‘พิธา’ แนะไทยดึงโลกล้อม ‘รัฐประหารเมียนมาร์’ เอาฝรั่งช่วยด้านมนุษยธรรม โยงค้านตัดลดงบฯโครงการ ‘พัฒนาเมืองเมียวดี’ ยก3มิติคบ ‘รัฐบาลที่มาจากทหาร’ มีแต่เสีย
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2564 เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ลุกขึ้นอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี65 มาตรา9 งบประมาณกระทรวงการคลัง โดยเสนอตัดลดงบฯของสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน กระทรวงการคลัง เกี่ยวกับโครงการพัฒนาเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งก่อนเข้าสู่เนื้อหา นายพิธา ได้อภิปรายเชื่อมโยงไปถึงสถานการณ์ในประเทศเมียนมาร์ตอนหนึ่งว่า ตนขอแสดงความห่วงใยไปยังประชาชนชาวเมียนมาร์ และแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ภายหลังการรัฐประหารในเมียนมาร์ ซึ่งสำนักข่าวต่างประเทศรายงานผู้เสียชีวิตในเมียนมาร์จากผลของการรัฐประหารล่าสุดจำนวน1,000คน ในจำนวนนี้ 75 ราย เป็นเด็ก มีผู้สูญหายมากกว่า100ราย ผู้ที่ถูกคุมขังเพราะความคิดทางการเมือง 5,700คน และมีมากกว่า2.3แสนรายที่ต้องหนีตายจากสงคราม
“ถึงแม้ว่า สมาชิกอาเซียนจะมีฉันทามติ5ประการ และตั้งผู้แทนพิเศษอาเซียน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ แต่ก็ยังไม่สามารถขับเคลื่อน และยังมีความเฉื่อยชากับปัญหาวิกฤตที่เกิดขึ้นในสมาชิกอาเซียนของเรา จนนานาชาตินอกอาเซียนอย่างประเทศออสเตรเลีย ไม่ว่าจะเป็นรัฐสภาออสเตรเลีย กรรมาธิการออสเตรเลีย ต้องขอความร่วมมือให้รัฐบาลออสเตรเลียเข้าไปแก้ไขปัญหาในเมียนมาร์โดยด่วน” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวต่อว่า สำหรับประเทศไทยในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านเมียนมาร์ มีความจำเป็นที่จะทำให้อาเซียนมีเสถียรภาพในช่วงวิกฤตโควิด ซึ่งอาเซียนยังเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ถ้ายังมีวิกฤตของมุนษยชาติ วิกฤตความรุนแรง และวิกฤตการเมือง จะกลายเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ที่ไทยต้องรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นเต็มๆ อย่างไรก็ตาม ไทยควรสร้างช่องทางการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ให้ยูเอ็นสามารถเอาความช่วยเหลือไปช่วยผู้หนีภัยสงครามภายใต้เมียนมาร์ได้ โดยไม่ต้องผ่านกองทัพ
นายพิธา กล่าวด้วยว่า ดังนั้นโครงการพัฒนาเมืองเมียวดี ที่จะช่วยเหลือรัฐบาลทหารเมียนมาร์ ตนมี 3 เหตุผลที่จะต้องตัดลดงบฯลง 1.มิติเศรษฐกิจ สถานการณ์ชายแดนแม่สอด-เมียวดียังมีสงครามการต่อสู้ทางการเมือง มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่งผลต่อจีดีพีติดลบ18เปอร์เซ็นต์ และเศรษฐกิจเมียนมาร์จะติดลบถึง30เปอร์เซ็นต์ 2.มิติหลักสากล ไม่มีหน่วยงานไหนอนุญาตให้มีการเบิกจ่าย และชะลอโครงการที่เกิดขึ้นหลังรัฐประหารทั้งสิ้น การที่เรายังสนับสนุนรัฐบาลที่มาจากทหารเป็นการส่งสัญญาณว่าเราให้คุณค่ากับการปกครองแบบใด และ3.มิติรายจ่าย งบฯปีที่แล้วไม่ได้ผูกพันกับงบฯปีนี้ และไม่ได้เริ่มก่อสร้างแต่อย่างใด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี