เปิดวาร์ป‘แหม่ม อัญชิสา’หญิงแกร่ง ใจถึง พึ่งได้ เลขาธิการพรรคพลัง  

12 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่สมาชิก “พรรคพลัง” โหวตเป็นมติเอกฉันท์ให้ “แหม่ม” ว่าที่ ดร.อัญชิสา เทพทับทิมทอง นั่งตำแหน่งเลขาธิการพรรค พบว่า แม่บ้านพรรคพลัง มีดีกรีไม่ธรรมดา

“แหม่ม” เป็นคนศาลายา พุทธมณฑล นครปฐมโดยกำเนิด เติบโตเรียนจบชั้นประถมศึกษา โรงเรียนปุรวาส , ชั้นมัธยมศึกษา โรงเรียนมหรรณพาราม หลังจากเรียนจบไม่ได้เอ็นทรานซ์ แต่มีความศรัทธารั้วพ่อขุน เพราะอยากเป็นนักบริหารแห่งรัฐ จึงเข้าศึกษาในคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เรียนจบปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์) สาขาบริหารรัฐกิจ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง , ปริญญาโทศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขาบริหารรัฐกิจและกฎหมาย รุ่น 6 และกำลังศึกษาต่อระดับปริญญาเอกปรัชญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาการเมือง รุ่น 14 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ก่อนเข้าสู่การเมืองได้ผ่านประสบการณ์ทำงานภาคเอกชนมาหลายแห่ง ทำงานเป็นเลขาให้ “บิ๊ก” ข้าราชการกระบวนการยุติธรรมท่านหนึ่ง ภายหลังได้รับการผลักดันให้เข้าสู่ทางการเมือง นั่งที่ปรึกษาประจำกรรมาธิการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร ที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการงบประมาณฯ สภาผู้แทนราษฎร อนุกรรมาธิการงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร

ล่าสุดมีข่าวว่า “แหม่ม อัญชิสา” จะนั่งเก้าอี้ CEO ประธานผู้บริหาร กลุ่มพันล้านกรุ๊ป (ประเทศไทย) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ บ้านและที่ดิน ทุนจดทะเบียน 1,000 ล้านบาท เป้าหมายสำคัญผลักดันเพื่อให้บริษัทเข้าสู่ บมจ. เสนอขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในส่วนทางการเมือง การเข้าสู่เลขาธิการพรรคพลัง ได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ในพรรคพลัง ให้มานั่งเก้าอี้รักษาการเลขาธิการพรรค ในช่วงรวบรวมผู้มีอุดมการณ์จัดตั้งพรรค เดินทางสัมมนาสัญจรพบปะแกนนำระดับภาคต่างๆ อาทิ ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคตะวันตก มือประสานสิบทิศ แสดงฝีมือเข้าตาผู้มีอำนาจในพรรคได้รับการสนับสนุนผลักดันให้นั่งเก้าอี้ใหญ่ “เลขาธิการพรรค”

“แหม่ม” ก้าวสู่เวทีการเมืองระดับชาติในวัย 35 ปี ถือเป็นคนรุ่นใหม่ วัยทำงาน มีประสบการณ์ทางการเมืองและเรียนรู้ประสบการณ์ทางการเมืองได้เร็ว หากวิเคราะห์ถึงตัวแปรถือว่าอายุครบตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญกำหนดไว้สามารถนั่ง”ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ” ได้ทันที หากพรรคพลัง คว้าที่นั่งเป็นกอบเป็นกำและร่วมรัฐบาล

ในส่วนวิสัยทัศน์ในการทำงานของ “แหม่ม อัญชิสา” คือ “หญิงแกร่ง ใจถึง พึ่งได้” ต้องยึดบนพื้นฐาน ความถูกต้อง เป็นธรรม ประโยชน์สูงสุดเพื่อประเทศชาติและแผ่นดิน

ทั้งนี้ ผู้ใหญ่พรรคพลังที่ยงไม่เปิดตัว ประกาศว่าจะปักธงและคว้าที่นั่งภาคละไม่น้อยกว่า 5 คน รวม 6 ภาค (ตามภูมิศาสตร์) ประมาณ 30 ที่นั่ง และบัญชีรายชื่อจำนวน 10 ที่นั่ง รวมไม่น้อยกว่า 40 ที่นั่ง และขอร่วมรัฐบาลกับทุกพรรคการเมืองที่ประชาชนเสียงส่วนใหญ่ให้จัดตั้งรัฐบาล สอดคล้องกับ ดร.ชัยยพล พสุรัตน์บรรจง หัวหน้าพรรค ยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. 400 เขต ทั่วประเทศแน่นอน

ขณะที่แหล่งข่าวจากพรรคพลัง ยืนยันว่า ได้วางตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ส่วนภูมิภาคแล้ว อาทิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ กาฬสินธุ์ อุดรธานี พิษณุโลก อุทัยธานี แม่ฮ่องสอน นครศรีธรรมราช พัทลุง เป็นต้น ส่วนกรุงเทพมหานครและภาคอื่นๆ กำลังสรรหาว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. คาดว่าจะมี ส.ส.ย้ายเข้ามาสังกัด 5-6 คน

-005