เกมพลิกกลางอากาศ"มิ่งขวัญ"มาแล้ว ประกาศตั้งพรรค"โอกาสไทย" ชูทางเลือกมุ่งแก้วิกฤตเศรษฐกิจประเทศ พร้อมนั่ง “หัวหน้าพรรค-แคนดิเดตนายกฯ” ย้ำจุดยืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย เลี่ยงพูดถึง “บิ๊กตู่” วอนสื่ออย่าโยงไปทะเลาะกับใคร ขณะที่ “ลูกชายอัศวิน” โผล่ร่วมสังเกตการณ์ แต่ยังกั๊กมาร่วมงาน ขอเวลา 1 เดือนตัดสินใจไปอยู่พรรคใด ยันจุดยืนการเมืองไม่เกี่ยวกับพ่อ
เมื่อเวลา 14.00 น. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ ได้เปิดแถลงข่าว ที่ โรงแรม CENTARA GRAND@CENTRAL WORLD โดยถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรก หลังจากได้ประกาศลาออกจากส.ส.เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา
นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเงียบไป แต่ตนก็ยังทำงานการเมืองอยู่ และเตรียมการเลือกตั้งครั้งต่อไป และได้ดำเนินการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ชื่อว่า “โอกาสไทย” ซึ่งหมายถึงโอกาสของคนไทยทุกคน จะใช้สีเขียว-ชมพู โดยสีเขียวสะท้อนแสง จะหมายถึงเมืองเกษตรกรรม ส่วนสีชมพูคือความทันสมัยและคนรุ่นใหม่ ซึ่งขณะนี้พรรคยังอยู่ในกระบวนการจดจัดตั้งพรรคกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)อยู่
“ผมขอประกาศว่าถ้าใครสนใจในความคิด และอุดมการณ์ ในภาวะที่ประเทศไทยมีวิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้ ก็ขอเชิญชวนผู้ใหญ่ หรือคนหนุ่ม คนสาวหรือคนรุ่นใหม่ที่สนใจที่จะมาร่วมอุดมการณ์ตรงนี้ ก็ขอให้สแกนคิวอาร์โค้ดเข้ามาเป็นเพื่อนกันในแอพพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก เพื่อช่วยกันคิดเรื่องต่างๆในการแก้ปัญหาได้เลย”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าจะไปร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทยของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ตนพูดคุยกับนักการเมืองต่างๆเราพูดคุยกันอยู่แล้ว และขอย้ำว่าที่ได้พูดคุยกับนักการเมือง ตนได้บอกว่าจะทำพรรคการเมือง แต่ไม่ได้บอกว่าชื่ออะไรและวันนี้ถือเป็นคำตอบแล้วว่าตนได้ตั้งพรรคการเมืองแล้ว ที่มีชื่อว่า"โอกาสไทย"
เมื่อถามถึงจุดยืนของพรรคเป็นอย่างไร จะสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า ตนไม่รู้ แต่ก็เดินตรงไปตามที่เคยเดิน และจุดยืนคือประชาธิปไตย ตอนนี้ยังไม่ร่วมกับพรรคไหน จะขอเปิดเผยในการแถลงข่าวในครั้งหน้า เพราะตอนนี้ยังไม่รู้จะได้ส.ส.เท่าไหร่ แต่คนที่จะเข้าร่วมกับพรรคต้องเป็นคนที่สนใจแก้ปัญหาปากท้องประชาชน ถ้าไม่สนใจก็ทำงานร่วมกันไม่ได้
ยืนยันว่าตนเตรียมตัวมาเต็มที่ เตรียมตัวมาอย่างดี และตอนนี้ก็มีคนสนใจที่จะเข้าร่วมกับพรรคระดับหนึ่ง มีความหลากหลาย มีทั้งผู้ใหญ่และคนอายุน้อย ทั้งจากสายวิชาการ สายการศึกษา สายเกษตร ซึ่งอาจจะเป็นคนหน้าใหม่ แต่ขอยังไม่บอกว่าเป็นใครบ้าง
"วันนี้ขออย่าให้ผมไปทะเลาะกับใครเลย ไม่อยากทะเลาะกับใคร สำหรับพรรคโอกาสไทย นี้ผมจะเป็นหัวหน้าพรรคและเป็นแคนดิเดต นายกฯเอง"
ส่วนเหตุผลที่ไม่เข้าร่วมกับพรรคอื่นนั้น นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า เป็น เพราะจุดโฟกัสที่จะทำเรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก เมื่อถามว่า จะชวนส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่มาเข้าร่วมพรรคโอกาสไทยด้วยหรือไม่นั้น นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า อย่าให้ตนพูดอะไรถึงคนพรรคนั้นเลย สำหรับการแถลงข่าวครั้งต่อไป นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า จะเกิดขึ้นในช่วง 10-15 วันจากนี้ จึงขอให้ติดตามตอนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า ระหว่างการแถลงข่าวร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง อดีตโฆษก กทม.บุตรชายของพล.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่ากทม. มาร่วมฟังการแถลงข่าวด้วย โดยระบุว่า ติดตามนายมิ่งขวัญมานานแล้ว ยอมรับมีแนวคิดว่าจะลงการเมือง แต่กำลังตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมกับพรรคไหน ซึ่งเป็นการตัดสินใจโดยลำพัง ไม่เกี่ยวกับพล.ต.อ.อัศวิน ส่วนพรรคที่จะตัดสินใจเข้าร่วมงาน จะดูที่มีแนวคิดแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเป็นหลัก เพราะขณะนี้ถือว่าเป็นปัญหาหนักมากของประเทศ โดยตนจะตัดสินใจภายใน 1 เดือน อย่างไรก็ตาม พรรคพลังประชารัฐไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่จะไปร่วมงาน
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่านายมิ่งขวัญ จะไปร่วมงานกับพรรคเศรษฐกิจไทยของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รักษาการหัวหน้าพรรค โดยถูกวางตัวเป็นดรีมทีมเศรษฐกิจร่วมกับ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง แต่คาดว่าน่าจะตกลงกันไม่ได้เรื่องจุดยืนและรายละเอียดอื่น ๆ จึงแยกตัวมาตั้งพรรค (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:ตามคาด! 'ธีระชัย-มิ่งขวัญ'เสริมทัพดรีมทีมเศรษฐกิจพรรค'ธรรมนัส')
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี