกัน ก็จะระดมการฉีดวัคซีนโควิด เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งแนวทางนี้พิสูจน์ว่าประสบความสำเร็จมาแล้วจากกรณีสมุทรสาคร ซึ่งล่าสุด ผมได้รับรายงานว่า ทางกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงคมนาคม และการท่าเรือแห่งประเทศไทย ได้จัดพื้นที่ตรวจเชิงรุกให้กับพี่น้องชาวชุมชนคลองเตยได้อีกถึง 700 คนต่อวัน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ตนได้สั่งการให้รีบแก้ไขปัญหา การสำรองเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนัก โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งในขณะนี้ยังมีเพียงพอ แต่เราไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ ต้องมีการขยายเพิ่มเพื่อรองรับผู้ป่วยอาการหนักในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งเมื่อวานนี้ ได้มีการเปิดโรงพยาบาลสนามที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ เขตทุ่งครุ เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นอีก 432 เตียง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังจะมีแผนการบริหารจัดการการดูแลผู้ป่วยอาการหนักที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในการอำนวยความสะดวกให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ดูแลผู้ป่วยอย่างทั่วถึง โดยหลักการที่ผมเน้นย้ำเป็นหัวใจของการจัดการสถานการณ์ทุกอย่างคือ (เน้นเสียง) “ต้องทำทุกทางเพื่อลดการสูญเสียให้มากที่สุด”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี