เป็นไปตามคาด! รัฐสภาลงมติท่วมท้น คลอด'กม.การออกเสียงประชามติ'

เป็นไปตามคาด! รัฐสภาลงมติท่วมท้น คลอด'กม.การออกเสียงประชามติ'

วันอังคาร ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 15.39 น.

โหวตท่วมท้น! รัฐสภาฉลุยกม.ประชามติ ติงบทลงโทษจ้องเล่นงานจนท.ระดับล่าง ห่วงเปิดช่องใช้กม.ปิดปากปชช.

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 22 มิ.ย.64 ที่รัฐสภา มีการประชุมรัฐสภา มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ วาระ2 ที่ค้างอยู่จากสมัยประชุมรัฐสภาครั้งที่แล้ว ก่อนเข้าสู่วาระประชุมนายชวนขอความร่วมมือสมาชิกให้เว้นระยะห่างเท่าที่ทำได้ ใครที่ยังไม่อภิปรายให้อยู่นอกห้องประชุม และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาอย่างเคร่งครัด ตามมาตรการป้องกันเชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข


จากนั้นจึงเข้าสู่วาระการประชุมพิจารณาเรื่องด่วนพิธีสารแก้ไขข้อตกลงร่วมว่าด้วยการยอมรับคุณสมบัติบุคลากรด้านการท่องเที่ยว อาเซียน ตามที่ครม.เป็นผู้เสนอ มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ชี้แจง ใช้เวลาอภิปรายร่วม 2ชั่วโมง ที่ประชุมจึงให้ความเห็นชอบพิธีสารดังกล่าวด้วยคะแนน  600 ต่อ 0 งดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนน 4

ต่อมาเวลา11.45 น.เข้าสู่การพิจารณาร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ โดยเริ่มพิจารณาจากการลงมติมาตรา 53 และ 54 เรื่องการคัดค้านการออกเสียงประชามติ  ที่ค้างมาจากการประชุมรัฐสภาสมัยที่แล้ว ซึ่งที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบ

เมื่อเข้าสู่การพิจารณามาตรา 55 เรื่องบทกำหนโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติ หน้าที่ตามพ.ร.บ.นี้ ที่ใช้อำนาจมิชอบในการออกเสียงประชามติ มีโทษจำคุก 1-10ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง โดยมีส.ส.หลายคนอาทิ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทักท้วงว่า เป็นการมุ่งลงโทษเฉพาะเจ้าหน้าที่ระดับล่างที่เป็นฝ่ายปฏิบัติ แต่ไม่มีบทลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐในระดับสูงที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบให้การออกเสียงประชามติไม่เป็นกลาง จึงควรขยายขอบเขตบทลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐให้ครอบคลุมถึงส.ส. ส.ว. และผู้บริหารท้องถิ่นด้วย อย่างไรก็ตามที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 55 ด้วยคะแนน 374 ต่อ 124 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน10

ขณะที่มาตรา 60 เรื่องการกระทำใดที่เป็นความผิดในการออกเสียงประชามตินั้น นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายขอให้ตัดข้อความ “เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่จะออกเสียงประชามติอันเป็นเท็จ” ตามที่กมธ.เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ เนื่องจากเป็นการเขียนไว้กว้างเกินไป สามารถตีความได้หมด เกรงว่าจะเป็นการใช้กฎหมายมาปิดปากประชาชน ทำให้การรณรงค์ประชามติอาจถูกปิดกั้น มีการให้ข้อมูลประชาชนแค่ฝ่ายเดียว ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มข้อความดังกล่าวขึ้นมา เพราะสามารถใช้การเอาผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 60 ด้วยคะแนน 479  ต่อ35 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 6

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการประชุมในช่วงบ่ายเป็นไปอย่างราบรื่น สมาชิกทั้งส.ส.และส.ว.อภิปรายแสดงความคิดเห็นในมาตราต่างๆกันอย่างกว้างขวาง ไม่มีการตีรวนใดๆ ทำให้การพิจารณาเดินหน้าไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเวลา 15.00น. สมาชิกอภิปรายกันครบทั้ง 67 มาตรา ที่ประชุมจึงลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ ในวาระสาม ด้วยคะแนน 611 ต่อ 4 งดดออกเสียง 2 ไม่ลงคะแนนเสียง 1 รอการบังคับใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดยใช้เวลาอภิปรายทั้งหมด 3.15 ชั่วโมง 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top