ปชน.โวยอย่าตั้งธง44สส.ก้าวไกลไม่รอด  ไร้ดีลลับ‘สีนํ้ำเงิน’  ยันบริสุทธิ์ใจ/ทำหน้าที่สส.

ปชน.โวยอย่าตั้งธง44สส.ก้าวไกลไม่รอด ไร้ดีลลับ‘สีนํ้ำเงิน’ ยันบริสุทธิ์ใจ/ทำหน้าที่สส.

วันศุกร์ ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ปชน.โวยอย่าตั้งธง44สส.ก้าวไกลไม่รอด

ไร้ดีลลับ‘สีนํ้ำเงิน’

ยันบริสุทธิ์ใจ/ทำหน้าที่สส.

‘สมชัย’ชี้‘จังหวะนรก’ปชน.

หากผิดถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้ง

นายกฯนัดประชุมครม.เศรษฐกิจทุกบ่ายวันจันทร์ กลั่นกรองก่อนเข้าครม.ชุดใหญ่ “โรม”ไม่กังวล “คดี 44 สส.อดีตก้าวไกล” รู้ผลธันวาคมนี้ ยันความบริสุทธิ์ใจ ทำหน้าที่สส.  ลั่นอย่าเพิ่งคิดว่าไม่รอด ย้อนถามป.ป.ช. มีธงหรือไม่ ยันล้านเปอร์เซ็นต์ไม่มีดีลลับสีน้ำเงิน“สมชัย”มอง“คดี 44 สส.ก้าวไกล”เป็นจังหวะนรกปชน.หากจบธ.ค.หลังยุบสภา แนะวางแผนให้ดี หากผิดถูกตัดสิทธิขาดคุณสมบัติสมัครสส.-แคนดิเดตนายกฯขณะที่‘อีสานโพล’เชียร์ อยากให้’อนุทิน’เป็นนายกฯมากที่สุด นำ‘เท้ง-ชัชชาติ’และ‘เขยชินวัตร-ลูกเจ๊แดง’

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่ทำนียบ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจจะเริ่มได้เมื่อใด ว่า ครม.เศรษฐกิจได้มีการตั้งขึ้นมาแล้ว โดยคาดว่าจะประชุมทุกบ่ายวันจันทร์ จะได้มีการกลั่นกรองชั้นหนึ่งก่อน ซึ่งในครม.เศรษฐกิจก็มีหลายคนที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีอยู่แล้ว ฉะนั้นเวลามีเรื่องที่จะเข้าสู่การประชุมครม.ประจำสัปดาห์จะได้ทำความเข้าใจและพิจารณาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น


เมื่อถามว่าส่วนระยะเวลาการทำงาน 4 เดือนนี้จะตั้งคู่สมรสคณะรัฐมนตรีขึ้นมาช่วยทำงานและสนับสนุนภารกิจด้วยหรือไม่นายอนุทิน ตอบว่าเอาไว้หลังเลือกตั้ง ตอนนี้เป็นครม.มู ก่อนขอตัวขึ้นไปไหว้องค์นรสิงห์จำลองที่ด้านบนตึกไทยคู่ฟ้า

‘โรม’ไม่กังวล คดี44สส.รู้ผลธันวาคมนี้

ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชนให้สัมภาษณ์ถึงที่โฆษกป.ป.ช.ระบุว่าคดี44สส.ของอดีตพรรคก้าวไกลกรณีลงชื่อแก้ไขกฎหมายมาตรา112จะสามารถ สรุปได้ในเดือนธันวาคมนี้ว่าเรายืนยันเรื่องความบริสุทธิ์ของเราว่าการทำหน้าที่ของสส.ของพรรคก้าวไกลเดิมไม่ได้ผิดกฎหมาย และจริยธรรม ยืนยันว่าทุกสิ่งไม่ได้ไปแอบทำ แต่เป็นเรื่องความโปร่งใส ที่พยายามทำหน้าที่สส.ในอำนาจนิติบัญญัติ เมื่อเราดำเนินการแล้ว ไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จทันที แต่ต้องมีการถกเถียงกันในสภา และมีขั้นตอนอีกพอสมควรซึ่งยังไปไม่ถึงขั้นนั้นเพราะประธานสภาผู้แทนราษฎรขณะนั้นมองว่าไม่สามารถบรรจุวาระดังกล่าวได้

ส่วนกังวลหรือไม่ที่ ป.ป.ช.จะไต่สวนเป็นรายบุคคล นายรังสิมันต์ กล่าวว่าไม่กังวลอะไร เราอยู่กับเรื่อง44 สส.มานาน ตนก็พยายามสู้คดีอย่างเต็มที่ ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจ เราก็ทำหน้าที่สส. และเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งดังนั้นไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะทุกอย่างอยู่บนโต๊ะมีความโปร่งใส และยืนยันว่าประชาชนจะสนับสนุนพรรคประชาชนอย่างแน่นอน

ชี้อย่าคิดไม่รอด ย้อนป.ป.ช.มีธงหรือไม่

“ในเรื่องการสู้คดีเราทำอย่างเต็มที่มีบุคคลที่ถูกกล่าวหาเยอะซึ่งทางป.ป.ช.ก็ให้เวลาชี้แจงพอสมควร เราก็ดำเนินการไปทั้งนี้อย่าเพิ่งไปตั้งธงว่าเราจะโดนแน่นอน เชื่อว่าการที่เราทำหน้าที่พิสูจน์ตัวเอง จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้กลไกนิติสงครามกับสส.พรรคประชาชน ดังนั้น ผมหวังว่า เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะป.ป.ช.จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่เพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมืองหรือกลั่นแกล้งใคร”

เมื่อถามว่า การที่คดีนี้จะรู้ผลช่วงใกล้เลือกตั้ง จะกระทบกับยุทธศาสตร์พรรคหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่าอย่าเพิ่งตั้งธงว่าจะโดนฟันแน่ หากเชื่อว่ามีธง แสดงว่าเรารู้คำตอบล่วงหน้า กระบวนการยุติธรรมก็ไม่มีอยู่จริง จึงอยากให้สื่อมวลชนถามป.ป.ช. ว่ามีธงหรือไม่

ยันล้านเปอร์เซ็นต์ไร้ดีลลับสีน้ำเงิน

ส่วนหากรอดจะถูกมองว่าเป็นการดีลกับการเมืองสีน้ำเงินหรือไม่ นายรังสิมันต์ หัวเราะพร้อมระบุว่า ยืนยันว่าเราไม่เคยมีการสนทนาทั้งซีเรียสและไม่ซีเรียสกับทางพรรคภูมิใจไทยในการช่วยเหลือทั้ง 44 คน เราเห็นบทเรียนการสร้างดีลต่างๆแล้ว ดังนั้นเมื่อมีข้อกล่าวหาเราก็ต้องว่าตามกระบวนการ ยืนยันล้านเปอร์เซ็นต์ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรี ว่าเราไม่มีดีลกับสีน้ำเงินหรือค่ายไหนทั้งสิ้น

‘สมชัย’ชี้คดี44สส.เป็นจังหวะนรกปชน.

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร นักวิชาการ โพสต์แสดงความคิดเห็นกรณีป.ป.ช.เปิดเผยความคืบหน้าการตรวจสอบจริยธรรม44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา 112 อาจพิจารณาแล้วเสร็จัภายในเดือนธันวาคมนี้ว่า”จังหวะสวรรค์ในช่วงเลือกตั้ง อาจเป็นจังหวะนรกสำหรับบางพรรค”การที่ป.ป.ช.ออกมาแถลงว่า คดี 44สส.ของพรรคก้าวไกล อาจจะจบในเดือนธันวาคม อาจเป็นจังหวะนรกสำหรับการเลือกตั้งของพรรคประชาชน โดยยกเหตุผลว่า หากป.ป.ช.มีมติชี้มูล ไม่ว่ากี่คนก็ตาม ส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา เมื่อศาลประทับรับฟ้อง คนที่เป็น สส.ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ หากผิดจะถูกตัดสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิตและตัดสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

ส่อขาดคุณสมบัติสส.-แคนดิเดตนายก

“หากป.ป.ช.ส่งเรื่องไปอยู่ในช่วงเดือนธันวาคม ศาลฎีกาจะใช้เวลา 2-3 เดือน เพื่อวินิจฉัยพิพากษา ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์2569 หลังยุบสภาจะมีการสมัครรับเลือกตั้ง หรือ เป็นช่วงที่สมัครรับเลือกตั้งเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการหาเสียง”นายสมชัยระบุ

นายสมชัยยังกล่าวอีกว่าหากการรับสมัครเสร็จสิ้น มีหมายเลขผู้สมัครแล้วมีการตัดสิทธิทางการเมือง บุคคลดังกล่าวจะขาดคุณสมบัติ เมื่อมีการเลือกหมายเลขดังกล่าวจะกลายเป็นบัตรเสียขณะที่กรณีผู้สมัครบัญชีรายชื่อ และได้จำนวน สส.เท่าไหร่ก็จะกลายเป็นสิทธิของบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปหากเป็นแคนดิเดตนายกทั้งสามคน เท่ากับพรรคนั้นไม่เหลือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำทิ้งท้ายว่า”วางแผนกันให้ดีครับ ต้องคิดแบบ worst case scenario ไว้ก่อนจะได้ไม่เสียหายมาก”

พท.เย้ยปชน.ได้สส.ไม่ถึง250คน

ด้านนายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความระบุว่า คุณณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งเป้าว่าในการเลือกตั้งทั่วไปปีหน้า พรรคจะได้ สส.250คน หากประเมินก่อนที่พรรคประชาชนจะโหวตสนับสนุนคุณอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีก็นับว่ายังเป็นไปได้ ถึงแม้อาจไม่ถึง 250ที่นั่ง แต่ก็มีโอกาสจะเป็นพรรคลำดับหนึ่ง

“ทว่าหลังจากพรรคประชาชนตัดสินใจโหวตให้คุณอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี คะแนนนิยมของพรรคกลับลดลงอย่างเห็นได้ชัด ณ เวลานี้ อย่าว่าแต่จะได้ สส.250คนเลย ผมไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าพรรคประชาชนจะได้ สส.มากกว่าการเลือกตั้งปี2566 ซึ่งได้ถึงมา 151คน”นายกอแก้ว ระบุ

‘อีสานโพล’เชียร์’หนู’นายกฯ

เมื่อวันที่ 9ตุลาคม 2568 รศ.ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพลเปิดเผยผลสำรวจอีสานโพล (E-Saan Poll) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่าการสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อภาวะเศรษฐกิจระดับครัวเรือน เพื่อประเมินภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนด้านต่างๆ และคำนวณดัชนีภาวะเศรษฐกิจอีสานในไตรมาส 3/2568 และคาดการณ์ไตรมาส 4/2568 พร้อมประเมินผลงานรัฐบาลด้านเศรษฐกิจและภาพรวม และมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับความนิยมของพรรคการเมือง ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 3–5 ตุลาคม 2568 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,074 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด

‘หนู’อันดับ1นำ‘เท้ง-ชัชชาติ’

เมื่อสอบถามว่า ถ้าเลือกตั้งวันนี้ ท่านอยากให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด (จากรายชื่อ 12 รายชื่อ) อันดับ 1 ร้อยละ 24.3 ระบุว่าอนุทิน ชาญวีรกูล อันดับ 2 ร้อยละ 22.8 เท้ง ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อันดับ 3 ร้อยละ 19.1ชัชชาติ สิทธพันธุ์ อันดับ 4ณัฐพงษ์ คุณากรวงศ์ (เพื่อไทย) อันดับ 5 ร้อยละ 6.6ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ (เพื่อไทย) อันดับ 6 ร้อยละ 6.3 สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อันดับ 7 ร้อยละ 2.9 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันดับ 8 ร้อยละ 2.3 พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อันดับ 9 ร้อยละ 2.2นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อันดับ 10 ร้อยละ 1.7 พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อันดับ 11 ร้อยละ 0.9วราวุธศิลปอาชา อันดับ 12 ร้อยละ 0.7 ดร.เอ้ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ขณะที่รายชื่ออื่นๆ มีเสนอมา ร้อยละ 0.9 และ ระบุว่ายังไม่มีคนที่ถูกใจ ร้อยละ 1.8

ผลสำรวจครั้งนี้มีข้อสังเกตว่าการที่คุณอนุทินมีคะแนนความนิยมสูงในช่วงนี้ (สูงกว่าคะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทย)เนื่องจากพรรคประชาชนยังไม่มีแคนดิเดตนายกฯ ที่โดดเด่นเทียบเท่าคุณพิธา ขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยยังไม่มีแคนดิเดตนายกฯ ที่ชัดเจน ส่งผลให้คนที่ชอบพรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาชนหรือคนที่ยังไม่มีพรรคที่ชอบเป็นพิเศษ โหวตให้คุณอนุทินบางส่วน ขณะที่คุณชัชชาติมีความนิยมสูงมาก หากพรรคใดทาบทามเป็นแคนดิเดตนายกฯได้จะทำให้ได้เปรียบเพิ่มขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า

สส.-ปาร์ตี้ลิสต์ ปชน.นำ พท.ภท.

เมื่อสอบถามว่า ถ้าเลือกตั้ง สส. วันนี้ ท่านมีแนวโน้มจะลงคะแนนให้ ผู้สมัคร สส. เขต จากพรรคใด พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 30.6 จะเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 27.4 พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 12.3 พรรคภูมิใจไทย ตามมาด้วยพรรคอื่นๆ ร้อยละ 9.6 และร้อยละ 20.1 เป็นความคิดเห็นอื่นๆ และยังไม่แน่ใจ

เมื่อสอบถามว่า ถ้าเลือกตั้ง สส.วันนี้ ท่านมีแนวโน้มจะลงคะแนน สส. บัญชีรายชื่อ ให้พรรคใด พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 41.7 จะเลือกพรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 20.6 พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 12.6 พรรคภูมิใจไทย ตามมาด้วยพรรคอื่นๆ ร้อยละ 16.6 และร้อยละ 8.5 เป็นความคิดเห็นอื่นๆ และยังไม่แน่ใจ

‘นิพิฏฐ์’ยัน’อภิสิทธิ์’เป็นหน.ปชป.

สำหรับความเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์ นายนิพิฏฐ์อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า ห่างเหินการเมืองไปนาน ขึ้นมาคุยกับท่านอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 3-4 ชั่วโมง ก็เดินทางกลับไปบำเพ็ญพรตแถบเทือกเขาบรรทัดต่อไป

นายนิพิฏฐ์ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับแนวหน้าออนไลน์ว่านายอภิสิทธิ์ ตัดสินใจกลับมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่างแน่นอน โดยในส่วนขั้นตอนนั้นหากสมัครสมาชิกแล้วสามารถสมัครเป็นหัวหน้าพรรคได้เลย

เชื่อสส.ปาร์ตี้ลิสต์ เพิ่มแน่นอน

เมื่อถามว่าได้คุยหรือไม่ว่านายอภิสิทธิ์จะเลือกใครมาเป็นเลขาธิการพรรค นายนิพิฏฐ์กล่าวว่ามีการพูดคุยถึงชื่อ 3-4 คน แต่ยังไม่ขอเปิดเผยเพราะต้องให้นายอภิสิทธิ์ ตัดสินใจ ซึ่งเป็นคนที่เหมาะสมแน่นอน ส่วนตนยืนยันไม่รับตำแหน่งในพรรค แต่จะช่วยงานตามที่หัวหน้าพรรคมอบหมาย โดยเฉพาะการจัดตัดผู้สมัครในพื้นที่ภาคใต้

เมื่อถามอีกว่าถ้านายอภิสิทธิ์ กลับมาจะได้ สส.เพิ่มกี่คน นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ยังประเมินไม่ได้ เพราะมีการใช้เงินกันมาก แต่ในส่วนของบัญชีรายชื่อได้เพิ่มขึ้นแน่นอน

สะพัด‘มาดามแป้ง’จ่อคิวเลขาปชป.

ส่องว่าที่เลขาธิการพรรคคนใหม่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)ชื่อ”มาดามแป้ง”นวลพรรณ ล่ำซำ ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุด เมื่อสอบถามกับบรรดาคนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ถึงนาทีนี้น่าจะแน่นอนแล้วว่า ตัดสินใจหวนคืนมารับหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งแม้คนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ อย่างนายนิพิฏฐ์อินทรสมบัติ อดีตรองหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ผ่านเฟสบุ๊คว่าได้พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์3-4ชั่วโมงจะเปิดเผยแค่ว่ามีคนอยู่ในข่ายเหมาะสมจะเป็นเลขาธิการพรรค 3-4 คนแต่ต้องให้นายอภิสิทธิ์เป็นคนตัดสินใจเมื่อถามว่าในผู้ที่เหมาะสมมีชื่อมาดามแป้งอยู่หรือไม่ นายนิพิฏฐ์ก็ไม่ปฏิเสธ

เช่นเดียวกับผู้มีบทบาทในพรรคประชาธิปัตย์อีกคนก็ยอมรับว่ามาดามแป้งเหมาะสม แต่อยู่ที่ว่าหัวหน้าพรรคคนใหม่ และมาดามแป้งจะตัดสินใจอย่างไรทั้งนี้เมื่อถามถึงอดีตผู้บริหารพรรคบางคน ที่มีบทบาทสูงอีกคนหนึ่ง แหล่งข่าวในพรรคประชาธิปัตย์หลายคนต่างบอกว่า ยังไม่มีบารมีมากเพียงพอจะรับตำแหน่งดังกล่าวทั้งนี้ตามขั้นตอนหลังจากที่ประชุมเลือกหัวหน้าพรรคแล้ว หัวหน้าพรรคคนใหม่จะเป็นผู้เสนอชื่อคณะกรรมการบริหาร รวมทั้งเลขาธิการพรรคให้ที่ประชุมเห็นชอบ

‘ไทยสร้างไทย’เปิดร่างแก้ไขรธน.

ที่พรรคไทยสร้างไทย(ทสท.)แถลงกรณีเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีสาระสำคัญ 5 ประเด็นหลัก มุ่งเน้นการปรับปรุงกลไกการตรวจสอบอำนาจรัฐให้ยึดโยงกับประชาชน เสริมสร้างหลักนิติธรรม และยกระดับความรับผิดชอบขององค์กรอิสระ รวมถึงเพิ่มช่องทางในการบริหารประเทศให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น

เปิดทางถอดถอนองค์กรอิสระ

โดยดร. โภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยสร้างไทยกล่าวว่า การเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้รัฐธรรมนูญเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง โดยสาระสำคัญประการแรกคือ การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบและถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินได้ โดยประชาชนไม่น้อยกว่า 50,000 คนสามารถเข้าชื่อยื่นคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ดำเนินการถอดถอน ซึ่งจะทำให้กระบวนการตรวจสอบมีความโปร่งใสและลดอิทธิพลของกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมือง

ปลดล็อกก.ม.ขวางปากท้อง

ขณะเดียวกัน พรรคไทยสร้างไทยยังเสนอให้ปรับปรุงบทบัญญัติมาตรา 77 เพื่อให้การยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีพและการประกอบอาชีพเกิดขึ้นจริงโดยหากหน่วยงานของรัฐละเลยไม่ดำเนินการ ประชาชนสามารถยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อพิจารณาได้ ถือเป็นการสร้างกลไกใหม่ที่ทำให้กฎหมายตอบสนองต่อชีวิตของประชาชนมากขึ้น

เพิ่มช่องให้นายกฯมาจากส.ส.

นอกจากนี้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังมุ่งแก้ปัญหาความไม่ต่อเนื่องทางการเมืองโดยเสนอให้เมื่อสภาผู้แทนราษฎรไม่สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีจากรายชื่อในบัญชีพรรคการเมืองได้ ให้สามารถเสนอชื่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคนใดคนหนึ่งที่เห็นสมควรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อไม่ให้ประเทศต้องเผชิญภาวะสุญญากาศทางการเมือง และสามารถเดินหน้าบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างต่อเนื่อง

ปรับหลักการพ้นสมาชิกภาพ

อีกประเด็นสำคัญคือการปรับหลักเกณฑ์การพ้นสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคการเมือง โดยให้มติของพรรคการเมืองต้องผ่านความเห็นชอบจากทั้งคณะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพรรคไม่น้อยกว่าสามในสี่ เพื่อให้กระบวนการตัดสินใจเป็นธรรมและสะท้อนเจตจำนงของพรรคการเมืองอย่างแท้จริง ทั้งยังเปิดโอกาสให้ผู้ถูกขับสามารถอุทธรณ์ต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

คืนอำนาจปชช.ฟื้นหลักนิติรัฐ

นอกจากนี้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังเสนอให้ยกเลิกผลทางกฎหมายของประกาศ คำสั่ง และการกระทำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยบัญญัติให้ถือว่าเป็นสิ่งที่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญและไม่มีผลใช้บังคับ เพื่อฟื้นฟูหลักนิติรัฐและนิติธรรมให้กลับคืนสู่สังคมไทยอย่างสมบูรณ์

เร่งเสนอผ่าทางตันแก้ไขทันที

คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวย้ำว่า พรรคไทยสร้างไทย มีข้อเสนอเร่งด่วนในการผ่าทางตันด้านรัฐธรรมนูญซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของหลายฝ่ายที่เห็นว่าจำเป็นต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะนี้มี 3พรรคการเมืองเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้ามา แต่ขั้นตอนแรกยังเป็นเพียงการเปิดโอกาสให้มีประชามติเพื่อถามประชาชนว่าจะเห็นชอบแก้ไขหรือไม่เท่านั้น การแก้ไขนี้เป็นเพียงการไขกุญแจเข้าประตูบ้าน ยังต้องเผชิญขั้นตอนอีกหลายชั้นโดยข้อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้จะนำไปหารือกับทุกภาคส่วนเพื่อแสดงให้เห็นถึงประโยชน์ร่วมกัน การแก้ไขสามารถดำเนินการได้ทันทีโดยไม่ต้องรอประชามติ ใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือนและมุ่งเน้นการสร้างระบบการเมืองที่เป็นธรรม มีประสิทธิภาพ และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน

นายชัชวาล แพทยาไทย เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทยกล่าวถึงความสำคัญของการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ไม่ใช่เพียงการปรับปรุงกฎหมายทั่วไป แต่เป็นเรื่องที่สะท้อนความหวัง และความมั่นใจของประชาชนต่อระบบการเมืองไทย โดยเชื่อว่าประชาชนจะยินดีสนับสนุนหากกติกาใหม่ที่ออกมาสร้างประโยชน์ต่อทุกคนอย่างแท้จริง ไม่เอื้อประโยชน์เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ขณะเดียวกันเห็นว่าข้อเสนอแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญของ ดร.โภคิน เป็นหนึ่งในทางออกที่เหมาะสม และยืนยันว่าพรรคไทยสร้างไทยจะเดินหน้าแสวงหาความร่วมมือจากสมาชิกและพรรคการเมืองอื่น ๆ เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดต่อไป

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top