"อุ๊งอิ๊ง"เขินเสียงเชียร์นั่งนายกฯ แต่ยังไม่กล้าประกาศนั่งแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย ด้าน"ผอ.เต้น"ตีหัวเข้าบ้านอ้างแคมเปญ ไล่หนูตีงูเห่าแค่สีสันการเมือง ไม่ต้องการปะทะกับพรรคภูมิใจไทย
18 มิ.ย.2565 ที่อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย(พท.)ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการหัวหน้าครอบครอบเพื่อไทย และนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังขึ้นเวทีปราศรัยและแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดศรีสะเกษ ในมหกรรม “ไล่หนูตีงูเห่า”ถึงว่าความยากในการบุกพื้นที่ศรีสะเกษหรือไม่
โดยนายประเสริฐ กล่าวว่า พื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่ประชาชนนิยมพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ดังนั้นเราไม่หนักใจเรื่องงูเห่าหรือคนย้ายพรรค
ด้านนายณัฐวุฒ กล่าวว่า เรื่องการย้ายพรรคมีให้เห็นทุกยุคสมัยเพียงแต่กรณีนี้เป็นการย้ายข้างกลางพรรษา เพราะส.ส.พรรคฝ่ายค้านย้ายไปอยู่ฝ่ายรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเองได้รับความสนับสนุนจากชาวศรีสะเกษมาโดยตลอด จึงต้องมาลงพื้นที่เพื่อบอกกล่าวความจริงกับประชาชนว่าเกิดอะไรขึ้น และยืนยันเจตนารมณ์เดิมว่าพร้อมเป็นความหวังและอนาคตของประชาชนทั้งประเทศ และชาวศรีสะเกษ พร้อมกับการเปิดตัวผู้สมัครทุกเขต ซึ่งมีเป้าหมายยกจังหวัดเพื่อนำไปสู้การแลนด์สไลด์ ไม่ใช่การยกทัพเพื่อการมาปะทะ หรือตั้งเวทีต่อว่ากันสาดเสียเทเสีย เกิดความขัดแย้งไม่มี เพราะครอบครัวเพื่อไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานแก้ปัญหาให้กับประชาชน และเตรียมเสรอนโยบายพัฒนาประเทศ
“ดังนั้นบางเสียงมองว่าเป็นการมาปะทะ มาบุกพื้นที่ของใคร ไม่ใช่ แค่พท.จำเป็นต้องเดินทางมาหาประชาชนเพื่ออธิบายเรื่องนี้” นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยก็ประกาศจะชนะยกจังหวัดเช่นกัน นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทุกพรรคก็พูดอย่างนั้น รอประชาชนตัดสินดีกว่า เพื่อไทยเรายังเชื่อมั่นว่าชาวศรีสะเกษจะให้โอกาสเราเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
ส่วนกรณีมีกระแสวิจารณ์ชื่องานครั้งนี้ว่าไม่สร้างสรรค์นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ทีมงานคิดขึ้นมาเพื่อให้เป็นสีสันในการประชาสัมพันธ์ จนได้รับกระแสตอบรับพอสมควร ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตจนเป็นการวิวาททางการเมือง หรือจนพรรคภูมิใจไทยต้องวิตกกังวล แต่เพื่อไทยต่างหากต้องรู้สึกก่อน จากการพา ส.ส. ขึ้นเวที และโหวตสวนงบประมาณ แต่เราเองก็ไม่ใช่จะสาดโคลนโจมตีหรือปะทะทางการเมือง เวทีวันนี้เราก็พูดกันไปตามเนื้อผ้า ตนว่าการเมืองวันนี้เปิดจนกันกว้าง ๆ เข้าหาประชาชน
เมื่อถามว่าการมาสื่อสารกับชาวศรีสะเกษโดยตรง คุณอุ๊งอิ๊งเชื่อว่าพลังครั้งนี้จะทำให้ จะทำให้เพื่อไทยเเลนด์สไลด์หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เวลาครอบครับเพื่อไทยลงพื้นที่มาด้วยความจริงใจ ว่ามาเพราะอะไร เพราะหน้าที่ของพรรคการเมืองสิ่งสำคัญคือการหาผู้สมัครมาลงเลือกตั้ง เอาคนเหล่านั้นมาดูแลชีวิตพี่น้องให้ดีขึ้น เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง มาวันนี้เพื่อบอกเอาพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลาง เส้นทางการเมืองกว่า 20 ปี มีทั้งคนออก คนเข้าอยู่เสมอ สุดท้ายประชาธิปไตยและประชาชนเท่านั้นต้องตัดสินว่าจะชะตาประเทศอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่าจะมีการกำหนดกิจกรรมจากนี้อย่างไร เพราะใกล้เข้าช่วงเลือกตั้งแล้ว น.ส. แพทองธาร กล่าวว่า ทุกคนทำงานคนละส่วนแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อย ในส่วนของครอบครัวเพื่อไทยจะพยายามไปหาพี่น้องในหลายพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ส่งคนของพรรคเราไปสื่อสารกับพี่น้องว่าจะทำอะไรต่อไป อยู่ที่โอกาสและพื้นที่ประสานกัน
ส่วนเสียงตอบรับให้เป็นนายกฯ น.ส. แพทองธาร กล่าวว่า ขอบคุณมากๆ ตนมองเป็นคอมเมนต์ที่เป็นบวก รู้สึกดีใจที่มีคนคิดอย่างนั้น แต่คิดว่าตอนนี้พี่น้องทนไม่ไหวแล้วที่พี่น้องทนกับสถานการณ์และเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอด 8 ปีกว่าหรือก่อนหน้าที่มีรัฐประหารเกิดขึ้นมันไม่ได้ทำให้มีข้อดีอะไรกับประเทศ ในวันที่รัฐประหารเกิดขึ้น วันนั้นประเทศไม่ได้แย่อยู่ พี่น้องคงรู้ว่าอยากให้ประเทศดีขึ้นเดินไปข้างหน้า เราก็แสดงจุดยืนว่าเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางและเอาประเทศชาติไปข้างหน้า ไม่ใช่หยุดและทะเลาะกัน
เมื่อถามย้ำว่า เสียงประชาชนพร้อมสนับสนุนแล้วตัวอุ๊งอิ๊งพร้อมหรือยังกับตำแหน่งนายกฯ น.ส. แพทองธาร กล่าวว่า “พร้อมที่สุดคือพบปะพี่น้องประชาชนและยืนยันจุดยืนที่มีมาตลอดตั้งแต่ไทยรักไทย อนาคตข้างหน้าเชื่อว่าต้องหาคนที่เหมาะสมมาทำหน้าที่ที่สุดเพื่อประชาชน”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี