“ธรรมนัส”เปิดใจหลังนั่งเลขาฯพรรคเตรียมกำหนดทิศทางสู้ศึกเลือกตั้งในหน้า มุ่งเป็นพรรคอันดับหนึ่ง
เมื่อเวลา 13.45 น.วันที่ 18 มิ.ย.64 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานก่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคคนใหม่ แถลงหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐ
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังจากวันนี้จะนัดประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดทิศทางเตรียมการสู่การเลือกตั้งในครั้งต่อไป ซึ่งที่อาจจะเป็นหนึ่ง 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ วันนี้มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพปชร.และจะมีรองหัวหน้าพรรคทั้ง 4 คน จะร่วมกันทำงานเพื่อกำหนดนโยบายของพรรค ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน โดยเฉพาะในสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ต้องกำหนดทิศทางให้ชัดเจน ที่ผ่านมาพรรคเราถูกมองว่าแตกแยกแต่หลังจากนี้จะไม่มี เราจะไปด้วยกันทำงานเพื่อประชาชน ชาติบ้านเมือง รักษาไว้ซึ่งสถาบัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการขับเคลื่อนงานจะมีอะไรใหม่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ผ่านมา 2 ปี นโยบายพรรคเราดีอยู่แล้ว แต่ด้วยสถานการณ์ที่วุ่นวายหลายเรื่องโดยเฉพาะแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้การขับเคลื่อนนโยบายพรรคไม่ต่อเนื่อง จากนี้เราจะกำหนดให้ชัดเจนเพื่อเดินไปข้างหน้า ส่วนที่มีข้อสงสัยว่ากรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่มีตัวแทนจากกลุ่มสามมิตรต้องชี้แจงว่าคณะกรรมการดังกล่าวจัดทัพจากโควต้าภาคเป็นหลัก
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะไม่มีการเคลื่อนไหวเรื่องตำแหน่งในพรรคและในคณะรัฐมนตรีใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การจะเดินไปข้างหน้าจะต้องปรึกษาหัวหน้าพรรคและเดินไปด้วยกัน ฉะนั้นเรื่องที่จะเกิดปัญหาเหมือนที่ในอดีต ตนมั่นใจว่าคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ จะไม่มีอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลายคนมองว่าเลขาธิการพรรค ส่วนใหญ่จะไม่เป็นแค่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องการบริหารพรรคกับตำแหน่งทางการเมืองคนละเรื่องกัน ตนอยู่ตรงนี้พร้อมทำงานในฐานะเลขาฯพรรค เพื่อนำพาพรรคและสมาชิกพรรค ส่วนตำแหน่งทางการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าการสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งหน้าคิดว่าจะชนะหรือไม่ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ผ่านมาในการเลือกตั้งซ่อมเราไม่เคยแพ้ และคิดว่าการเลือกตั้งซ่อมหรือการเลือกตั้งในอนาคตมั่นใจว่าหัวหน้าพรรคและสมาชิกสามารถเดินไปข้างหน้าและจะเป็นพรรคใหญ่ที่มั่นคง จะเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้
เมื่อถามย้ำว่าตำแหน่งเลขาธิการพรรคส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่ปั้นนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เราเป็นพรรคใหญ่ มั่นใจว่าจะได้ส.ส.มากกว่านี้ และจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ต่อไป
เมื่อถามว่าพล.อ.ประวิตร ได้มบนโยบายอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ป่านมา พล.อ.ประวิตรได้ปฎิบัติภารกิจที่จังหวัดขอนแก่นและหารือกับแกนนำพรรคโดยมอบนโยบายเน้นให้เป็นหนึ่งเดียวกันและเดินไปข้างหน้า ทั้งนี้หลังได้รับเลือกเป็นเลขาธิการพรรคไม่ได้มีการพูดคุยกับพล.อ.ประวิตร แต่เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจจะโทรศัพท์หา และที่พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ เนื่องจากติดภารกิจ เมื่อถามว่าจะโทรหาพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแสดงตัวให้รู้ว่าเป็นผู้ประสานของรัฐบาลคนใหม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ผ่านมาคุยกับพรรคร่วมตลอดเวลา และก็ทำหน้าที่ประสานงานอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจบการแถลงข่าวสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่งมอบกระเช้าดอกไม้และผูกผ้าขาวม้าแสดงความยินดีกับร.อ.ธรรมนัส อย่างชื่นมื่น และก่อนเดินทางกลับมีหญิงกลางคนมาร้องเรียนเพื่อขอให้ช่วยเหลือเนื่องจากไม่มีทุนประกอบอาชีพ โดยร.อ.ธรรมนัส ให้ผู้ติดตามมอบเงินจำนวนหนึ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ร.อ. ธรรมนัส ถือเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ คนที่ 3 ต่อจาก นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ และนายอนุชา นาคาศัย อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้า พล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค ได้เดินทางมาที่ จ.ขอนแก่น ในเวลา 07.30 น.และได้มีการพบปะกับแกนนำพรรคและสมาชิกพรรค ที่โรงแรมพลูแมน แต่ไม่ได้มาร่วมประชุมที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดขอนแก่นแต่อย่างใด ส่วนกลุ่มสามมิตร นำโดย นายสุริยะ นายสมศักดิ์ นายอนุชา เมื่อเสร็จการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ก็เดินทางกลับ กทม.ในเวลา 11.30 น.ทันที ขณะที่การประชุมได้เสร็จสิ้นในเวลา 14.00 น.สำหรับขั้นตอนต่อไป จะต้องส่งรายงานการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 ครั้งที่ 1/2564 ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี