เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวกับการสั่งการและประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่ทุกจังหวัดได้รับทราบและถือปฏิบัติตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19มิ.ย.2564 เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมสามารถดำเนินไปได้ควบคู่กับการใช้มาตรการป้องกันและควบคุมโรค ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหารือกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด (ผอ.รมน.จังหวัด) ประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ 1.มาตรการด้านร้านอาหาร ให้วางมาตรการป้องกันและควบคุมโรค เพื่อให้ผู้ประกอบการจัดให้มีมาตรการคัดกรอง จัดระเบียบผู้เข้าใช้บริการ และการเว้นระยะห่าง จำกัดจำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน งดการรวมกลุ่มหรือจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ รวมทั้งห้ามการบริโภคเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้านตามข้อกำหนดหรือที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนดอย่างเคร่งครัด
2.มาตรการด้านโรงงาน สถานประกอบการ และแรงงาน จัดเตรียมแผนเผชิญเหตุเพื่อเตรียมการกรณีเกิดการติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ในโรงงาน สถานประกอบการ หรือแคมป์คนงาน กรณีที่กำหนดควบคุมโรคโดยหลักการ bubble and seal ในพื้นที่ใด ให้ดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด แล้ววางมาตรการเฝ้าระวังมิให้มีการลักลอบออกนอกพื้นที่ควบคุมอย่างเด็ดขาด
3.ดำเนินมาตรการด้านชายแดนและการลักลอบเข้าเมืองตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเรื่องการควบคุมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากประเทศเพื่อนบ้าน แบ่งเป็น การปฏิบัติในพื้นที่ชายแดน ให้เข้มงวดควบคุมการลักลอบเข้าประเทศ โดยตั้งเครื่องกีดขวาง จัดให้มีการลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นป้องกันมิให้มีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติ บริเวณพื้นที่ชายแดน หากพบการลักลอบเข้าประเทศให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเข้มข้น สำหรับการปฏิบัติในพื้นที่ตอนใน ให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดคัดกรองโรคบุคคล และรถขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้านบนเส้นทางที่มีโอกาสจะมีการเดินทางลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ด้วยการคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าเมืองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข คัดกรองรถขนส่งสินค้า รวมทั้งให้ผู้บัญชาการเหตุการณ์ (Incident commander : IC) ประจำช่องทางผ่านแดนอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง และการปฏิบัติในพื้นที่หมู่บ้าน/ชุมชน ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน อาสาสมัครในพื้นที่ รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ สำรวจ ตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน/ชุมชน รวมทั้งบุคคลที่เคยอยู่ในหมู่บ้าน/ชุมชน หากพบว่าเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข และกรณีพบการละเมิดให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย
“หากพบแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายหรือมีข้อมูลเบาะแสขบวนการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนผู้พบเห็นการกระทำผิดกฎหมายให้แจ้งนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป” ปลัดมท. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี