สภาฯยังราบรื่น! องค์ประชุมไม่สะดุด ถกเข้ม ‘พ.ร.ก.สารต้องห้าม’ ด้านฝ่ายค้านแตะเบรกเสนอโดยมิชอบ ขณะที่ ‘กกท.’ ยัน ‘วาดา’ พอใจแก้กฏหมายก่อนฉลุย 230 ต่อ 118
19 ม.ค.2565 ที่รัฐสภา ตั้งแต่ช่วงเช้า มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่การประชุม ถือเป็นการประชุมสภาฯนัดแรก หลังปีใหม่ หลังจากหยุดประชุมไป 2สัปดาห์ เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 แม้จะมีปัญหาส.ส.ฝ่ายรัฐบาลหลายคนถูกกักตัว เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงไปใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโควิด แต่ก็สามารถเปิดการประชุมสภาได้มีสมาชิกเซ็นชื่อเข้าร่วมประชุม 317คน ถือว่าครบองค์ประชุม จากจำนวนส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ในขณะนี้ 473 คน
สำหรับการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆในช่วงเช้าเป็นไปอย่างราบรื่น โดยร่างพ.ร.บ.ยกเลิกกฎหมายบางฉบับที่หมดความจำเป็นหรือซ้ำซ้อนกฎหมายอื่น และร่างพ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ ไม่มีปัญหาเรื่องการแสดงตนเป็นองค์ประชุม เพราะส.ส.ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือเป็นองค์ประชุมในการพิจารณากฎหมายทั้งสองฉบับ มีส.ส.แสดงตนเป็นองค์ประชุมเกินกึ่งหนึ่งเป็นจำนวนมาก ทำให้การพิจารณากฎหมายแต่ละฉบับผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาฯไปด้วยดี
ต่อมาเวลา 13.00 น.เข้าสู่วาระการพิจารณาพ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ตามที่ครม.เสนอมา เพื่อแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับสารต้องห้ามทางการกีฬาให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับมาตรฐานสากลในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามในการกีฬา โดยสมาชิกส่วนใหญ่เห็นด้วยกับพ.ร.ก.ดังกล่าว เพื่อปลดล็อกประเทศไทยจากการถูกแบนโดยองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (WADA) เห็นว่า เป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ตำหนิภาครัฐที่ทำงานล่าช้าแก้ไขกฎหมายสารกระตุ้น ทำให้ถูกลงโทษไม่สามารถใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติได้
โดยนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า เนื้อหาในพ.ร.ก.ทั้งการแก้ไขบทนิยามสารต้องห้าม และนักกีฬา การให้คณะกรรมการควบคุมสารต้องห้ามเป็นอิสระจากรัฐ การกำหนดบทลงโทษการใช้สารกระตุ้นให้ได้มาตรฐานสากล มีใครคัดค้าน แต่ติดใจการทำงานของการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)และกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาที่ล่าช้าเรื่องแก้ไขกฎหมายสารกระตุ้น จนไม่สามารถใช้ธงชาติไทยในการแข่งขันระดับนานาชาติได้ แม้วาดาเตือนประเทศไทยมาเป็นปีๆแล้ว แต่ไม่แก้ไข ไม่มีคำขอโทษจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ฝ่ายค้านไม่สบายใจที่พ.ร.ก.ดังกล่าวออกโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ไม่เข้าเงื่อนไขการออกพ.ร.ก. ไม่อยากมีส่วนรวมกระทำผิดอนุมัติพ.ร.ก.ฉบับนี้ ไม่สามารถอนุมัติให้ได้ ทางออกที่ดีคือ ขอให้เสนอกลับเข้ามาเป็นพ.ร.บ.อีกครั้ง ฝ่ายค้านพร้อมให้ตั้งกมธ.เต็มคณะพิจารณา 3วาระรวดให้ความเห็นชอบในวันเดียว เพื่อความรวดเร็ว ส่วนเนื้อหาในพ.ร.ก.ที่ระบุว่า ให้จัดตั้งสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาเป็นหน่วยงานในการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)ที่มีความเป็นอิสระในการปฏิบัติงานนั้น ดูแล้วยังไม่ถือว่า เป็นหน่วยงานอิสระจริงๆ เพราะยังอยู่ภายใต้กกท. จะอิสระได้อย่างไร วาดาจะให้การยอมรับหรือไม่
นายก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่ากกท. ชี้แจงว่า หลังจากเกิดปัญหาขึ้น กกท.ได้ประสานงานแก้ปัญหากับวาดาอย่างใกล้ชิดมาตลอด เพื่อแก้ปัญหา กรณีสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามที่ยังอยู่ในกกท.นั้น ไม่เป็นปัญหา เพราะวาดาไม่ได้เข้มงวดถึงขั้นให้ตั้งเป็นองค์กรอิสระ แค่ให้มีอิสระการทำงาน ได้ส่งเนื้อหาพ.ร.ก.ที่แก้ไขให้วาดาตรวจสอบแล้ว วาดาให้การยอมรับในพ.ร.ก. และวาดาเตรียมเสนอปลดล็อกประเทศไทยต่อบอร์ดวาดาในวันที่ 2ก.พ.นี้ ถ้าได้รับการอนุมัติประเทศไทยจะสามารถกลับมาเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติได้
ทั้งนี้หลังจากสมาชิกอภิปรายครบถ้วนทุกคนแล้ว ที่ประชุมลงมติเห็นชอบพ.ร.ก.ดังกล่าวด้วยคะแนน 230 ต่อ118 งดออกเสียง 3 ไม่ลงคะแนน 2
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี