ปชป.เปิดศึกกันเอง!“ราเมศ” สวน “เทพไท” ยอดบริจาคภาษีพรรคการเมือง ไม่ใช่ตัวชี้วัดความนิยม ด้าน’เทพไท’ซัดกลับต้องใจกว้างรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน ยันไม่มีเจตนากล่าวหาพรรคให้เสียหาย
11ต.ค. 2564 นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงยอดเงินการบริจาคภาษีเงินได้ให้กับพรรคการเมืองต่างๆ ว่า การบริจาคให้พรรคการเมืองผ่านการบริจาคภาษีเงินได้ คงไม่ใช่ตัวชี้วัดในความนิยมทางการเมืองทั้งหมดของพรรคการเมือง จะเห็นได้แต่ละปีมีการเพิ่มขึ้นและลดลงเป็นเรื่องปกติ พรรคประชาธิปัตย์ก็มียอดรับบริจาคผ่านช่องทางนี้มากที่สุดมาโดยตลอด และในช่องทางการบริจาคปกติให้กับพรรคก็จะเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่รับบริจาคหลากหลายที่สุด มีประชาชนมีส่วนร่วมเป็นจำนวนมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ พรรคอื่นมี 1-2 ราย แต่พรรคประชาธิปัตย์มีถึง 51 ราย ปรากฏหลักฐานชัดจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงแม้ว่าจะมียอดรวมไม่ได้มากแต่ชี้ให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างหลากหลาย ไม่เหมือนบางพรรคที่มี 1-2 ราย ส่วนการบริจาคผ่านการเสียภาษีก็เป็นอีกเรื่องซึ่งในปีหน้าจะมีการวางแผนเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลมากขึ้นต่อไป
“ความนิยมในทางการเมืองคงจะนำมาประเด็นใดประเด็นหนึ่งแล้วมาตัดสินในทุกเรื่องคงไม่ได้ ส่วนของพรรค หากติดตามการทำงานด้วยใจที่เปิดกว้าง ท่าที จุดยืน และอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรค คือการทำงานให้กับประชาชนและประเทศยึดมั่นผลสำเร็จของงานและความยั่งยืนในอนาคต ยึดมั่นในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่โกงกิน และไม่คิดล้มสถาบัน เชื่อว่าจะเห็นความจริง และประชาชนก็เห็นว่าพรรคทำงานจริง ไม่ทำงานฉาบฉวยหรือหวือหวา พูดจาให้สนุกสะใจไปวันๆ แล้ววันหนึ่งประชาชนก็จะรู้ว่าพรรคการเมืองนั้นเป็นอย่างไร พรรคใดบ้างที่ไม่ยึดมั่นในระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข วันหนึ่งประชาชนจะรู้และวันข้างหน้าก็อยู่ไม่ได้เช่นกัน” นายราเมศกล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ความนิยมในพรรคการเมืองพฤติกรรมการทำงานการเมืองก็สำคัญ ความตรงไปตรงมา ยึดมั่นในหลักความซื่อสัตย์ สุจริต คำนึงประโยชน์ของประชาชน ความมั่นคงของประเทศ ความนิยมต้องเกิดจากสิ่งนี้ต่างหาก หากคิดว่าสิ่งที่พรรคทำไม่ดี หรือไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนใดๆเลย ก็ช่วยเสนอให้มีการยกเลิกประกันรายได้ พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ชาวนา มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด ให้ยกเลิกที่ไปสร้างบ้านมั่นคงให้กับประชาชนที่ยากจน ให้ยกเลิกการส่งออกที่มียอดเพิ่มขึ้น ให้ยกเลิกพาณิชย์ลดราคาเพื่อประชาชน ให้ยกเลิกการพัฒนาระบบชลประทานทั้งหมดที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทำ และอีกมากมายสิ่งที่ดีที่พรรคทำก็ต้องยกเลิกให้หมด ดังนั้นการที่นายเทพไท ออกมากล่าวเช่นนี้ ก็จะไม่เป็นธรรมต่อพรรค เหมือนพรรคไม่ได้ทำอะไรในสิ่งที่ดีเลย (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘เทพไท’ชี้‘ก้าวไกล’ขึ้นแท่นแชมป์บริจาคภาษีพรรคการเมือง สะท้อนความนิยม)
ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ Facebook ส่วนตัว ชี้แจงข้อสงสัยของนายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ข้อความว่า ผมได้ยกกรณีการเสียภาษีเงินได้ ในการบริจาคให้กับพรรคการเมืองต่างๆ และได้นำเสนอข้อมูลที่เป็นจริงว่า มีพรรคการเมืองใด ได้รับการบริจาคภาษีจำนวนเท่าไหร่ และยังแสดงความเห็นว่า ตัวเลขของการบริจาคภาษีให้กับพรรคการเมือง อาจจะเป็นดัชนี หรือนัยยะทางการเมืองได้ เหมือนกับในอดีตที่พรรคประชาธิปัตย์ เคยเป็นแชมป์การได้รับบริจาคภาษีมาโดยตลอด
นายเทพไท ระบุว่า ผมไม่ได้มีเจตนากล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ของผม ให้ได้รับความเสียหาย เพียงต้องการใช้ฐานข้อมูลของการบริจาคภาษี มาวิเคราะห์ความนิยมของพรรคการเมือง แต่เมื่อโฆษกพรรค (นายราเมศ รัตนเชวง) เข้าใจคลาดเคลื่อน และได้ออกมากล่าวพาดพิง ถึงความเห็นของผม ผมจึงขอชี้แจงว่า เป็นความเห็นที่ตรงไปตรงมา และมีข้อมูลที่เป็นตัวเลขยืนยันได้ชัดเจน ผมไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น เพียงต้องการให้ทุกพรรคการเมือง นำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์ และใช้ประกอบการพิจารณาการทำงานการเมืองของแต่ละพรรค
ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องยอมรับว่า เรามีผลงานเป็นที่ยอมรับ ของประชาชนมากมาย เช่น
1.เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่และเป็นสถาบันทางการเมือง
2.เป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ ต่อสู้กับเผด็จการมาโดยตลอด
3.เป็นพรรคการเมือง ที่สร้างนักการเมือง ที่มีคุณภาพ อย่างมากมาย ทั้งที่ยังเป็นส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร และได้ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น
4.เป็นพรรคการเมือง ที่สามารถทำหน้าที่ได้ ทั้งการเป็นรัฐบาลที่ดี มีผลงานมากมาย ทั้งในยุครัฐบาลชวน และรัฐบาลอภิสิทธิ์ เมื่อเป็นฝ่ายค้าน ก็ทำหน้าที่เข้มแข็ง ปกป้องผลประโยชน์ให้ประชาชนอย่างแท้จริง
5.เมื่อพรรคได้ร่วมรัฐบาล ก็สามารถสร้างผลงาน ผลักดันนโยบายของพรรค ไปสู่การปฏิบัติได้เป็นอย่างดี เช่น นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ฯลฯ
“เพราะฉะนั้นการเมืองในวันนี้ มีความแตกต่างกับการเมืองในอดีต พรรคการเมืองต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์บ้านเมือง เป็นไปตามยุคสมัย โดยไม่ละทิ้งอุดมการณ์ของพรรค ถ้าพรรคการเมืองใด มีความคับแคบ ปิดหูปิดตา ไม่ฟังเสียงสะท้อนของประชาชน พรรคการเมืองเหล่านั้น ก็จะห่างเหินออกจากประชาชนไปเอง” นายเทพไท กล่าว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี