“...จะมีครั้งใดที่คนในสังคม มีน้ำใจกระด้าง เห็นแก่ตัว ไร้ความสุนทร เช่นคนปัจจุบันนี้ คงจะไม่มียุคใดเทียม
แม้เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าข้าศึก เราก็ไม่ยับเยินเท่านี้ เพราะพม่าเผาได้แต่เมือง แต่เมืองก็สร้างขึ้นมาได้ใหม่
งามอย่างภาคภูมิ และสมบูรณ์ในศาสตร์ของความสุนทร
ถึงแม้ว่าเมืองใหญ่เราจะสร้างขึ้นที่บางกอกก็ตาม
ครั้งนั้นป่ายังเป็นป่าที่เขียวชอุ่ม น้ำในแม่น้ำลำห้วย ยังอาบดี กินดี...”
รองศาสตราจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร อาจารย์“ตำนาน” ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขียนถึง “บ้านเมือง สิ่งแวดล้อม” ที่ถูกทำลายโดย “คนในสังคม” ของเราที่ทำตัวดุจ “เนื้อสมัน” ที่ฆ่าตัวเอง โดยกิน “พุ่มไม้” ที่กำบังตนเองจาก “ความร้อน” และจาก “นายพราน”ลงจนหมดสิ้น
ทำลายผืนแผ่นดินที่อุดมด้วยธรรมชาติและทรัพยากรธรณีจนกลายมาเป็น “แผ่นดินที่ไร้ป่าไร้แม่น้ำลำธารที่สะอาด แผ่นดินที่ชอุ่มด้วยพันธุ์ไม้ใหญ่น้อย ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล คนมีเมตตา...”
อาจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร ได้ร่ำร้องและร้องเรียนถึงสภาพบ้านเมืองของเราที่เลวร้าย เมื่อ 40-50 ปีที่แล้ว
เวลาผ่านมา “สภาพทำลายธรรมชาติ ทำลายตนเอง”ไม่ได้ดีขึ้น
ดูความเจริญของบ้านเมือง ถูกล่อหลอก ปกคลุมด้วย “หน้ากากพลาสติก” “ผนังคอนกรีต” และวัดกันที่ความสูงใหญ่ของอาคารพาณิชย์
เสา “คอนกรีต” ขึ้นง่ายกว่า “ต้นไม้”
พวกเราที่ยังมีสติสัมปชัญญะโหยหา “เมือง-ที่อยู่-สิ่งแวดล้อมในอุดมคติ”
แต่การจะได้ “เมืองในฝัน” เราคงต้องมี “ผู้นำ” “ผู้ว่าราชการ” ใน “อุดมคติ”
“ผู้นำ” ที่รอบรู้ในวิชาการและ “เข้มแข็ง” ต่อปัญหา “โรคร้ายที่ลงรากลึกในระบบ “การทำงาน”
“คอร์รัปชั่น” ที่มีทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่สนามหญ้าหน้าตึก ไปจนถึง ชั้นบนสุดของอาคาร ที่ว่าการ ควรนำขึ้นเป็นประเด็นใหญ่ในการทำงานตั้งแต่วันแรกของการรับตำแหน่ง
จู หรงจี นายกรัฐมนตรีในตำนานของจีนได้รับการยกย่องอย่างมากในการบริหารราชการแผ่นดินที่กว้างใหญ่ไพศาลและอุดมด้วย “สินบน แต๊ะเอีย เก๋าเจียะ”
ท่าน จู หรงจี สร้างชื่อก่อนขึ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยเป็นนายกเทศมนตรี เมืองใหญ่อย่างเซี่ยงไฮ้ จากพื้นฐาน “วิศวกร” ความตั้งใจทำงาน เมื่อขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี วันแรกประกาศเลย “สั่งต่อโลงศพ”100 โลง 99 โลงไว้ใส่ “คนโกง” อีกโลงไว้เผื่อตนเอง (โกง)”
เมื่ออังกฤษเข้าปกครองฮ่องกงที่เดิมมีประวัติคอร์รัปชั่นสูงมาก “นายอังกฤษ” ฉลาดพอที่จะสั่งจับ-ลงโทษ “คนอังกฤษ” เองก่อนให้ “คนจีน” ดูเป็นเยี่ยงอย่าง
ฮ่องกงเปลี่ยนเป็น “เมืองที่โปร่งใส” ต่างชาติพอใจที่จะทำการค้าด้วย
ถ้า “ผู้ว่าฯกทม.” ที่จะมาใหม่เอา “แนวทาง” ของรศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค วิศวกรผู้รณรงค์การต่อต้านคอร์รัปชั่นมาชั่วชีวิต มาศึกษามา “ปฏิบัติ” เชื่อว่า กทม. น่าจะเป็นบ้านเมืองที่ “สะอาด” ขึ้น ข้าราชการที่ทำงานน่าจะยืดอกอวดเพื่อนบ้านได้ว่า ทำงานในองค์กรที่มี “สิริมงคล”
นอกจาก “ปัญหาเน่าๆ” ที่ฝังรกรากกันมาหลายชั่วอายุและบั่นทอน กทม. ผู้ว่าฯกทม.และทีมงาน คงต้องเจอปัญหาใหม่และเป็นปัญหาใหญ่ที่มากับ “โลกที่พัฒนา” (ไปในทางที่เลวหรือดี)
ปัญหาการขนส่งและจราจร
ปัญหาสาธารณสุข
ปัญหาพื้นที่สีเขียว ปัญหานี้ผู้ว่าจะต้องมี “ศาสตร์แห่งสุนทรียภาพ” เข้าใจความสำคัญของ “พื้นที่สีเขียว” ที่มีต่อ “สภาพจิตใจ” ของคนในกทม.
ผู้ว่าฯนอกจากต้องมองเห็น “สุนทรี” แล้วยังต้อง “จริงใจ” เข้มแข็งต่อการดำรงไว้ซึ่งมาตรฐานสากลของการกำหนดพื้นที่สาธารณะ อันเป็น “ปอด” ให้ชาวกทม.ได้หายใจโล่ง
ขยะมูลฝอยที่เพิ่มขึ้น เป็นปัญหาใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และคงหมดสมัยที่ กทม. จะใช้ระบบการเก็บ-ทำลายขยะที่ใช้กันอยู่เกือบ 100 ปี
คำว่า “ระบบ” ต้องมีการออกแบบตั้งแต่การทิ้งของของประชาชน การเก็บ - ภาชนะที่รองรับ - รถที่มาเก็บต้องออกแบบให้สอดคล้อง - สะดวก การไปโรงขยะ ต้องออกแบบให้ต่อเนื่อง ลื่นไหล
วิชาออกแบบระบบนี้ ฝรั่งเขาสอนกันมาเกือบ 100 ปีเหมือนกัน
ดูงานที่ “ผู้ว่าฯกทม.” และทีมต้องทำเพื่อให้ “ราษฎร” ตาดำๆ ได้อยู่ “เมืองในฝัน” ไม่ง่าย คงยิ่งกว่า “เข็นครกขึ้นยอดเสาชิงช้า”
แต่เราคงไม่อยากได้ “ผู้นำ” ที่คิดท้อถอยแต่แรก“ปัญหากทม. 100 นายก (เทศมนตรี) ก็แก้ไม่ได้)”
คงต้องถามแบบเด็กรุ่นใหม่ “ผู้ว่าฯ กทม. มีไว้ทำไม (ถ้าไม่ทำงาน)”
กฤษณ์ ศิรประภาศิริ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี