“สิระ” แจ้งความ “หมอเหรียญทอง” โพสต์หมิ่นหลังตรวจสอบ รพ.สนาม จี้ หมอหนู-กรมควบคุมโรค ตรวจสอบด่วนจ่อฟัน ม.157 หากไม่ดำเนินการ

8 พ.ค.2564 เวลา 11.00 น.นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาสน.ทุ่งสองห้อง เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กรณีโพสต์ เฟสบุ๊คให้ร้ายตนเอง ภายหลังไปตรวจสอบโรงพยาบาลสนามของโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ จนเกิดความเสียหายกับตนเอง 

โดย นายสิระ ระบุว่า วันนี้ตนออกมาปกป้องสิทธิ์ด้วยการแจ้งความในข้อหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมจะปรึกษาตำรวจว่าเข้าข่ายหมิ่นเจ้าพนักงานหรือไม่ เพราะตนทำหน้าที่ ส.ส.ลงพื้นที่ดูแลประชาชนที่มาร้องเรียนว่าไม่ได้รับความปลอดภัยจากการตั้ง รพ.สนาม ซึ่งไม่มีการป้องกันการแพร่เชื้อ การระบายน้ำเสีย และอื่นๆ เนื่องจากพื้นที่นั้นเป็นชุมชนที่พักอาศัย มีตลาด และผิดระเบียบสถานพยาบาลตามกฎกระทรวงที่ต้องห่างไกลชุมชน 

นายสิระ ยังตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใด นพ.เหรียญทองจึงไม่ไปขอใบอนุญาต ทั้งนี้เพราะ รพ.สนามแห่งนั้น ไม่ตรงลักษณะสถานพยาบาลหรือไม่ อีกทั้ง รพ.มงกุฎวัฒนะ ยังเปิดรับบริจาคเงินไปสนับสนุนเครื่องมือการแพทย์และก่อสร้าง รพ.สนาม แต่กลับมีเรื่องผลประโยชน์ในการคิดค่ารักษากับผู้ป่วย ต้องให้ สปสช.ตรวจสอบด้วยว่าจ่ายเงินสมทบไปด้วยเท่าไหร่

“ตัวท่านเองมาอ้างถึงนายกรัฐมนตรี อ้างถึงสถานบัน อ้างว่ามาทำเพื่อประชาชน เวลากล่าวหากลุ่มผู้ชุมนุมว่าฝ่าฝืนกฎหมาย นี่ท่านเองกลับออกมาพูดว่าฝ่าฝืนกฎหมายเพราะทำเพื่อประชาชน ผมก็จะให้ตรวจสอบกรณีนี้ด้วย การกระทำแบบนี้ ไม่รับผิดชอบต่อสังคม ตัวท่านเองไม่ได้ใหญ่โตกว่าคนอื่น ไปละเมิดสิทธิคนอื่น และยังโพสต์เฟซบุ๊กดูถูกประชาชน ทั้งที่เขามีสิทธิ์ออกมาแสดงความเห็นว่าไม่ปลอดภัย เมื่อวานนี้ แทนที่ท่านเองบอกจะมาชี้แจง จะพาไปดูว่าแก้ไขอย่างไร กลับมาบอกกับผมว่า”มึงจะมีเรื่องกับกูเหรอ”นายสิระ กล่าว

ทั้งนี้ นายสิระ ได้ขอให้กระทรวงสาธารณสุข และกรมควบคุมโรค และสำนักงานเขตหลักสี่ เข้าไปดำเนินการ ตรวจสอบเพราะหมอเหรียญทองยอมรับว่า รพ.สนามไม่ได้มีการขออนุญาตซึ่งหากยังไม่ดำเนินการตนเองในฐานะประธานกรรมาธิการกฎหมายฯ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาให้ข้อมูล ในชั้นกรรมาธิการ เพื่อสอบสวนการกระทำความผิดดังกล่าวโดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล และอธิบดีกรมควมคุมโรค ซึ่งเป็นผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข หากไม่ทำ ตนเองจะดำเนินการแจ้งความตามมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่