ศึก 2 ขั้วการเมือง! 4 ข้อมองสมรภูมิเลือกตั้งครั้งหน้า จับตาพรรค‘โซ่ข้อกลาง’
20 ตุลาคม 2564 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความแสดงความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง ผ่านทางเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้...
กระแสเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการต่อสู้ในสมรภูมิเลือกตั้งระหว่างสองขั้วการเมือง
1.แม้ยังไม่มีกำหนดการเลือกตั้งใหม่ แต่ทั้งขั้วฝ่ายรัฐบาล และขั้วฝ่ายค้าน ต่างลงพื้นที่กันอย่างต่อเนื่องและกำลังประกาศชื่อนายกรัฐมนตรีกันเกือบหมดทุกพรรคแล้ว จึงทำให้บรรยากาศกำลังเหมือนกับรณรงค์เลือกตั้ง
2.กระแสการเมืองในบรรยากาศเตรียมการเลือกตั้งครั้งนี้ต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา คือ จะไม่ใช่เป็นการเลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่จะเป็นการเลือกระหว่างขั้วรัฐบาลกับขั้วฝ่ายค้าน! ใครนิยมชมชอบการบริหารแบบปัจจุบันก็เลือกขั้วรัฐบาลโดยเลือกพรรคที่ชอบเอาตามใจ ส่วนใครที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง ไม่เอาแล้วกับสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็จะเลือกขั้วฝ่ายค้าน โดยเลือกพรรคที่ชอบในขั้วฝ่ายค้าน
3.สภาพเช่นนี้ทำให้การประกาศชื่อนายกรัฐมนตรีของ พปชร.และเพื่อไทย อยู่ในสภาพยักตื้นติดกึกยักลึกติดกัก
แต่ดูจากสภาพแล้วเพื่อไทยน่าจะประกาศชื่อนายกได้ในเร็ววันนี้ ส่วน พปชร.ยังไม่แน่!เพราะไม่รู้ว่าจะหาข่าวจากไหนและไม่รู้ว่าจะถามจากใครแต่ที่แน่ๆ สำนักเลขาธิการพรรค พปชร.เตรียมวางตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งก้าวหน้าไปมากแล้ว เหลือเพียงการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของผู้มีอำนาจแท้จริงของ พปชร.เท่านั้น
4.ในสภาพเช่นนี้พรรคไทยสร้างไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ จึงกลายเป็นโซ่ข้อกลางขึ้นมาโดยอัตโนมัติ และวันใดที่เปิดตัวทีมเศรษฐกิจซึ่งจะเป็นทีมหลักในการแก้ไขปัญหาที่ตกค้างมาคงจะฮือฮากันทั้งเมือง เพราะทีมนี้จะไม่ใช่ทีมอดีตข้าราชการแก่ๆ หรือมือใหม่สมัครเล่น แต่จะเป็นทีมมืออาชีพที่ฉมัง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี