วันพฤหัสบดี ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘โรม’ฉายหนังเก่า!แฉเส้นทางขบวนการค้ามนุษย์ เขี่ย‘พล.ต.ต.ปวีณ’ลี้ภัย

‘โรม’ฉายหนังเก่า!แฉเส้นทางขบวนการค้ามนุษย์ เขี่ย‘พล.ต.ต.ปวีณ’ลี้ภัย

วันศุกร์ ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565, 20.15 น.
Tag : ขบวนการค้ามนุษย์ บิ๊กตู่ บิ๊กป้อม พล.ต.ต.ปวีณ รังสิมันต์ โรม ลี้ภัย
  •  

เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 โดยนายรังสิมันต์ ได้อภิปรายย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิ.ย.ปี 2564 ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเรื่องสถานการณ์การค้ามนุษย์ประจำปี 2021 และลดลำดับประเทศไทยมาอยู่ในกลุ่ม Tier 2 Watch List ซึ่งมีหลายเหตุผลที่น่าสนใจ เช่น การลักลอบขนคนผิดกฎหมายข้ามชายแดนระหว่างเมียนมาร์และไทย  มีการเรียกเก็บเงินตั้งแต่ 10,000 ถึง 70,000 บาท เพื่อให้ได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่หน่วยงานท้องถิ่น และตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยมีความพยายามที่จะปราบปรามการค้ามนุษย์ที่อาจจะเป็นการปรับปรามที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีประเทศไทยมา ที่สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้และตั้งแต่นายหน้าค้ามนุษย์ที่เป็นบุคคลทั่วไป จนถึงระดับทหารระดับสูง คือกรณีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ที่นำทีมสืบสวนสอบสวนโดยพล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8

นายรังสิมันต์ อภิปรายว่า กรณีการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา คือ ชาติพันธ์ที่ถูกกดขี่จากเมียนมาร์ที่ต้องการอพยพไปยังมาเลเซียและจำเป็นต้องใช้เส้นทางผ่านประเทศไทย ดังนั้นจึงเป็นที่มาในการหาเงินจากชีวิตของคน ที่เรียกเก็บเงินหัวละหลายหมื่นบาท และนำชาวโรฮิงญาลงเรือประมงและแล่นเข้าน่านน้ำไทย และนำมาขังไว้ที่ค่ายลับกลางป่าเขา ซึ่งบางกรณีภรรยาถูกข่มขืนต่อหน้าสามี หรือพ่อต้องทนดูลูกสาวถูกกระทำชำเรา หรือในบางกรณีถูกซ้อมทรมานเพื่อเรียกค่าไถ่  ซึ่งระหว่างการอภิปรายนายรังสิมันต์ ได้เปิดภาพหลุมศพชาวชาวโรฮิงญา ที่ถูกตรวจพบบริเวณเทือกเขาแก้ว ตำบลปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา เมื่อเดือนพ.ค.ปี 2558 ซึ่งจากการชันสูตรศพพบว่าบางศพขาดสารอาหารตาย และบางศพเป็นเด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปี


นายรังสิมันต์ อภิปรายต่อว่า ลำพังหากเป็นอาชญากรทั่วไปไม่สามารถทำได้ หากไม่มีอาชญากรในเครื่องแบบเข้าไปร่วมด้วย โดยพล.ต.ต.ปวีณ ก็สามารถพิสูจน์ได้ในขณะนั้นว่า เป็นเช่นนี้จริง โดยการสืบสาวไปจนถึงนักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารอีกหลายนาย และ เจ้าหน้าที่ภาครัฐใหญ่ที่สุดที่จับได้ในขณะนั้นคือพล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก  ซึ่งหลังจากที่ พล.ต.ต.ปวีณ สามารถเปิดโปงกลุ่มผู้ค้ามนุษย์รายใหญ่ได้ ประเทศไทยก็สามารถเพิ่มลำดับในรายงานการค้ามนุษย์ของสหรัฐอเมริกาได้ และท้ายที่สุดพล.ต.ต.ปวีณ เจ้าของผลงานเปิดโปงการค้ามนุษย์กลับต้องเป็นผู้ลี้ภัยออกนอกประเทศ จนถึงปัจจุบันประเทศไทยก็กลับมาอยู่ในระดับ Tier 2 Watch List อีกครั้ง

นอกจากนี้ นายรังสิมันต์  ยังได้โชว์เอกสารคำให้การของ พล.ต.ต.ปวีณ ต่อทางการประเทศออสเตรเลียเพื่อใช้ประกอบการขอลี้ภัย โดยสาบานว่า คำให้การล้วนแล้วแต่เป็นความจริงและได้รับความยินยอมจากประเทศต้นทางแล้วว่า ให้พลตำรวจตรีปวีณ สามารถขอลี้ภัยได้โดยมีลายเซ็นกำกับของพลตำรวจตรีปวีณในเอกสารทุกหน้า

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงเส้นทางการทำงานของพล.ต.ต.ปวีณว่า เป็นนายตำรวจมือฉมัง ที่เคยมีผลงาน เช่น การปราบมาเฟียแท็กซี่ที่จังหวัดภูเก็ต การสืบสวนคดีโรงพักตำรวจทั่วประเทศที่ไปเกี่ยวข้องกับนักการเมืองชื่อดังคนหนึ่ง ที่เคยเป็นกำนันอยู่ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี จนสามารถขยายผลและออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องได้และต่อมาได้มีการขยายผลสืบค้นบ้านพักผู้ต้องหาที่จังหวัดระนอง โดยมีพันตำรวจเอก อ. เป็นหัวหน้าชุดซึ่งขณะนั้นได้พบหลักฐานการโอนเงินจากผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ และลงชื่อผู้รับเงินที่สำคัญหลายคน เช่น นางจันทรา ปั้งซวด หรือ เจ๊ง้อ ที่มีสายสัมพันธ์โยงไปถึงอดีต ผบ.ทบ.ในรัฐบาลชุดปัจจุบันด้วย และอีกหนึ่งรายชื่อสำคัญที่รับเงินจากการค้ามนุษย์คือพล.ท.มนัส โดยมีวงเงินกว่า 14 ล้านบาท ซึ่งกรณีของพล.ท.มนัส ในครั้งนั้นพล.ต.ต.ปวีณ ไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงให้เห็นถึงการขัดขวางกระบวนการสืบสวนสอบสวน และติดบางพยานหลักฐานต่างๆจากพันตำรวจเอก อ.

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ดังนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ แต่ในฐานะที่ควบคุมดูแลตำรวจในขณะนั้น เคยรับทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ้างหรือไม่ ซึ่งจากการออกหมายจับและขยายผลดังกล่าวทำให้ผู้ต้องหาทยอยเข้ามอบตัวซึ่งหนึ่งในนั้นคือนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือ โกโต้ง ออกมามอบตัวกับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม จากคำให้การของพล.ต.ต.ปวีณ ได้เผยว่า เคยรับสายจากนายตำรวจคนสนิทของพล.อ.ประวิตร โดยอ้างว่า พล.อ.ประวิตรต้องการเห็น พล.ท.มนัส คงแป้น ถูกปล่อยตัว ซึ่งหลังจากรับสายโทรศัพท์ไม่นานกลับพบว่าพล.ท.มนัส เข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น โดยสตช.ได้จัดเครื่องบินส่วนตัวจากกรุงเทพฯ สู่หาดใหญ่จังหวัดสงขลา ประกอบกับกรณีที่พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ได้เขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ตอนหนึ่งว่า ได้ยินว่าพล.ต.อ.สมยศ พูดคุยกับพล.ท.มนัส ว่า เราเป็นพี่น้องกันจะให้ความเป็นธรรมสอบสวนเสร็จแล้วจะให้ประกันตัว

“จึงเป็นที่น่าสนใจว่า เป็นการไม่เคารพต่อกฎหมายโดยใช้เส้นสายช่วยเหลือพวกพ้อง เนื่องจากคดีการค้ามนุษย์ครั้งนี้ถือเป็นคดีที่เกี่ยวเนื่องกับนอกราชอาณาจักร ตามกฎหมายแล้วผู้ที่จะสั่งให้หรือไม่ให้ประกันต้องเป็นอัยการสูงสุดเท่านั้น ซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี และท้ายที่สุดพล.ต.ต.ปวีณ ต้องถูกย้ายไปพื้นที่ขัดแย้งที่เคยทำคดีมาก่อน ดังนั้นจึงขอตั้งคำถามไปยัง พล.อ.ประวิตร ว่า ในการย้ายพล.ต.ต.ปวีณไปในพื้นที่เสี่ยงนั้นต้องการให้ พล.ต.ต.ปวีณ จบชีวิตหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า ส่วนตัวตนได้เคยพูดคุยกับพล.ต.ต.ปวีณ จึงทำให้ทราบว่า คดีการค้ามนุษย์ยังมีอีกหลายเรื่องที่น่าสนใจ ว่าเป็นไปได้หรือไม่ในการจับการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญาที่ลงเรือได้เพียงนายทหารชั้นผู้น้อย และเป็นไปได้หรือ ที่นายทหารยศน้อยสามารถสั่งเปิดน่านน้ำได้

- 004

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'จตุพร\'เปิดใจสัมพันธ์\'ฮุน เซน\' ย้ำไม่เคยลี้ภัย เล่าความหลัง\'ทักษิณ\'เคยสั่งให้ไปพบหลังปี 53 'จตุพร'เปิดใจสัมพันธ์'ฮุน เซน' ย้ำไม่เคยลี้ภัย เล่าความหลัง'ทักษิณ'เคยสั่งให้ไปพบหลังปี 53
  • \'ทั่นโรม\'ถามดักคอ\'ทักษิณ\'จะใช้โมเดลแบบไหนบริหารประเทศ ยังข้องใจใครเป็นนายกฯกันแน่ 'ทั่นโรม'ถามดักคอ'ทักษิณ'จะใช้โมเดลแบบไหนบริหารประเทศ ยังข้องใจใครเป็นนายกฯกันแน่
  • \'สมคิด\' ติง \'โรม\' ไม่สมควรบุกทำเนียบ ยันไม่ไร้มือดีด้านกฎหมาย 'สมคิด' ติง 'โรม' ไม่สมควรบุกทำเนียบ ยันไม่ไร้มือดีด้านกฎหมาย
  • ‘เศรษฐา’เมิน‘โรม’วิจารณ์ดึง‘วิษณุ’เป็นกุนซือกฎหมาย ไล่ไปถามในสภา ‘เศรษฐา’เมิน‘โรม’วิจารณ์ดึง‘วิษณุ’เป็นกุนซือกฎหมาย ไล่ไปถามในสภา
  • \'โรม\'จี้รัฐบาลจัดการทุนสีเทาพื้นที่ชายแดน ห่วงไทยป้อนไฟฟ้า-เสามือถือหนุนแก๊งคอล 'โรม'จี้รัฐบาลจัดการทุนสีเทาพื้นที่ชายแดน ห่วงไทยป้อนไฟฟ้า-เสามือถือหนุนแก๊งคอล
  • วางยาตั้ง‘ถุงขนม’!รังสิมันต์งงคน‘เพื่อไทย’เพียบทำไมจิ้ม‘พิชิต’ หยัน‘เศรษฐา’อ่อนการเมือง วางยาตั้ง‘ถุงขนม’!รังสิมันต์งงคน‘เพื่อไทย’เพียบทำไมจิ้ม‘พิชิต’ หยัน‘เศรษฐา’อ่อนการเมือง
  •  

Breaking News

‘สุริยะ’บอกให้รมต.เป็นสส.หอบงานไปทำในสภาฯ แก้เกมฝ่ายค้านนับองค์ประชุม

'ชิมแจฮยอน'วง F.ableเสียชีวิตในวัย 23 ปี หลังป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาว

'คาโอ'เปิดตัว TEN แคมเปญแอมบาสเดอร์ฉลอง 60 ปีส่งต่อรอยยิ้มในงาน‘Kao X TEN susTENable Smiles’

'ฮุน เซน'ขู่ตัดขาดไทย! จี้รัฐบาลกัมพูชาเลิกหนุนสินค้าทุกชนิด กร้าว'แม้ไม่มีจะกินก็อย่าพึ่งเขา'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved