"เสี่ยโจ้"ไม่ทนแล้ว!! จวกกลับ’ก้าวไกล’อย่าเอาดีใส่ตัวเอาชั่วใส่คนอื่น หลังกมธ.งบฯเพื่อไทยยกมือโหวตเทงบตัดคืนเข้างบกลาง ชี้ช่วยแก้โควิด ยันไม่มีสมรู้ร่วมคิดรัฐบาล
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 ส.ค. ที่รัฐสภา นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 กล่าวว่า ที่ประชุมกมธ.งบประมาณฯได้ปรับลดงบประมาณปี 2565 จำนวน 16,362 ล้านบาท ซึ่งตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ส.ส.และกมธ.งบประมาณฯไม่สามารถแปรญัตติเพิ่มได้ และไม่สามารถไปมีส่วนได้เสียกับงบประมาณดังกล่าวได้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : กมธ.งบฯ ไฟเขียวเพิ่มงบกลาง 1.63 หมื่นล้าน)
ส่วนมีกระแสข่าวว่ากมธ.ประมาณฯฝั่งพรรคเพื่อไทยสมรู้ร่วมคิดกับพรรคพลังประชารัฐยกมือสนับสนุนให้งบประมาณปี 2565 ที่มีการปรับลดงบประมาณได้ 16,362 ล้านบาทไปอยู่ในงบกลางทั้งหมด เพื่อนำไปให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมใช้ ตนในฐานะตัวแทนฝั่งพรรคเพื่อไทยขอชี้แจงว่างบกลางนี้ ไม่ได้นำไปซื้อาวุธหรือสร้างถนนหรือแก้ไขปัญหาภัยแล้ง แต่งบกลางที่สำนักงบประมาณขอมาตอนแรกคือ 5 หมื่นล้านบาทได้เขียนไว้ชัดเจนว่าเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งขอถามว่าแล้วพรรคเพื่อไทยผิดอย่างไร อีกทั้งที่ผ่านมารัฐบาล และกระทรวงกลาโหม โดยกองทัพเรือได้ถอยเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ออกไปแล้ว เพราะเลือกที่จะนำเงินในส่วนนั้นไปช่วยแก้ไขปัญหาโควิด ตอนนี้ประชาชนกำลังอดยาก และการปรับลดงบประมาณครั้งนี้ ทุกอย่างในการปรับลดงบประมาณที่ทุกหน่วยงานเขายอมปรับลด เพราะต้องการนำเงินไปแก้ไขปัญหาโควิด-19
“ขอถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยไปยกมือให้นำเงิน 16,362 ล้านบาทไปเยียวยาช่วยเหลือคนที่เป็นโควิด-19 ถามว่าผิดอย่างไร และทำไมต้องเป็นงบกลาง ที่เขาบอกว่าเป็นเหมือนเช็คเปล่าเอาไปให้พล.อ.ประยุทธ์ใช้ ผมถามว่าวันนี้คนนอนดิ้นรอความตายอยู่ข้างถนน เพราะไม่มีคนไปช่วย คนอดยากอยู่แถวชายหาดพัทยารอคิวเป็นแถวเพื่อรออาหาร รอวัคซีน รอถังออกซิเจน และรอความตาย ผมถามว่าถ้าไม่เอางบกลางที่ใช้ง่าย เพราะระเบียบในการเบิกจ่ายรวดเร็วควรใช้ในกรณีเร่งด่วนฉุกเฉิน คุณจะไปผ่านกระบวนการงบประมาณหรือ เพราะชีวิตคนรอไม่ได้ นี่คือจุดยืนของพรรคเพื่อไทย ส่วนพรรคก้าวไกลจะเห็นต่างก็เป็นสิทธิ์ ซึ่งพรรคเพื่อไทยเห็นว่าการช่วยเหลือชีวิตคนเป็นเรื่องสำคัญ และเงินงบกลางส่วนนี้จะใช้ได้เฉพาะเรื่องโควิดเท่านั้น ถามว่านายกฯจะเอาไปซื้ออาวุธหรือรถถังได้หรืออย่างไร ดังนั้นพรรคก้าวไกลอย่าพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น” นายยุทธพงศ์ กล่าว
เมื่อถามว่า แต่ก็มีคำถามว่าเรามีพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาทในการแก้ไขปัญหาโควิดอยู่แล้ว นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ถ้าเงินพอ ถามว่าทำไมยังต้องมีคนไปเข้าคิวรออาหาร เห็นคนนอนรอความตายข้างถนนหรือไม่ บางคนตายไปหลายวันยังไม่มีรถไปรับศพ ซึ่งในขณะนี้เป็นช่วงล็อคดาวน์ คนไม่มีอาชีพและไม่มีอาหาร ความเป็นอยู่ของคนวันนี้ถ้ามีการเยียวยาเหมือนปีที่แล้วคนก็ไม่ลำบากขนาดนี้ แต่ถามว่าวันนี้รัฐบาลมีเงินไปเยียวยาเหมือนปีที่แล้วหรือไม่ ทำไมเอาเงินไปให้พล.อ.ประยุทธ์ใช้ก็เพราะตามหลักบริหารแล้วฝ่ายค้านไม่สามารถใช้เงินดังกล่าวได้ ทุกอย่างเป็นไปตามระบบที่ต้องให้หัวหน้าฝ่ายบริหารใช้งบกลาง เพราะตนเคยเป็นรัฐมนตรีมาแล้ว ถามว่าจะไม่รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร เราอย่ามาเล่นการเมืองเลย เนื่องจากตอนนี้เราต้องนำเงินไปช่วยโควิด แต่ถ้านำไปใช้อย่างอื่นตนก็ไม่เห็นด้วย วันนี้วิกฤตชาติที่สำคัญที่สุดคือโควิด
เมื่อถามว่า มีการมองว่าเป็นการเล่นการเมืองระหว่างพรรคพลังประชารัฐและพรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยเล่นการเมืองแบบนั้น พรรคเพื่อไทยก็จบ ที่ผ่านมามีข่าวหลายครั้งว่าพรรคเพื่อไทยจะไปร่วมรัฐบาล แต่พรรคเพื่อไทยก็ปฏิเสธมาตลอด และเราจะกำลังจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคลในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ถามว่าจะไปร่วมรัฐบาลได้อย่างไร และวันนี้เรามาเล่นการเมืองเรื่อเงิน16,362 ล้านบาท ตนถามว่าแล้วประชาชนรอได้หรือ เราจึงต้องไปเพิ่มให้ในงบกลาง เพราะขณะนี้เงินกู้ 1ล้านล้านบาทที่รัฐบาลกู้มาวันนี้หมดแล้ว ส่วนเงินกู้ 5 แสนล้านบาทถามว่าเพียงพอหรือไม่ ดังนั้นมีเท่าไหร่พรรคเพื่อไทยต้องช่วยประชาชนก่อน
ด้านนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกมธ.งบฯ กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านโหวตแปรญัตติไปให้งบกลางไม่ตรงกันว่า ไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น เป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล ก็ไม่ได้โหวตเห็นด้วยทุกเรื่อง เราไม่ได้โหวตตามกัน แต่พอพรรคเพื่อไทยทำไม่เหมือนเขา ก็ถูกตำหนิแบบนี้ก็ไม่แฟร์ ซึ่งถ้าเป็นภาวะปกติตนก็ไม่เห็นด้วยที่เอาไปไว้งบกลาง ทั้งนี้ ตนเป็นผู้แทนยุคนี้มา 2 ปี วันนี้พรรคเพื่อไทยใจเย็นมาก แต่จะให้ไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาลคงเป็นไปไม่ได้ ส่วนการแปรญัตติหรือโอนงบ 1.6 หมื่นล้านบาท เดิมมีการตัดงบจากส่วนท้องถิ่นตั้งแต่ชั้นอนุกมธ. ถ้าตัดแล้วต้องไปแปรคืนให้ท้องถิ่นจะไปตัดทำไม
เมื่อถามว่า การโอนงบประมาณไปไว้ที่งบกลางจะทำให้ตรวจสอบยากหรือไม่ นายจิรายุ กล่าวว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตรวจสอบยากทุกเรื่อง ดังนั้น งบกลาง 1.6 หมื่นล้านบาท เป็นเรื่องเล็ก แต่ถ้ารัฐบาลจะใช้อะไรก็ต้องอธิบาย ซึ่งยืนยันว่าฝ่ายค้านจะตรวจสอบอย่างเข้มข้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ก้าวไกล ระแวงหนัก!จับตา‘พปชร.’ชงโยกงบ1หมื่นล้าสู้โควิดส่อเอื้อเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี