เปิดหน้าตัก ‘ยุทธพงศ์’ ห้าวเป้ง! เปิดศึกเต็มอัตรา ท้า ‘เรืองไกร’ 5 ส.ค.นี้เจอกันหน้าไทยเบฟ แฉวิ่งโร่ขายที่ดินให้ ‘เจ้าสัว’ 600 ล้าน
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2564 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่ นายเรืองไกรลีกิจวัฒนะ ร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินกรณีนำที่ทำการ ส.ส.ในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ทำเป็นรพ.สนามและไม่ได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ว่า ตนมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเข้าสภาอย่างสง่าผ่าเผย ไม่เหมือนนายเรืองไกรที่เป็น ส.ว.แค่ครั้งเดียว และเป็นจากการแต่งตั้ง ไปสอบ ส.ว.ก็สอบตก ซึ่งวันนี้คนติดเชื้อก็นิวไฮ ประมาณ 16,000 คน คนอดอยากก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนที่เป็น ส.ส.จะไปทิ้งประชาชนได้อย่างไร ก็ต้องมีจิตใจเมตตาที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ จึงขอชี้แจงว่าหน้ากากอนามัย
ที่นายเรืองไกร ถามว่า ตนไปเอาหน้ากากมาจากไหน ซึ่งมีเจ้าสัวใหญ่นำไปบริจาคช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กำลังประสบปัญหาโควิด-19 ส่วนการให้ที่ทำการ ส.ส. ตนทำเป็นโรงพยาบาลสนามนั้น ตนขอเรียนว่า ได้มีการประสานงานกับทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เนื่องจากต้องมีแพทย์ พยาบาลมาดูแลในพื้นที่ และกระทรวงมหาดไทย คือ นายอำเภอรวมถึงฝ่ายจังหวัดที่ต้องมาดูแล เพราะเป็นการเปิดโรงพยาบาลสนาม หากถามว่าได้เงินมาจากไหนมาบริจาคเนื่องจากการทำโรงพยาบาลสนามต้องมีเตียง มีผ้าห่ม มีอาหาร แม่ตนจึงบริจาคให้กับทางโรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัยที่ต้องไปดูแลโรงพยาบาลสนาม ซึ่งแม่ตนเป็นเจ้าของโรงสีที่ใหญ่ที่สุดใน จ.มหาสารคาม
ถามว่า ทำไมต้องใช้ที่ทำการพรรคเพื่อไทยเป็นโรงพยาบาลสนาม เนื่องจากมีคนไปจากกรุงเทพฯ ล้น ไม่มีใครยอมเสียสละ แต่แม่ผมบอกว่า คนเหล่านี้เขามีบุญคุณกับเรา เขาสนับสนุนให้เราได้เป็นผู้แทนราษฎร แม่ผมทำธุรกิจโรงสีข้าวก็มีชาวนา เขาเอาข้าวมาขายก็มีเงินส่งพวกผมได้เรียนหนังสือ แม่ก็บอกว่าไม่เป็นไร เขามีบุญคุณ เราจะไปทิ้งพวกเขาได้อย่างไร แม่ผมก็เสียสละที่ทำการ ส.ส.ให้ทำเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งที่ดินแปลงนี้ก็มีโฉนดมาตั้งปี 2516 แล้วโฉลดแปลงนี้ได้มาครั้งแรกในวันที่ 16 ก.พ.2533 ในชื่อของพ่อผม ก่อนจะถูกโอนมาเป็นชื่อแม่ผมในวันที่ 28 ก.ย. 2543 เนื่องจากพ่อผมเสียชีวิตและเป็นชื่อแม่ผมมาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ที่ทำการ ส.ส.ก็มีมาตั้งแต่ก่อนผมจะเป็น ส.ส. ซึ่งพ่อผมเป็นคนสร้างเอาไว้ ทั้งนี้คนอีสานส่วนใหญ่มารับจ้างตามแคมป์คนงาน รับจ้างเข็นของในตลาด พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร เมื่อเขาสั่งปิดก็ต้องกลับไปที่ต่างจังหวัดและพบว่าติดเชื้อจึงได้ไปอยู่โรงพยาบาลสนาม ผิดกับที่นายเรืองไกรที่มีผู้ใหญ่ใจดีซื้อรถเบนซ์ให้คันละ 5 ล้าน
“ผมเป็นส.ส.ฝ่ายค้าน เงินที่มีผมก็ช่วยเหลือประชาชนทุกเดือน จึงปรึกษาแม่ผมว่า อยากขายที่ดิน 100 ไล่ ไร่ละ 6 ล้าน รวม 600 ล้าน ให้นายเจริญ สิริวัฒนภักดี เจ้าสัวเบียร์ช้าง เพื่อนำเงินไปช่วยประชาชนที่ติดโควิด และขอท้านายเรืองไกรว่า วันที่5 ส.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ไปเจอกันที่หน้าบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด วัดใจว่า นายเจริญจะช่วยซื้อหรือไม่ เพราะปู่ของภรรยาผมเป็นรองประธานบริษัทและร่วมกันก่อสร้างไทยเบฟมารวมทั้งถือหุ้นอันดับที่ 2” นายยุทธพงศ์ กล่าว