3นิ้วจนตรอก โร่ฟ้องลูกพี่ “โรม” ออกมาชุมนุม 18 ก.ค.ถูกตำรวจรังแกสารพัด จี้สอบ “5นายตำรวจ” ยันงบฯจัดซื้ออุปกรณ์สลายม็อบ
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ที่รัฐสภา กลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฏหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ผ่านนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะโฆษก กมธ. กรณีการละเมิดสิทธิในการชุมนุมเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาโดยตัวแทนกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอกพร้อมกลุ่มแนวร่วม เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก่อนเคลื่อนตัวไปยังทำเนียบรัฐบาล ภายใต้ 3 ข้อเรียกร้อง คือ1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข 2.ปรับลดงบประมาณสถาบัน-กองทัพสู้โควิด และ 3.เปลี่ยนวัคซีนซิโนแวคเป็นวัคซีน mRNA ซึ่งการที่ประชาชนจะไปทำเนียบเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่จะไปเรียกร้องโดยตรงต่อนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏว่า มีการจัดตั้งหน่วยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกองทัพตำรวจมาขวางทางประชาชน รวมทั้งมีการได้ใช้อาวุธ ทำร้ายประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดน้ำ การใช้แก๊สน้ำตา และการใช้กระสุนยาง รวมทั้งมีการปิดกั้นทางที่ประชาชนจะไปทำเนียบรัฐบาล ตามหลักสากลได้ระบุว่าหากมีการใช้รถฉีดน้ำไม่ควรฉีดใส่ตัวบุคคล แต่กลับมีการจงใจฉีดใส่ตัวบุคคล ส่วนมีการยิงกระสุนยาง ตามหลักสากลระบุว่าหากจะต้องยิงต่ำกว่าเอว ยิงลงพื้นหรือยิงขึ้นฟ้า แต่มีผู้ชุมนุมอายุ 14 ปี ถูกกระสุนยางยิงเข้าเบ้าตาซึ่งอาจทำให้ตาบอดได้ สำหรับการใช้แก๊สน้ำตาไม่ควรยิงใส่ผู้ชุมนุม ตามหลักสากลระบุว่าควรใช้แก๊สน้ำตาในที่เปิด เพราะแก๊สน้ำตาอาจทำให้ผู้ชุมนุมระคายเคือง หายใจไม่ออกหรืออาจหมดสติได้ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ไม่ควรทำความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เพราะในวันนั้นผู้ชุมนุมไม่ได้ใช้ความรุนแรง แค่ออกไปเรียกร้องวัคซีนที่ดี เพราะปัจจุบันมีประชาชนเสียชีวิตข้างถนนเป็นผักปลาแต่รัฐบาลกลับไม่สนใจอะไรเลย
ตัวแทนกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ กล่าวต่อว่า ทางกลุ่มมีข้อเรียกร้อง คือ 1.ขอให้มีการตรวจสอบงบประมาณการจัดซื้ออุปกรณ์การสลายการชุมนุม การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝุงชน (คฝ.) และการอนุมัติงบประมาณแต่ละครั้งในการปฏิบัติหน้าที่ 2.กลุ่มโมกหลวงมีหลักฐาน กระป๋องแก๊สน้ำตาและกระสุนยางที่ใช้ในการสลายการชุมนุม ในวันที่18 กรกฎาคม รวมถึงการชุมนุมอื่นๆ ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงขอให้มีการตรวจสอบคุณภาพอุปกรณ์ต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ใช้ในการสลายชุมนุม 3.ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสลายการชุมนุม ในวันที่ 18 กรกฎาคม ได้แก่ 1.พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 2.พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 3.พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล 4.พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 และ 5.พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ ผู้บังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน ซึ่งการกระทำของเจ้าหน้าที่เหล่านี้เป็นการปิดกั้นสิทธิของประชาชนในการชุมนุม และยังใช้ความรุนแรงโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของประชาชน กลุ่มโมกหลวงจึงขอให้มีการสอบสวน ออกหมายเรียกเจ้าหน้าที่ตามรายชื่อดังกล่าว เพื่อตรวจสอบการออกคำสั่งการใช้หน้าที่โดยมิชอบในการขัดขวาง การปิดกั้นการใช้ความรุนแรง ตรวจสอบวินัยและปรับทัศนคติ หากมีความผิดขอให้มีการดำเนินการลงโทษอย่างจริงจัง
ด้านนายรังสิมันต์ กล่าวว่า การแพร่ระบาดรอบนี้เกิดจากการที่มีผู้ไปใช้บริการทำเนียบรัฐบาลอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายกลายเป็นคลัสเตอร์เกี่ยวกับคนในรัฐบาล แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับไม่ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ไม่มีการแสดงออกถึงความรับผิดชอบ ไม่แม้แต่จะลงโทษหรือปลดคนที่เป็นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดครั้งนี้ สิ่งที่เห็นต่อมาคือบรรยากาศที่หดหู่ คนตายทุกวัน ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูง คนตกงาน คนล้มกลางถนน คนไม่พอใจซึ่งกำลังเรียกร้องการมีชีวิตและเห็นความกล้าหาญของเจ้าหน้าที่ที่กระทำต่อผู้ชุมนุม แต่ไม่กล้าหาญที่จัดการกับคนที่เป็นต้นเหตุการแพร่ระบาด ตนคิดว่าการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดไม่ใช่การสลายการชุมนุม ใช้แก๊สน้ำตาหรือกระสุนยาง แต่คือการทำหน้าที่ของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด ข้อเรียกร้องหลายข้อของผู้ชุมนุมเป็นสิ่งที่รัฐบาลสามารถทำได้ทันที แต่น่าเสียดายที่รัฐไม่ตอบรับอะไร แต่กลับใช้ความรุนแรงต่อไป
“ผมในฐานะโฆษก กมธ. จะนำเรื่องนี้เข้าสู่ กมธ.โดยทันที เมื่อ กมธ.กลับมาทำหน้าที่หลังจากช่วงงดประชุมแล้ว เพื่อให้เกิดการตรวจสอบต่อไป ท่ามกลางการสลายการชุมนุม คำถามสำคัญคือ เมื่อไหร่รัฐบาลจะรับผิดชอบกับการบริหารจัดการล้มเหลวในการจัดการโควิด-19” นายรังสิมันต์ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี