4 วันได้ 77 มาตรา! ‘รัฐสภา’ถก พ.ร.บ.ตำรวจ มาตรา 69 นานกว่า 3 ชั่วโมงจบไม่ลงเหตุกมธ.ข้างมาก ตัดปมระยะเวลาเลื่อนตำแหน่ง ขณะที่กมธ.ข้างน้อยซัดตัดตอนการปฏิรูปขัดรธน. ก่อนถอยยอมคืนเกณฑ์ระยะเวลาดำรงตำแหน่งให้
เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญัญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.... ซึ่งกรรมาธิกาาร(กมธ.) วิสามัญฯ ที่มี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ ส.ว. ฐานะรองประธานกมธ. ทำหน้าที่ประธานกมธ.พิจารณาแล้วเสร็จในวาระสอง ต่อเนื่องเป็นครั้งที่4 โดยที่ประชุมได้เริ่มต้นพิจารณา มาตรา 68 ทั้งนี้ในมาตราดังกล่าวสามารถผ่านการพิจารณาได้รวดเร็ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อการประชุมเข้าสู่การพิจารณา มาตรา 69 ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง พบว่ามีการอภิปรายไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาที่กมธ.เสียงข้างมากแก้ไข เนื่องจากได้ตัดประเด็นเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาดำรงตำแหน่งเดิมก่อนที่จะได้พิจารณาเลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้น เช่น รองผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ ต้องแต่งตั้งจากข้าราชการตำรวจยศพล.ต.ท. หรือ พล.ต.อ. และเคยดำรงตำแหน่ง ผช.ผบ.ตร. หรือรองจเรตำรวจแห่งชาติมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี เป็นต้น
ทั้งนี้กมธ.เสียงข้างน้อยและสมาชิกที่สงวนคำแปรญัตติ เห็นแย้งว่าการตัดเนื้อหาดังกล่าวคือการตรากฎหมายที่ขัดกับรัฐธรรมนูญซึ่งกำหนดให้มีเงื่อนไขที่ชัดเจนต่อการเลื่อนตำแหน่ง แต่แม้เงื่อนไขดังกล่าวจะถูกย้ายไปไว้ใจบทเฉพาะกาล แต่กำหนดให้ใช้บังคับเพียง 5 ปี จึงไม่มีหลักประกันที่รับรองการปฏิรูปตำรวจ และตัดช่องการซื้อขายตำแหน่งในราชการตำรวจและการโยกย้ายที่ไม่คำนึงถึงประสบการณ์ความรู้ ความสามารถ
ขณะที่พล.ต.อ.ชัชวาลย์ ชี้แจงว่าเหตุผลที่ตัดเรื่องเงื่อนไขด้านเวลาดำรงตำแหน่งนั้นเนื่องจากมาตราดังกล่าวมีผู้เสนอให้ตัดวรรคสาม ว่าด้วยเหตุลดระยะยเวลาดำรงตำแหน่งในการแต่งตั้งออก ดังนั้นในเนื้อหาที่เกี่ยวข้องจึงไม่จำเป็นต้องระบุเงื่อนไขด้านเวลาไว้
อย่างไรก็ดีที่ประชุมได้ถกเถียงในประเด็นดังกล่าวเป็นเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง และไม่มีแนวโน้มว่าจะยุติในความเห็นต่างผ่านการลงมติได้ จึงมีผู้เสนอให้พักการประชุม ซึ่ง นายพรเพชร เห็นด้วย พร้อมกล่าวว่า ขอให้พักการประชุมไปเพื่อให้ กมธ.เสียงข้างน้อยที่สงวนความเห็นและ สมาชิกรัฐสภา ที่เสนอคำแปรญัตติ หารือกับ กมธ.เสียงข้างมาก เพื่อแก้ไขเนื้อหาและยกร่างมาตราดังกล่าวขึ้นใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากการพักการประชุมนาน 30 นาทีก่อนจะกลับมาประชุม โดยนางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ ส.ว. ฐานะกมธ. ได้ชี้แจงเนื้อหาที่ปรับแก้ไข ว่า ผลการหารือ จะคืนเนื้อหาว่าด้วยเกณฑ์ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง ซึ่งเดิมกมธ.เสียงข้างมาก นำไปบัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาล กลับมาบัญญัติไว้ในบทหลักตามเนื้อหาที่รัฐสภารับหลักการ แต่คงการแก้ไขในรายละเอียด เกี่ยวกับตำแหน่งสารวัตรใหญ่ และ รองจเรตำรวจ ทั้งนี้จะคงการตัดวรรคสาม ว่าด้วยเหตุจำเป็นต่อการลดระยะเวลาดำรงตำแหน่งในการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งระดับผู้บังคับบัญชาขึ้นไปเฉพาะบุคคลเป็นกรณี อย่างไรก็ดีในการคืนเนื้อหาดังกล่าวจะมีผลกระทบในมาตราถัดไป ได้แก่ มาตรา 74 มาตรา 75 มาตรา 76 และ มาตรา 80
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ ผลปรากฎว่าเสียงข้างมากเห็นด้วยกับการแก้ไขของกมธ. ดังกล่าว จากนั้นได้เข้าสู่การพิจารณาในมาตรา 70 ว่าด้วยหลักเกณฑ์คัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่ง ซึ่งเป็นมาตราเกี่ยวเนื่องกับมาตรา 69
ต่อมาเวลา 16.20 น. ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญัญัติ (พ.ร.บ.) ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.... ถึงมาตรา 77 โดยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นหารือ ขอให้ประธานพิจารณาปิดการประชุมเนื่องจากมีส.ส.หลายท่านต้องรีบเดินทางกลับไปลงพื้นที่ ทำให้นายพรเพชร ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า ขอเลื่อนการประชุมไปครั้งถัดไปในวันที่ 24 มิ.ย. เวลา 09.00น. และขอปิดประชุม
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี