“คารม” ลากไส้ก้าวไกลสับปลับตั้งแต่ผู้บริหาร ลั่นถึงเวลาสู้กัน ยืนยันไม่เคยทรยศปชช.ท้าให้ขับออกพ้นพรรค อย่าขี้คลาด เปรียบเลขาฯพรรคเห็นขี้มูกเป็นลอดช่อง

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ที่รัฐสภา นายคารม พลพรกลาง ส.ส.พรรคก้าวไกล แถลงกรณีนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล ออกมาโจมตีว่าทรยศประชาชน เพราะไปปรากฏรายในทีมองครักษ์พิทักษ์2 รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ตนถูกพาดพิงอย่างแรงทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งทางนิตินัยตนเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล แต่ในการทำงานไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวและถูกห้ามใช้สัญลักษณ์พรรคในการทำงานทางการเมือง จึงทำให้ตนใช้ชื่อของตัวเองในการทำงานลงพื้นที่มาโดยตลอด แต่เคยแสดงจุดยืนชัดเจนไม่ลงมติแก้มาตรา112 และเคยลงมติไว้วางใจนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา

นายคารม กล่าวอีกว่า ส่วนที่มีชื่อตนเป็น 1ชื่อเป็น12 องครักษ์พิทักษ์นั้น เมื่อผู้ใหญ่ใส่ชื่อมาก็สามารถทำได้และยินดีทำ เพราะตามระเบียบข้อบังคับไม่ต้องสังกัดพรรคก็ประท้วงได้ ไม่ใช่ท้าตีท้าต่อยกัน ทั้งนี้ยืนยันว่า ไม่ได้มีอะไรเป็นการส่วนตัวกับนายณัฐชา ซึ่งถ้าแน่จริงว่า ตนทรยศ ก็ขับออกจากพรรคได้เลย ไม่ได้ยินดีมาอยู่พรรคนี้แต่แรกอยู่แล้ว เพราะตนเข้ามาสังกัดพรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบไปแล้ว

“ผู้บริหารพรรคนี้สับปลับผมถึงต้องอยู่สภาพแบบนี้ ยืนยันผมไม่เคยทรยศประชาชน ถ้าทรยศผมคงเลือกอยู่เฉยๆ รับเงินเดือนไม่ทำอะไร ที่กล่าวหาแรงๆ ผมไม่ได้กลัว เพราะผมเป็นนักฎหมายมาหลายสิบปี และน้อยครั้งที่จะดำเนินคดี แต่การบอกทรยศประชาชนมันเป็นคำที่แรง”นายคารม กล่าว

นายคารม กล่าว ทั้งนี้แม้แต่การประท้วงก้าวไกลตนก็จะทำ ถ้าพูดในขอบเขตก็ทำไป แต่ไม่ใช่หาเรื่อง ถ้าคิดว่าทำพรรคเสียหายก็ไม่ต้องอยู่ให้ขับออกได้เลย นอกจากนี้การที่บางพรรคใช้ความเป็นพรรคทำงานการเมือง แต่ไม่ดูความเหมาะสม ทั้งที่พรรคมีคนเก่งๆขนาดนี้ อยากถามว่าโควิดมาแต่ทำไมไม่เสนอฟื้นฟูประเทศเป็นรูปธรรมและไม่ขอพาดพิงเรื่องม็อบ เพราะก็เห็นตามที่เป็นข่าว ตนไม่อยากใช้สภาทะเลาะ หลายคนพูดเก่งแต่ไม่ใช่กล่าวหาหมิ่นประมาทไปทั่ว นับแต่นี้ต่อไปจะต้องสู้กันถ้ากล่าวหาไม่มีข้อมูล ซึ่งการที่ไม่เห็นด้วยกับการทำอะไรที่ไม่ดูสถาบันหลัก ไม่ดูสถานการณ์บ้านเมืองไม่ใช่ทรยศประชาชน แต่เรารักประชาชนและบ้านเมือง

เมื่อถามว่า ขณะนี้พร้อมให้กรรมการบริหารพรรคขับออกใช่หรือไม่ นายคารม กล่าวว่า พร้อมมาตั้งปีกว่าแล้ว ซึ่งการขับออกจะกลัวอะไรกับตน ส.ส.แค่คนเดียว วันนี้ขอส่งสัญญาณไปถึงพรรคก้างไกลตั้งแต่หัวหน้าพรรค ว่าพรรคนี้ไม่รู้จักกาละเทศะ บางทียกมือไหว้ยังไม่รับไหว้ ประเพณีไทย บางทีก็ลืมกันไปเลย หรือเป็นประเพณีใหม่ๆ อาจเพราะไปเมืองนอกเมืองนามา

ส่วนที่ยังไม่ไม่ไล่ออกนั้น คิดว่าอาจกลัวไปเติมเสียงให้รัฐบาล ซึ่งเป็นคำพูดของเลขาฯพรรค ซึ่งการไม่ขับ ถือว่าขี้ขลาดและกลัว ทั้งนี้ตนมีเงื่อนไขในการเข้ามาอยู่พรรคก้าวไกลให้ไปถามเลขาฯพรรคได้เลย ที่ตอนนี้เห็นขี้มูกเป็นลอดช่องพูดอย่างแต่ไม่รับผิดชอบ ส่วนการโหวตในครั้งนี้นั้นก็ต้องดูใครตอบได้ดี หากนายกฯ ตอบดี ตอบชัดเจนก็อาจโหวตนายกฯก็ได้ รวมทั้งนายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม เช่นกัน