"บิ๊กตู่"สยบรอยร้าว"สธ.-กทม."ปมวัคซีนไม่พอ สั่ง"เลขาฯสมช.-ผู้ว่าฯกทม.-อธิบดีกรมควบคุมโรค"ตั้งโต๊ะแถลง ด้าน"บิ๊กเล็ก"ลั่นไม่วัคซีนการเมือง กราบขออภัย ปชช.หลังการฉีดวัคซีนคลาดเคลื่อน ยันคนถูกเลื่อนฉีดก่อน ไม่ต้องต่อท้ายแถว ย้ำจำเป็นต้องปรับสถานการณ์ ยันยังเป็นเป้าหมายเดิมฉีด 50 ล้านคนอย่างช้าเดือน ต.ค.
เมื่อเวลา 11.40 น.วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สั่งการให้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) , พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงข่าวชี้แจงหลังเกิดกรณีปัญหาความขัดแย้งการกระจายวัคซีนโควิด-19 ระหว่าง กทม.และกระทรวงสาธารณสุข
โดย พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขอยืนยันว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ศบค.บูรณาการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในทุกๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของวัคซีนทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทุกส่วนราชการตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ
เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า ประชากรไทยมีทั้งหมด 67 ล้านคน นโยบายของนายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค.ต้องการให้มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนทุกคนในประเทศ รวมทั้งชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทยประมาณ 2.6 ล้านคน โดยกระทรวงสาธารณสุข มีหลักการว่าการฉีดวัคซีนให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่นั้นจะต้องฉีดร้อยละ 70 ซึ่งจะต้องฉีดให้กับประชากรจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 50 ล้านคน เมื่อมีเป้าหมายเช่นนี้ เราจึงจำเป็นต้องเตรียมวัคซีนสำหรับประชากร 50 ล้านคน คือ 100 ล้านโดส ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มีการเตรียมการไว้เรียบร้อยแล้วจำนวน 100 ล้านโดส ในปี 2564 โดยแบ่งเป็นซิโนแวคประมาณ 8 ล้านโดส แอสตราเซเนกา 61 ล้านโดส ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อีก 5 ล้านโดส รวมเป็น 94 ล้านโดส ซึ่งในส่วนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 5 ล้านโดส จะมีค่าของวัคซีนมากกว่าชนิดอื่น 2 เท่า จึงทำให้ถ้าเรารวมวัคซีนทั้งหมดเรามีวัคซีนประมาณ 99 ล้านโดส นอกจากนั้น ในปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมจัดการหาซื้อเพิ่มเติม จึงยืนยันได้เลยว่าวัคซีนของประเทศไทยมีเพียงพอ สำหรับประชาชนที่จะฉีดให้กับประชาชนจำนวน 50 ล้านคน ภายในปี 2564 อย่างแน่นอน
เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า สำหรับแผนการฉีดวัคซีนที่ศบค.หารือกับกระทรวงสาธารณสุข โดยตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นมาถือเป็นวาระแห่งชาติ ในการฉีดวัคซีน โดยในเดือน มิ.ย.จะมีการฉีดวัคซีนประมาณ 6 ล้านโดส เดือนถัดๆ ไป จะฉีดเดือนประมาณเดือนละ 10 ล้านโดส เป็นอย่างน้อย ทำให้เราสามารถฉีดวัคซีนครบเข็มแรกจากจำนวนประชากร 50 ล้านคน ภายในประมาณเดือน ก.ย.หรืออย่างช้าเดือน ต.ค.
"การวางแผนที่ดีที่สุดและไม่เกิดปัญหาเลยคือ เมื่อได้วัคซีนมาแล้วค่อยมาวางแผนฉีด แต่จะทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการ เพราะฉะนั้น ศบค.จึงร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขวางแผนล่วงหน้า หรือประมาณการว่าวัคซีนนั้นจะเข้ามาอย่างไร ดังนั้น เมื่อเกิดความคาดเคลื่อนกรณีที่วัคซีนไม่เข้ามาตามแผนก็ต้องมีการปรับแผน ดังนั้น การเตรียมการล่วงหน้า การจองเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีน จึงทำให้ต้องมีการเลื่อนกันบ้าง ซึ่งต้องกราบขออภัยประชาชน แต่อย่างไรก็ตามในภาพรวม ผมยืนยันว่าทุกอย่างยังเป็นไปตามกำหนดการ และเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดไว้ในแต่ละเดือน จึงมีความจำเป็นที่ต้องเลื่อนการฉีดบ้าง แต่ก็มีการเตรียมการแก้ปัญหาเมื่อวัคซีนเข้ามา คนที่ถูกเลื่อนออกไปจะได้รับการฉีดในอันดับแรกๆ และยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาศบค.ร่วมหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากทุกหน่วยงาน และทุกส่วนราชการทั้ง สาธารณสุข มหาดไทย ต่างประเทศหรือกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าบูรณาการงานกันอย่างสอดคล้อง การทำงสนเป็นไปด้วยดี" พล.อ.ณัฐพล กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะแก้ปัญหาความไม่เชื่อมั่นของประชาชนกรณีเรื่องวัคซีนการเมืองอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวยืนยันว่า ไม่มีวัคซีนทางการเมืองอย่างแน่นอน ยืนยันว่าทุกคนทำงานตามกรอบและนโยบายศบค.ยืนยันว่าไม่มีประเด็นดังกล่าวแน่นอน
"ขอยืนยันอีกครั้งว่า ตั้งแต่เข้ามาบริหารสถานการณ์สถานการณ์โควิดมาเป็นเวลากว่า 14 เดือน ผมรู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่เกิดเป็นคนไทยเพราะเราได้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของประเทศต่างๆ ทั่วโลก พบว่าคนไทยให้ความร่วมมือกับมาตรการของศบค.เป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ทุกคนมีความตั้งใจที่จะทำงานให้กับประชาชนอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้นสิ่งใดก็ตามที่อาจจะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบไปบ้างก็ต้องกราบขออภัยมา ณ โอกาสนี้" พล.อ.ณัฐพล กล่าว
เมื่อถามว่า ปัญหาในเรื่องกระจายวัคซีนเป็นไปได้หรือไม่ที่นายกฯ ในฐานะ ผอ.ศบค.จะออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ไม่ทราบ เป็นเรื่องของนายกฯ เมื่อถามย้ำว่า วันนี้ถือว่าสยบข่าวเกาเหลาระหว่างสาธารณสุข และ กทม.ได้แล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ยิ้มพร้อมกับว่า ก็คุยกันดี เมื่อถามว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากการสื่อสารใช่หรือไม่ พล.อ.ณัฐพล ไม่ตอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี