ปรับแผนสยบม็อบได้ผล
คุมทะลุแก๊สแยกดินแดง
เสียงประทัดแผ่ว/จับอีก5
ตำรวจนครบาลเผยหลังปรับแผนคุมม็อบแยกดินแดง แทบไม่มีวัยรุ่นออกมาชุมนุมทั้งไล่ตะครุบฝ่าเคอร์ฟิวได้อีก 5 ยังไม่ออกหมายจับคดียิงตำรวจควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บ อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุ
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. เปิดเผยว่า หลังจากที่ตำรวจนครบาลปรับเปลี่ยนแผนปฏิบัติหน้าที่ เพื่อแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นบริเวณแยกดินแดงและพื้นที่ต่อเนื่อง พบว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา มีเสียงประทัดยักษ์ดังขึ้น 3 ครั้งบริเวณฝั่งสวนป่าวิภาวดี แต่ไม่พบมีกลุ่มวัยรุ่นรวมตัวก่อความวุ่นวาย แต่ทั้งนี้ ตำรวจออกตรวจพื้นที่ สามารถจับผู้ฝ่าฝืนออกนอกเคหสถานฯ จำนวน 5 คน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00-04.00 น. และดำเนินคดีในความผิดข้อหา พกอาวุธมีดฯ และมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ตำรวจยังตรวจค้นพบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง ประทัดบอล พลุ ในพื้นที่บริเวณริมคลองข้างแฟลต 8 / บริเวณสวนหย่อมหน้าอาคารเกล้าสยามคอนโด และบริเวณถนนมิตรไมตรีตรงข้ามมัสยิดดินแดง รองผบช.น. กล่าวด้วยว่า หลังตำรวจมีการปรับเปลี่ยนยุทธวิธีสถานการณ์แยกดินแดงสงบลง และได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยตำรวจจะสืบสวนหาข่าวการนัดหมายของกลุ่มวัยรุ่นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และหากพบว่าสถานการณ์เบาบางตำรวจอาจจะผ่อนคลายมาตรการลง
ส่วนการดำเนินคดีทางกฎหมาย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน มีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 650 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 304 คดี โดยอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 346 คดี ทั้งนี้ หากผู้กระทำผิดเป็นเยาวชนและพบหลักฐานการกระทำความผิดที่ชัดเจน ตำรวจจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด พร้อมทั้งเรียกตัวผู้ปกครองมาทำความเข้าใจหรือพิจารณาเพื่อการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ส่วนความคืบหน้าคดียิง ส.ต.ต.เดชวิทย์ เลทเท็สสัน ตำรวจยังไม่มีการออกหมายจับ และยังอยู่ระหว่างกระบวนการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ก่อเหตุ โดยไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดเกรงจะกระทบต่อรูปคดี
พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่าอาการบาดเจ็บของ 2 ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์การชุมนุม ได้แก่ ส.ต.ต.เดชวิทย์ เลทเท็สสัน ตำรวจ คฝ.ที่ได้รับบาดเจ็บเมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยได้รับรายงานจากทีมแพทย์ที่รักษาและเฝ้าติดตามอาการ ดังนี้ ผู้ป่วยรู้สึกตัวมากขึ้น ทำตามที่บอกได้ ระดับความเข้มข้นของเลือดและค่าความแข็งตัวของเลือดยังต่ำ ได้รับเลือดแดงและเกล็ดเลือดเพิ่ม ยังคงต้องได้รับการเฝ้าระวังอาการทางสมอง ติดตามระดับความเข้มข้นของเลือด ค่าความแข็งตัวของเลือด
ส่วน ส.ต.ต.ธนาวุฒิ จิรคเชนทร์ ที่ถูกไปป์บอมบ์ปาใส่หน้าด้านขวาเมื่อวันที่ 11 ก.ย อาการปัจจุบัน รู้สึกตัวดี ช่วยเหลือตัวเองได้ ตาข้างขวายุบบวมแต่ยังลืมตาไม่ขึ้น ส่วนตาซ้ายมองเห็นปกติ หูด้านขวามีเสียงวิ้งๆในหู แต่การได้ยินปกติ มีแผลผ่าตัดที่ใบหน้าด้านขวาแผลแห้งดี มัดฟันด้วยยาง อยู่ในระยะฝึกอ้าปาก อ้าปากได้เล็กน้อย ยังคงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลต่อไปวั
เย็นวันเดียวกัน กลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก ทำกิจกรรม “คาร์ม็อบ” บริเวณ ซอยธนิยะ ถนนสีลม ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อทำกิจกรรมขับไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง และเรียกร้องสิทธิความเท่าเทียมกันทางเพศ พร้อมจัดเวทีขึ้นปราศรัยและเวทีดนตรีสด โดยจะเคลื่อนขบวนผ่าน ถนนวิทยุ ถนนเพชรบุรี ถนนหลานหลวง ระยะทาง 6 กิโลเมตร ในช่วงเวลา 16.00 น. ตามที่นัดหมายไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี