เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กย้อนเหตุการณ์ความหลังเพื่อฝากไปถึงนายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ที่อยู่ระหว่างการลี้ภัยในประเทศฝรั่งเศส โดยระบุว่า
คิดถึงคุณจรัญ กลับบ้านเถิดครับ!
1. คุณจรัญที่คิดถึงวันนี้ ไม่ใช่ท่านอาจารย์จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่กำลังมีบทบาททางกฎหมายอยู่ปัจจุบันนี้ แต่เป็นคุณจรัญ ดิษฐาอภิชัย นักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนตัวยงของประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อายุร่วม 80 ปีแล้ว และมีอันต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเมื่อคำนึงของจิตใจคนวัยนี้แล้วก็ไม่ต่างกับนกยามสนธยาที่ต้องถวิลหากลับรวงรัง ดังนั้นในฐานะที่เป็นมิตรเก่าแก่กันมาก็อยากจะชวนคุณจรัญว่ากลับบ้านเถิด เพราะเราต่างก็เป็นคนไทยที่มีพระเจ้าแผ่นดินพระองค์เดียวกัน!!
2. ครั้งหนึ่ง ผมตามคณะพลเอกพัฒน์ อัคนิบุตร อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุดและจเรทั่วไป เดินทางไปราชการที่พม่าตามคำสั่งของลุงจิ๋ว นัยว่าจะไปแสดงความยินดีและอวยพรทั้งหารือข้อราชการร่วมกับพลเอกซอหม่อง ซึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของพม่าในขณะนั้น แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือไปขอตัวข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยในพื้นที่ภาคเหนือที่ทะเล่อทะล่าท่าไหนก็ไม่รู้และถูกทหารพม่าจับเอาตัวไป
ลุงจิ๋วจึงมอบภาระนี้ให้กับพี่พัฒน์ซึ่งจัดคณะเดินทางราว 15 คนขึ้นเครื่องบิน C130 ไปย่างกุ้งโดยให้พลโทสนั่น ขจรกล่ำ มือประสานงานพม่าของลุงจิ๋วช่วยประสานงานล่วงหน้าแค่ 2 วัน ผมก็ได้ชวนคุณจรัญซึ่งเป็นมิตรสหายและรู้เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นอย่างดีร่วมคณะไปด้วย
เมื่อพบหน้ากัน สองนายพลไทย-พม่าก็กอดกันเกลียว ไม่ทันที่พี่พัฒน์จะพูดขอตัวข้าราชการฝ่ายมหาดไทย ท่านนายพลซอหม่องก็บอกว่า ท่านนายพลพี่ชายมาครั้งนี้ผมได้เตรียมของขวัญไว้ให้เรียบร้อยแล้ว โดยได้สั่งการกองบัญชาการภาคตะวันตกกองทัพพม่าให้นำข้าราชการมหาดไทยท่านนั้นมาพร้อมไว้ที่ย่างกุ้งแล้ว และจะมอบตัวคืนให้กับพี่พัฒน์เพื่อกลับประเทศไทยพร้อมกัน หลังจากเจรจาความเสร็จแล้วก็มีพิธีการต้อนรับดูระบำรำฟ้อนตามธรรมเนียมของพม่า ทั้งที่ทำเนียบรัฐบาลและที่สภาซึ่งท่านนายพลซอหม่องท่านก็ต้องการจะอวดที่ทำการของรัฐสภาพม่าว่าใหญ่โตมโหฬารและทำด้วยไม้สักไม้มีค่าเป็นพื้น
3 .ในช่วงนั้นปรากฎว่าคุณจรัญหายไป จนเกือบบ่ายสามโมงแล้วก็ไม่รู้ว่าไปไหนและไม่สามารถติดต่อได้เพราะยุคนั้นยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ ผมจึงบอกให้พี่พัฒน์ทราบพี่พัฒน์ก็นิ่งอยู่ครู่หนึ่งและถามว่าจรัญเขาไปไหน ผมก็บอกว่าไม่ทราบแต่เท่าที่จับยามดูก็น่าจะถูกจับ พี่พัฒน์ท่านคอเดียวกับผมในเรื่องนี้อยู่แล้ว เมื่อไม่รู้เบาะแสอย่างอื่น ท่านก็บอกกับท่านนายพลซอหม่องว่าลูกคณะหายไป เข้าใจว่าปลีกตัวไปดูความเรียบร้อยของบ้านเมืองว่าการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาลพม่าทำให้บ้านเมืองสงบสุขอย่างไร คาดว่าเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าเป็นใครอาจจะควบคุมตัวไว้ ท่านนายพลซอหม่องก็สั่งลูกน้องให้สอบสาวราวเรื่อง ราวชั่วโมงเดียวเท่านั้น เจ้าหน้าที่พม่าก็พาคุณจรัญมาที่คณะ
4. คุณจรัญเป็นนักสู้ของประชาชน มีความรู้ความสามารถสูงมาก ถ้าใช้ความรู้ความสามารถนั้นทำมาหากินก็คงจะสุขสบายเป็นอันมาก แต่คุณจรัญก็อุทิศตนเพื่อประชาชนชนิดสุดชีวิตจิดใจ ที่ไหนเดือดร้อนไม่เป็นธรรม คุณจรัญก็ไปที่นั่นไปช่วยเหลือเอื้อเฟื้อโดยไม่มีค่าตอบแทนใด ๆ รายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็หมดไปเพราะการไปช่วยเหลือประชาชน และได้ทำการรณรงค์ให้นิสิตนักศึกษาครูอาจารย์ทั้งหลายตระหนักถึงสิทธิมนุษยชนและสิทธิของประชาชนในระบอบประชาธิปไตย จะเรียกว่าเป็นนักสิทธิมนุษยชนรุ่นบุกเบิกก็ว่าได้ เพราะเหตุนั้นคุณจรัญจึงมีเพื่อนฝูงนักสิทธิมนุษยชนหลายประเทศไปมาหาสู่เป็นประจำ
ครั้นมีความขัดแย้งแหลมคมขึ้น คุณจรัญก็ตกอยู่ในวังวนความขัดแย้งนั้นจนต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ
ยามสนธยาแล้วนกกาทั้งหลายก็ย่อมถวิลหากลับรวงรังอย่างไร คุณจรัญก็คงเป็นอย่างนั้น วันนี้เมื่อรำลึกถึงมิตรสหายคนนี้คำนึงถึงความสัมพันธ์แต่หนหลังก็อยากจะชวนกลับบ้าน วางธุระของคนอายุรุ่นนี้ให้กับคนรุ่นหลังและกลับมาสู่อ้อมอกแห่งมาตุภูมิและครอบครัวอีกครั้งหนึ่งก็จะดีเป็นแน่ ความในใจผมก็มีอย่างนี้แหละครับ หากความทราบถึงคุณจรัญก็ขอให้ทราบความรำลึกถึงของมิตรคนหนึ่งในเมืองไทยว่าเป็นอย่างนี้ กลับบ้านเถอะครับ เรื่องทั้งหลายไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้หรอก
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี