"นายกฯ"ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัยพื้นที่ จ.อุบลราชธานี สัญญาจะดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้ดีที่สุด พร้อมเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย
เมื่อเวลา 15.20 น.วันที่ 15 ตุลาคม 2564 ณ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเทศบาลเมืองวารินชําราบ ตำบลวารินชําราบ อำเภอวารินชําราบ จังหวัดอุบลราชธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และคณะ ตรวจเยี่ยมการบรรเทาภัยและการฟื้นฟูผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี โดย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี รายงานสถานการณ์และการบริหารจัดการอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือน และพื้นที่การเกษตร ส่งผลให้ราษฎรได้รับความเดือดร้อน จำนวน 10 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ เขื่องใน สำโรง เหล่าเสือโก้ก ตาลสุม ดอนมดแดง ม่วงสามสิบ สว่างวีระวงศ์ และตระการพืชผล จำนวน 46 ตำบล 304 ชุมชน/หมู่บ้าน โดยกรมชลประทาน ได้มีการเร่งระบายน้ำในพื้นที่โดยการใช้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำ และหน่วยงานฝ่ายทหาร ได้แก่ มทบ.22 ร 6 อพยพประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และขนย้ายทรัพย์สินไปไว้ ยังศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว
นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและพบปะประชาชน ว่า ทุกคนฝากความห่วงใยมายังพี่น้องชาวอุบลราชธานีที่มีความเดือดร้อนในช่วงอุทกภัย ที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบปัญหาทั้งน้ำท่วมและฝนแล้ง ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญในเรื่องการบริหารจัดการน้ำมาโดยตลอดและพยายามทำงาน จะเห็นได้ว่าในพื้นที่ที่เคยมีน้ำท่วมมากก็จะท่วมน้อยลง และในบางพื้นที่ลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำ พยายามลดความเสียหายให้มากที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบแก่เศรษฐกิจ จากการตรวจเยี่ยมประชาชนในหลายพื้นที่วันนี้ ได้หาแนวทางไม่ให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่เศรษฐกิจทั้งในเมืองและพื้นที่ลุ่มต่ำ พร้อมเร่งการเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าชาวอุบลราชธานีเป็นคนที่มีความเข้มแข็ง ใจสู้ ขอให้อุทกภัยในครั้งนี้คลี่คลายโดยเร็ว
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการยกระดับรายได้ที่สูงขึ้นทั้งด้านการเกษตร ใช้พื้นที่น้อย ได้รับผลประโยชน์ที่มากขึ้น โดยจะเร่งดำเนินโครงการ โคก หนอง นา โมเดล ในพื้นที่อื่นๆ เพิ่มขึ้น รวมทั้งการทำเกษตรทฤษฎีใหม่ ปลูกพืชผสมผสาน เพื่อเพิ่มรายได้มากกว่าการปลูกพืชเชิงเดี่ยว โดยขอกำชับทุกหน่วยงานให้ช่วยเหลือเกษตรกรในทุกพื้นที่ นายกฯ จะทำให้ดีที่สุดเพื่อทุกคนและลูกหลาน ซึ่งทุกปัญหานายกฯ ไม่สามารถแก้ไขได้คนเดียว ต้องเกิดจากความร่วมมือร่วมใจจากประชาชน ซึ่งรัฐบาลพยายามดูแลประชาชนให้ได้มากที่สุด โดยออกมาตรการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนทุกคนจากสถานการณ์โควิด-19 วันนี้เราฉีดวัคซีนมากขึ้น ซึ่งทำให้ช่วยลดการเจ็บป่วยรุนแรง สามารถรักษาอาการป่วยและลดอัตราผู้เสียชีวิตได้ ด้วยความร่วมมือมือใจของทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม ทุกคนต้องระมัดระวังตัวเองให้มากที่สุด ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดอีกครั้ง และรัฐบาลจะสามารถออกมาตรการอื่นๆ ได้เพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรี ยังสัญญาจะดูแลประชาชนทุกกลุ่มให้ดีที่สุด ให้สอดคล้องกับงบประมาณที่มีอยู่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยขอให้ประชาชนรับฟังข้อมูลต่าง ๆ จากนายกรัฐมนตรีด้วย ขณะนี้รัฐบาลและทุกภาคส่วนกำลังเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศ ควบคู่กับการมีมาตรการดูแลด้วยความระมัดระวังภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และคำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนและประเทศชาติจะได้รับ โดยยึดหลักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นที่ตั้งในการทำงาน ซึ่งการเปิดประเทศครั้งนี้ คาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวดีขึ้น ขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือกับรัฐบาลและทุกภาคส่วน ในการที่จะขับเคลื่อนประเทศก้าวไปข้างหน้า เพื่อเปลี่ยนแปลงไปสู่ทางที่ดีขึ้นและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติโดยรวม
จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะ เยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัย จำนวน 260 ครัวเรือน พร้อมพูดคุยให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย ให้พร้อมสู้ไปด้วยกันกับนายกรัฐมนตรี ขอให้ทุกคนต้องรักสามัคคี เดินหน้าไปด้วยกัน โดยนายกฯ ย้ำว่า "จะทำให้ดีที่สุด"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการเตรียมพร้อมต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ศาลาประชาวาริน ต.วารินชําราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ มีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ทั้งในส่วนของการจัดบูธนิทรรศการ รถครัวสนาม โดยมณฑลทหารบกที่ 22 พร้อมมีการให้บริการซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ของอาชีวศึกษาจังหวัดอุบลราชธานี และบูธการเดินหน้าช่วยประชาชนในการพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยกระทรวงแรงงาน ร่วมกันจัดสร้างสุขาลอยน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องทำงานหากิน และซ่อมรถจักรยานยนต์ รวมถึงการแจกจ่ายน้ำดื่ม และถุงยังชีพให้แก่ประชาชน
ขณะที่การรักษาความปลอดภัยได้มีการเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ทั้งในและนอกเครื่องแบบ 2 กองร้อย โดยได้กระจายกำลังเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ความวุ่นวาย หลังการข่าวจะมีการนัดรวมตัวเคลื่อนไหวที่บริเวณศาลหลักเมืองอุบลราชธานี ในเวลา 13.00 น. ที่นำโดย ว่าที่ร.ต.ฉัตรชัย แก้วคำปอด หรือทนายแชมป์ แกนนำม็อบอุบลปลดแอก ก่อนมวลชนจะเดินทางมาที่ศาลาประชาวาริน ซึ่งเป็นจุดที่นายกฯจะรับฟังปัญหาของประชาชน
ทั้งนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์เหมือนการลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ถูกมวลชนออกมาต่อต้านจนเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ เพราะถือเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรคฝ่ายค้าน ที่อาจเกิดการต่อต้านจากคนในพื้นที่ได้
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี