เห็นใจ-ไม่ทิ้ง‘บิ๊กตู่’
‘จุรินทร์/อนุทิน’ย้ำจุดยืนชัด
จับมือร่วมทำงานจนครบวาระ
ทำงานใหญ่จะต้องหนักแน่น
ทุกฝ่ายอดทน/ไม่ซ้ำเติมวิกฤติ
‘วราวุธ’ชี้ต้องช่วยกันทุกฝ่าย
“อนุทิน-ศักดิ์สยาม”ประสานเสียงยัน“ภูมิใจไทย”ไม่เคยคิดทิ้ง“บิ๊กตู่”หลังนายกฯตัดพ้อในวงครม.ลั่นยังมั่นคง-เหนียวแน่น พร้อมอยู่ร่วมรัฐบาลครบวาระ“จุรินทร์”ยันจับมือเดินต่อ-เห็นใจ“บิ๊กตู่”งานหนัก แบกรับทุกปัญหา ลั่นทำงานใหญ่ ต้องหนักแน่น อย่าซ้ำเติมวิกฤติ“วราวุธ”ยันไม่ใช่เรื่องการเมือง ชี้ใครช่วยตรงไหนได้ก็ช่วยกันกรณี‘บิ๊กตู่’สั่งพาปชช.กลับบ้านรักษา ’ไผ่ ลิกค์’โดดหนุนแนวทางพาคนป่วยกลับรักษาภูมิลำเนา เป็นสิ่งที่ต้องทำ ใครมีกำลังที่ไหนต้องช่วยกัน
จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตัดพ้อช่วงหนึ่งในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อวันที่ 20กรกฎาคมที่ผ่านมา ถึงคำถามที่สื่อมวลชนส่งไปถามโดย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า“ดูแต่ละคำถาม ถามแบบนี้จะให้ตอบอย่างไร ผมไม่ได้ทำงานคนเดียว เราทุกคนช่วยกันทำงาน ผมไม่คิดว่า เป็นเวลาของการเล่นการเมือง ถ้าท่านจะออกจากผมก็แล้วแต่ ผมก็จะทำงานของผมต่อไป ผมไม่ทิ้งคุณ พวกคุณจะทิ้งผมก็ตามใจ”
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ถึงกรณีดังกล่าวว่าในส่วนของพรรคภูมิใจไทยจะทิ้งรัฐบาลและนายกฯหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวสั้นๆว่า ไม่เคยคิด และแน่นอนว่าพรรคภูมิใจไทย ยังมั่นคง เหนี่ยวแน่น อยู่ร่วมรัฐบาลยาวจนครบวาระ
ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยคิดเรื่องที่จะทิ้งรัฐบาลและนายกรัฐมนตรี
‘จุรินทร์’เห็นใจบิ๊กตู่/จับมือลุยทำงาน
ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์เปรยกับพรรคร่วมรัฐบาลในที่ประชุมครม.ว่า“จะทิ้งผมก็ตามใจ”ว่าตนก็เห็นใจท่านนายกเพราะท่านทำงานหนักและต้องแบกรับทุกปัญหา ซึ่งท่านพูดแล้วว่า ขอให้ทุกฝ่ายอดทน แต่ไม่ว่าใครรวมทั้งตนจะทำงานใหญ่ก็ต้องหนักแน่น ไม่ซ้ำเติมวิกฤตและไม่โกงและขอบอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ ไม่พูดมาก ตรงไปตรงมา มุ่งทำหน้าที่เต็มความสามารถ แม้ไม่ได้ทำเรื่องโควิดโดยตรง แต่เรื่องเศรษฐกิจส่วนหนึ่งที่อยู่ในความรับผิดชอบทุกอย่างก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกษตรกรในเรื่องนโยบายประกันรายได้ภายใต้ วิสัยทัศน์ เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด หรือเรื่องการส่งออกที่ประสบความสำเร็จอย่างดีภายใต้วิกฤตโควิดของโลกและได้กลายเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอยู่ในปัจจุบัน เมื่อถามว่า พรรคปชป.ยังยืนยันจะอยู่ร่วมรัฐบาลต่อไปหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ได้เคยตอบเรื่องนี้ไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องตอบอะไรอีก
‘วราวุธ’ลั่นต้องช่วยกัน/ไม่ใช่การเมือง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์การหารือในที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 20กรกฎาคมที่ผ่านมา ถึงการรับผิดชอบพาประชาชนกลับไปรักษาตัวในภูมิลำเนา มองเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ว่า เรื่องช่วยพาประชาชนกลับบ้าน ตรงนี้อย่ามองว่าเป็นเรื่องการเมือง ปัญหาของโควิดจะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน มันโดนเหมือนกันหมด ซึ่งเจตนารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม คือ รัฐมนตรีคนใดช่วยตรงไหนได้ก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ไม่ใช่เฉพาะแค่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเดียว ตัวอย่างของตนเป็นผู้แทน จ.สุพรรณบุรี ทำอะไรได้ให้กับจังหวัดก็ไปช่วยกันทำ มีเครือข่ายอยู่ที่ใดก็ช่วยกันทำ ซึ่งโรงพยาบาลสนามของสุพรรณฯตอนนี้เต็มไปแล้วทั้ง 2แห่ง โรงพยาบาลหลักก็เต็มเกือบหมดแล้ว จึงเริ่มทำเป็นCommunity Isolation ใช้อาคารอเนกประสงค์ตาม อบต.โดยผู้นำท้องถิ่นแต่ละที่ก็เร่งปรับเอาเตียงเข้ามาช่วยกันเต็มที่ เราก็ซับพอร์ตทำงานเป็นระบบในจังหวัด ส่วนการที่นำคนกลับบ้านไม่ใช่กระจายเชื้อ แต่ลดภาระบุคลากรการแพทย์ในกรุงเทพฯ ฉะนั้นใครช่วยตรงไหนได้ก็ช่วยกัน สิ่งที่สำคัญที่สุดในนาทีนี้คือ อย่ามองทุกอย่างเป็นเรื่องการเมือง
“นาทีนี้ผมไม่ได้พูดเรื่องการเมือง ผมทำในฐานะประชาชนคนไทยคนหนึ่งที่เราอยู่ตรงไหนเราช่วยไปในสถานะใดได้ก็ช่วยเต็มที่อย่างผมมีสส.อยู่ใน จ.สุพรรณบุรี ทุกเขตก็ช่วยกันประสานงาน วันนี้เราไม่แบ่งแล้วว่าเป็นเรื่องของรัฐบาล หรือเรื่องของประชาชน ใครช่วยอะไรตรงไหนได้ช่วยเต็มที่ เพราะถ้าทุกอย่างมองเป็นการเมืองไปหมด เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าคนนั้น เป็นอย่างนี้คนนี้เป็นอย่างนั้น แต่โควิดมันไม่ได้เลือก ที่จะติดเฉพาะรัฐบาล หรือ เฉพาะฝ่ายค้านหรือเฉพาะคนพรรคนั้น พรรคนี้มันติดกันหมด ฉะนั้นเวลาแก้ปัญหาใครช่วยกันตรงไหนได้ก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ”นายวราวุธ กล่าวย้ำ
‘ไผ่ ลิกค์’หนุนพากลับภูมิลำเนา
นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร ในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์การหารือในที่ประชุมครม.เมื่อวันที่ 20กรกฎาคมที่ผ่านมา ถึงการรับผิดชอบพื้นที่พาประชาชนกลับไปรักษาตัวในภูมิลำเนา มองเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ ว่า ไม่ได้มองเป็นเรื่องการเมือง แต่มองว่าใครมีกำลังต้องออกมาช่วยกันตอนนี้ในแต่ละจังหวัด บางจังหวัดก็หลวมบางจังหวัดก็มีพื้นที่เตียง ถ้าระบายผู้ป่วยกลับมาได้ กรุงเทพก็จะโล่งขึ้น ตนมองว่าตรงนี้ไม่ใช่การเมือง แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำ เรื่องนี้จริงๆก็ทำกันอยู่แล้ว แต่ถ้าภาพได้ออกมาว่า ทำได้เยอะขึ้นก็ยิ่งดี เพราะมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว วันนี้คำว่าเล่นการเมืองคงจะต้องไม่ออกมาโจมตีกัน แต่วันนี้ใครมีกำลังตรงไหนก็ต้องช่วยกัน
รพ.กำแพงเพชรพร้อมต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวถามถึงในพื้นที่มีความพร้อมรับคนกลับภูมิลำเนามีหรือไม่ นายไผ่กล่าวว่าในพื้นที่ที่ตนดูแลเต็มที่อยู่แล้วและได้รับการสนับสนุนจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพปชร.และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการ พปชร.ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถุงยางชีพและของอย่างอื่นที่นำมาสนับสนุนดูแลคนในพื้นที่ก็กระจายหมดซึ่งได้มีการช่วยเหลือมาตลอด เมื่อถามย้ำว่าโรงพยาบาลสนามใน จ.กำแพงเพชร พร้อมจะรองรับผู้ป่วยจากกรุงเทพใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า โรงพยาบาลสนามกำแพงเพชรขณะนี้ ยังพร้อมอยู่และได้ทำการประสานกับผู้ว่าฯ ซึ่งตอนนี้ยังมีที่พอรองรับผู้ป่วย ยังไม่ขาด โดยมีหลายเคสที่ตนได้ประสานและติดต่อนำผู้ป่วยจากกรุงเทพฯที่อยากจะกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามกำแพงเพชร
‘แรมโบ้’ซัดเด็กพท.ใส่ความคนอื่น
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) วิพากษ์วิจารณ์การบริหารสถานการณ์โควิดของนายกฯ พร้อมจี้ให้ยอมรับความจริงว่าล้มเหลว เละยิ่งกว่าโจ๊กนั้น โดย นายเสกสกล ระบุว่า ต้องยอมรับว่าสถานการณ์แพร่เชื้อโควิดเกิดขึ้นทั่วโลก เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลาย นายกฯ ทีมแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาร่วมกันแล้วว่า การล็อกดาวน์จะทำให้สถานการณ์การระบาดคลี่คลายลงได้ พร้อมกับหามาตรการต่างๆมาเยียวยาให้ประชาชน โดยที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบมาตรการเยียวยาให้กับนายจ้างผู้อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา33 ลูกจ้างแรงงาน มาตรา33 ที่ตกงาน ผู้ประกันตนมาตรา39และ40แล้ว ซึ่งแม้จะล็อกดาวน์ หรือไม่ล็อกดาวน์นั้น รัฐบาลได้มีมาตรการต่างๆออกมาช่วยเหลือประชาชนอยู่แล้ว
“พรรคเพื่อไทยควรหยุพูดวิพากษ์วิจารณ์การบริหารสถานการณ์โควิดได้แล้ว ประชาชนเริ่มเบื่อหน่ายออกมาพูดแต่เรื่องเดิมๆทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่า หลายภาคส่วนได้ทำงานอย่างหนักมากเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ ทุกคนเหนื่อยมาก แต่ทางกลับกันคนในพรรคพท.เอาแต่สบาย วันๆไม่ทำอะไรที่เป็นประโยชน์เพื่อชาติบ้านเมืองเลย มีแต่ออกมาพูดตำหนิคนทำงาน หวังทิ่มแทงทำลายเพื่อที่จะได้เข้ามามีอำนาจรัฐ อยากเป็นรัฐบาลมากเกินไปจนไม่ระงับยับยั้งความอยากมีอยากได้ แต่ตนก็ขอบอกว่าควรเข้ามาตามกระบวนการ แต่พฤติกรรมของคนในพรรค พท.แบบนี้ก็ไม่แน่ใจว่า ประชาชนจะเลือกเข้ามาอีกหรือไม่ และขอบอกอีกว่านายกฯยังอยู่แก้ไขปัญหาจนครบเทอม ไม่ลาออก หรือไม่ยุบสภาแน่นอน ส่วนที่บอกว่านายกฯ รัฐบาลเละยิ่งกว่าเละแล้วนั้น ขอให้ย้อนมองดูในพรรคพท.ด้วยว่า เละซะยิ่งกว่าเละหรือไม่ เพราะแกนนำลาออกจากพรรคแทบหมด แตกคอกันเละตุ้มเป๊ะ บริหารในพรรคภายในครอบครัวตัวเองไม่ได้ อย่ามาเที่ยวกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีคนอื่นเลย รู้จักอับอายขายขี้หน้าประชาชนบ้างเถอะ”นายเสกสกล ย้ำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี