"ฝ่ายค้าน"มีมติชงแก้ม.272 ปิดสวิตซ์ส.ว. ส่วนอีก 4 ร่าง"เพื่อไทย"เป็นเจ้าภาพ ย้ำต้องพิจารณา"พ.ร.บ.ประชามติ"ให้เสร็จก่อนจึงจะเอาเรื่องแก้"รธน."เข้าได้
เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2564 ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อหารือถึงการยื่นญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกัน โดยมีหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นเวลา 11.50 น.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท.กล่าวว่า สาระสำคัญ 3 ประเด็น คือ 1.พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นพ้องต้องกันว่ารัฐสภาต้องจัดให้มีการประชุมเรื่องร่าง พ.ร.บ.การออกเสียงประชามติเสียก่อน เมื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประชามติเสร็จแล้ว จึงค่อยพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อไป
2.การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีรายละเอียด ดังนี้ 2.1 การแก้ไขรายมาตราในมาตรา 272 พรรคร่วมฝ่ายค้าน จะยื่นญัตตินี้พร้อมกัน 2.2 การยื่นแก้ไขมาตรา 256 พรรค พท.จะเป็นผู้นำเสนอ โดยขอยืนยันหลักการเดิมที่เคยเสนอไป แต่พรรคพท.ไม่ปิดโอกาสที่จะให้พรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นมาร่วมเสนอ และ 2.3 ประเด็นอื่นๆ เช่น สิทธิเสรีภาพของประชาชน ระบบการเลือกตั้ง และเรื่องอำนาจ ส.ว.รวมถึงการนิรโทษกรรมคสช. พรรคพท.จะเป็นผู้นำเสนอญัตติ ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านใดจะร่วมเสนอก็ยินดี ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านจะร่วมกันเสนอญัตติต่อประธานสภาในวันที่ 16 มิถุนายนนี้
ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลพยายามลากยาวอำนาจ เพราะ ฉะนั้นพรรค ก.ก.ไม่ต้องการมีส่วนร่วม หรือร่วมสังฆกรรมกับการแก้รายมาตราของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และหากเรียงลำดับความสำคัญของกฎหมายร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ต้องมาก่อน เป้าหมาย และโจทย์ใหญ่ในการแก้รัฐธรรมนูญธรรมนูญครั้งนี้อยู่ที่ 250 ส.ว.ที่มีส่วนในการเลือกนายกฯ นี่คือจุดร่วมที่พรรค ก.ก.เสนอมาตั้งแต่เป็นอนาคตใหม่ เราจึงจะลงชื่อร่วมเสนอเรื่องนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เป็นร่างตามลงมาก็มีส่วนที่สำคัญ แต่ส่วนที่สำคัญที่สุดที่เราไม่อยากให้หลุดประเด็นไปคือเรื่อง 250 ส.ว.เราจึงเน้นเรื่องนี้ก่อน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวว่า ตนสนับสนุนหลักการในระบบรัฐสภา ซึ่งในวันที 22 - 23 มิถุนายนนี้ ที่ฝ่ายค้านได้รับการประสานงานจากเลขานุการของประธานรัฐสภาว่า จะนำเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามาพิจารณาก่อน โดยทางรัฐบาลขอเป็นวาระพิเศษ ตนเห็นว่า ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เพราะรัฐธรรมนูญฉบับที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาครั้งนี้ ไม่ได้มีฉบับของรัฐบาลเลยแม้แต่ฉบับเดียว แต่เป็นฉบับของพรรคการเมืองหนึ่งเท่านั้น ตนจึงอยากขอร้องให้ประธานรัฐสภาทำหน้าที่ในการบรรจุวาระ ไม่มีเหตุผลใดๆเลยที่รัฐสภาจะนำเรื่องรัฐธรรมนูญเข้ามาพิจารณาก่อนเรื่อง พ.ร.บ.ประชามติ ถ้ารัฐสภายอมให้เรื่องใดเรื่องหนึ่งถูกบรรจุเข้ามาเป็นวาระพิเศษได้แปลว่า รัฐบาลมีอำนาจเหนือรัฐสภา อยากให้ประธานวิปฝ่ายค้านประสานกับทางประธานรัฐสภาให้รักษาเกียรติของรัฐสภาไว้ก่อน นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนช่วยกันติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้แก้ไขวิกฤติของประเทศชาติ ไม่ใช่แก้ไขปัญหาให้กับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก.กล่าวว่า อยากย้ำว่า ทางเราเห็นว่า สิ่งที่ระบอบ คสช.กำลังทำอยู่ ผ่านการเสนอแก้ไขรายมาตราที่นายไพบูลย์เสนอ หัวใจจริงๆเป้าหมายมีเพียง 2 เรื่อง คือ 1.ทำอย่างไรก็ได้ที่จะไม่ให้มีการเปิดช่องจนนำไปสู่การยกเลิกรัฐธรรมนูญ 60 แล้วให้ประชาชนมาร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ และ 2.มีการสร้างเงื่อนไขต่างๆให้นายกฯคนต่อไปยังเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยหัวใจสำคัญที่เขาเสนอคือระบบการเลือกตั้งที่คิดว่าวันนี้ตัวเองได้เปรียบด้วยอำนาจรัฐ และอำนาจอิทธิพลต่างๆ และเปิดช่องให้ให้ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลสามารถเข้าไปเบียดบังงบประมาณแผ่นดิน และแทรกแซงข้าราชการเพื่อประโยชน์ทางการเมืองในอนาคตได้ ดังนั้น พรรค ก.ก.ขอย้ำว่า การกำหนดวาระการประชุมร่วมของรัฐสภานี้ เป็นอำนาจเต็มของนายชวน หลีกภัย ประธานสภา เราไม่อยากเห็นว่า ประธานรัฐสภาไปจัดวาระการประชุมเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเมืองของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลเพียงพรรคเดียว นี่คือสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น และอธิบายไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี