อดีตรองอธิการมธ.เลคเชอร์ ‘แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี’ สอนมวย ‘3นิ้ว-2ก้าว’ อย่ามองจาก ‘อคติ’ ชี้ไม่ใช่แผนที่ดีนัก แต่เหตุผลให้ยกเลิกฟังไม่ขึ้น แนะควร ‘เรียกร้อง’ อะไร
29 พฤศจิกายน 2564 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว “Harirak Sutabutr” มีเนื้อหาดังนี้...
พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า และแนวร่วม 3 นิ้ว พยายามที่จะให้ยกเลิกทุกอย่างที่เกิดจาก คสช. โดยไม่สนใจว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นประโยชน์ต่อประเทศหรือไม่ ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นจาก คสช. ถือว่าไม่ดีไปหมด นี่คือมุมมองที่เกิดจากอคติล้วนๆ
งานชิ้นหนึ่งที่พยายามจะให้ยกเลิก ก็คือ “แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” ซึ่งความจริง แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ก็ไม่ใช่แผนยุทธศาสตร์ที่ดีนัก แต่เหตุผลที่เป็นข้ออ้างที่ต้องการให้ยกเลิก คือ
1. ระยะเวลา 20 ปี ยาวนานเกินไป ในขณะที่โลกเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา แผนยุทธศาสตร์จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนตามโลก การกำหนดแผนนี้จึงไม่มีความยืดหยุ่นที่จะปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนของโลกได้
2. แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญ เป็นเสมือนโซ่ตรวนที่ผูกมัดไว้ถึง 20 ปี ไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล แม้ไม่เห็นด้วยก็ต้องเดินตามแผนนี้
ผู้ที่อ้างเหตุผล 2 ข้อนี้ แสดงว่าไม่ได้อ่านแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีดีพอ ซ้ำร้ายกว่านั้นยังอาจไม่มีความเข้าใจคำว่า ยุทธศาสตร์ และแผนยุทธศาสตร์ดีพออีกด้วย
เราลองมาดูแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อย่างคร่าวๆว่ามีสาระสำคัญอย่างไร
แผนยุทธศาสตร์ หรือ strategic plan จะต้องประกอบด้วย พันธกิจ (mission) วิสัยทัศน์(vision) และแน่นอนว่าต้องมี ยุทธศาสตร์ (strategy) ต่อจากยุทธศาสตร์ก็จะเป็นแผนปฏิบัติหรือ operational plan หรือกิจกรรม(activities) ที่จะทำเพื่อรองรับยุทธศาสตร์ที่กำหนด
ดูเหมือนว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะไม่ได้กำหนดพันธกิจไว้ แต่มีการกำหนดวิสัยทัศน์ไว้ดังนี้ “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง เพื่อความสุขของคนไทยทุกคน”
วิสัยทัศน์ คือ ภาพที่เรามองเห็น หรือต้องการให้เป็นในอนาคต ซึ่งต้องถือว่า คสช. ได้กำหนดวิสัยทัศน์ได้ดีพอสมควร สำหรับประเทศไทย
เมื่อมาดูที่ยุทธศาสตร์ ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ไว้ 6 ด้านดังนี้
1. ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง
2. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน
3. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
4. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับเปลี่ยนค่านิยม และวัฒนธรรม การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
5. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
6. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
ต่อจากยุทธศาสตร์แต่ละด้านก็จะมีกิจกรรม หรือแผนปฏิบัติที่เขียนไว้กว้างๆ แต่ก็มีรายละเอียดมากพอควร ถึงตรงนี้เราลองมาดูบ้างว่า ยุทธศาสตร์ที่แท้จริงแล้วคืออะไร
ยุทธศาสตร์ หรือ strategy เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน นั่นคือเราจะแข่งขันกับคนอื่นๆหรือประเทศอื่นๆด้วยอะไร เพื่อทำให้องค์กรหรือประเทศเราในอนาคตเป็นดังวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ ยุทธศาสตร์จึงเป็นการเลือกที่จะไม่ทำ มากกว่าที่จะทำไปเสียทุกอย่าง เนื่องจากไม่มีองค์กรใดหรือประเทศใดที่มีทรัพยากรไม่จำกัด ที่จะทำทุกเรื่องทุกอย่างได้ ยุทธศาสตร์จึงมีได้เพียงหนึ่งเดียว ไม่ใช่มี 6 ด้านอย่างในแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี
ยุทธศาสตร์ 6 ด้านที่กำหนดไว้จึงไม่ใช่ยุทธศาสตร์แต่เป็นเพียงกิจกรรมที่เราต้องการจะทำที่แบ่งเป็น 6 ด้านด้วยกัน เนื่องจากไม่มียุทธศาสตร์ กิจกรรม 6 ด้านดังกล่าว จึงเป็นกิจกรรมที่ปราศจากทิศทาง ตัวอย่างเช่น การสร้างความสามารถในการแข่งขัน แต่ในเมื่อในแผนไม่ได้กำหนดว่าจะแข่งขันด้วยอะไร จึงไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะสร้างความสามารถในการแข่งขันด้านใดและอย่างไร เมื่อไม่มีกำหนดไว้ จึงเขียนแผนครอบคลุมไปหมดทุกเรื่อง ซึ่งก็เป็นไปได้ยากที่จะสร้างความสามารถในการแข่งขันในทุกเรื่องได้พร้อมๆกัน
ยุทธศาสตร์ชาติที่ควรกำหนด คือ การมีจุดเน้น(focus) โดยอาจ focus ที่การเกษตรและจะแข่งขันด้วยความแตกต่างของผลิตผลทางการเกษตร และการแปรรูปสินค้าการเกษตร กิจกรรมที่ต้องทำกิจกรรมหนึ่ง คือ การสร้างความสามารถในการแข่งขันของชาวนา ชาวไร่ เราก็จะต้องทุ่มเททรัพยากรไปกับการนี้ เพื่อให้ชาวนาชาวไร่ มีความรู้เพิ่มขึ้น ใช้เทคโนโลยีการเกษตรที่ทันสมัยขึ้น เพื่อสร้างผลผลิตทางการเกษตรที่มีคุณภาพสูงและมีต้นทุนต่ำ
ป้ายโฆษนาของห้าง DIY บอกว่า “ไม่ต้องตกใจหากพบว่า ของเราถูกกว่า” แสดงชัดเจนว่า DIY เลือกที่ไม่แข่งขันด้วยผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง แต่เลือกที่จะแข่งขันด้วยราคา ผู้ที่จะเป็นลูกค้าของ DIY ก็คือผู้ที่ต้องการสินค้าราคาถูกกว่า ไม่ใช่สินค้าคุณภาพสูงราคาแพง ในขณะที่สินค้า designer เช่น กระเป๋า Hermes เลือกที่จะไม่แข่งขันด้วยราคา แต่แข่งขันด้วยความแตกต่างของสินค้า หากสร้างความแตกต่างที่เป็นที่ต้องการของผู้บริโภคได้ ก็จะสามารถตั้งราคาสูงได้ ลูกค้าของ Hermes จึงไม่ใช่ผู้ที่ต้องการสินค้าราคาถูก ตรงข้าม สินค้ายิ่งแพงยิ่งอยากได้เสียด้วยซ้ำ
ถึงแม้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จะเป็นแผนยุทธศาสตร์ที่ไร้ยุทธศาสตร์ แต่หากจะบอกว่า เป็นแผนที่ไม่มีความยืดหยุ่นพอที่จะปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลกได้นั้น ไม่จริง เนื่องเพราะ 6 ด้านที่กำหนดไว้ จะเรียกว่าเป็นยุทธศาสตร์ชาติหรือไม่ก็ตาม ก็เป็นเพียงหัวข้อกว้างๆจนกว้างเกินไปไม่มีด้านไหนที่จะต้องเปลี่ยนตามโลก เช่น การพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนอย่างไรก็ควรทำ สิ่งที่ต้องเปลี่ยนตามโลกคือ แผนปฏิบัติซึ่งเป็นรายละเอียดคือ จะสร้างระบบบริหารอย่างไรต่างหาก ซึ่งก็สามารถเปลี่ยนแปลงตามตามทฤษฎีใหม่ๆ และเทคโนโลยีใหม่ๆได้อยู่แล้ว
การต้องการยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ขาติ 20 ปี ด้วยเหตุผลข้างต้นจึงเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น
แทนที่จะให้ยกเลิกแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลน่าจะเรียกร้องให้รัฐบาลนำเสนอต่อสาธารณะ ว่า หลังจากที่มีการประกาศใช้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีไปแล้วจนถึงปัจจุบัน ได้มีการดำเนินการอะไรตามแผนไปแล้วบ้าง หรือมีความคืบหน้าอะไรบ้าง มีอะไรที่บ่งชี้ได้ว่า หลังจาก 20 ปีผ่านไป โอกาสที่ประเทศไทยจะเป็นไปตามวิสัยทัศน์ คือ เป็นประเทศที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน และเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีมากน้อยแค่ไหน
ถ้าเรียกร้องเช่นนี้ จะขอลงชื่อสนับสนุนด้วยอย่างแน่นอน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี