จ่อผุด‘ศรช.’รับมือโควิด ‘บิ๊กตู่’ควานหามือขวาคุมหลังปรับโครงสร้างใหม่
27 กันยายน 2564 แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล ระบุถึงกรณี ศบค. มีมติขยายระยะเวลาการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ออกไปอีก 2 เดือน เนื่องจากการจัดทำโครงสร้างหน่วยงานรองรับการแก้ไขสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดตามการแก้ไข พ.ร.บ.โรคติดต่อแห่งชาติ ยังไม่แล้วเสร็จ
เบื้องต้นจะตั้งเป็นศูนย์อำนวยการโรคติดต่อแห่งชาติ หรือ “ศรช.” รวมถึงการพิจารณาหาผู้มาทำหน้าที่บูรณาการงานแทน ศบค. และ ศปก.ศบค. ที่บริหารงานอยู่ในปัจจุบัน โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ ผอ.ศบค. กำลังพิจารณาว่าจะให้ปลัดกระทรวงสาธารณสุข หรือหัวหน้าส่วนราชการมาทำหน้าที่ในส่วนเลขานุการฯ เพราะสถานการณ์โควิด-19 คงไม่จบในเร็วๆ นี้
“นอกจากตัวบุคคลที่ต้องรับผิดชอบแล้ว ยังต้องดูความพร้อมของ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด เพราะที่ผ่านมาการดำเนินการจะเป็นไปตามมาตรการของ ศบค.ใหญ่ ที่มีกฎหมายเก่าเป็นกรอบการปฏิบัติ แต่กฎหมายใหม่ที่กำลังจะออกมามีความครบเครื่อง เพราะเป็นการผสมผสานระหว่างความเข้มงวด รวดเร็วของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มารวมกันเข้ากับ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ที่บัญญัติไว้อย่างครอบคลุม ข้าราชการในจังหวัดที่รับผิดชอบอาจไม่รู้ว่าตัวเองมีอำนาจอะไรบ้างที่เพิ่มขึ้น” แหล่งข่าวจากทำเนียบ กล่าว
นอกจากนั้นยังมีโครงสร้างของศูนย์บูรณการแก้ไขปัญหาโควิด กรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่มีนายกฯ เป็นประธาน ถ้ายุบ ศบค.โครงสร้างนี้ก็จะหายไปด้วย ดังนั้นจึงต้องอุดช่องว่างเหล่านี้ เมื่อโครงสร้างใหม่และทำกฎหมายเสร็จ รัฐบาลก็จะประกาศเป็นพระราชกำหนด และประกาศใช้ในทันทีเพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง และเมื่อเปิดสภาฯ ก็ค่อยนำให้สภาฯเห็นชอบต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี