เปิดผลประชุม‘ศบค.’เคาะแล้วเกณฑ์จัดสรรวัคซีนเดือนก.ค. ‘กทม.’รับ5ล้านโดส ยันคนไทยทุกคนต้องได้ฉีดวัคซีน ขณะที่ ‘กทม.-ปริมณฑล’ การระบาดคงตัว แต่ ‘ภาคใต้’ พบมากขึ้น โดยเฉพาะโรงเรียน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ครั้งที่ 8/2564 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานถึงสถานการณ์โรคโควิด-19 ว่า ได้พบการระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง และยังมีแนวโน้มคงตัว โดยเฉพาะในกทม.และปริมณฑล ขณะที่จังหวัดทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือพบผู้ติดเชื้อลดลง
ส่วนจังหวัดที่มีสถานการณ์ประกอบการ โรงงานขนาดใหญ่ ตลาดที่มีผู้ค้าจากหลายจังหวัด และชุมชนโดยรอบ ปรากฏว่าพบการระบาดในกลุ่มแรงงานต่างด้าวและกระจายไปชุมชนใกล้เคียง นอกจากนี้ยังพบการระบาดในโรงเรียน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงกิจกรรมที่มีการรวมคนจำนวนมาก เช่น งานแต่งงาน งานบวช โดยเสนอให้มีการกำกับ ติดตาม มาตรการป้องกันโรคตามข้อกำหนด
ทั้งนี้ มีข้อเสนอให้ทางจังหวัดจำเป็นต้องเตรียมความพร้อม และเน้นการกำกับ ติดตามมาตรการป้องกันโรค พิจารณาจำนวนวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุโรคเรื้อรัง และกลุ่มเสี่ยง ให้สอดคล้องกับการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคในพื้นที่ เพื่อป้องกันการระบาดในจังหวัดที่พบผู้ติดเชื้อน้อยด้วย
สำหรับแผนการฉีดวัคซีน ซึ่งคิกออฟไปเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ประชุมศบค.ได้กำหนดหลักการในการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 โดยเป้าหมายคือคนไทยทุกคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนโดยไม่คิดมูลค่าด้วยความสมัครใจ โดยได้รับการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 อย่างน้อย 50 ล้านคนภายในเดือนตุลาคม 2564 และเร่งรัดการเปิดประเทศภายใน 120 วัน และจัดหาวัคซีนโควิด 19 ให้ครบ 150 ล้านโดส ภายในปี 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อปกป้องระบบสาธารณสุขประเทศ ลดอัตราการป่วย เสียชีวิตในประชากรกลุ่มเสี่ยง และเปิดประเทศโดยเร็วเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ที่ประชุม ศบค.ได้ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนในเดือนกรกฎาคม 2564 โดยมีเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนจำนวน 10 ล้านโดส โดยพิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับผู้ที่จองวัคซีนล่วงหน้ากับระบบหมอพร้อม (ผู้สูงอายุ/ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง) ซึ่งในกรุงเทพมหานครจะได้รับจัดสรรวัคซีนอย่างน้อย 5 ล้านโดส ส่วนภูเก็ตจัดสรรวัคซีนสำหรับเข็มที่ 2 อย่างน้อยร้อยละ 70 ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ และเห็นชอบแผนจัดหาวัคซีน โดยให้ภาครัฐจัดซื้อวัคซีนให้ครบ 150 ล้านโดส เพื่อรับรองกรณีที่ต้องมีการเพิ่มความครอบคลุมการได้รับวัคซีนเพิ่มกลุ่มเป้าหมาย การให้วัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน หรือกรณีอื่นใดที่ต้องใช้วัคซีนเพิ่มเติม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี