“สหายธวัชชัย” นำอดีตสหายผู้ก่อการคอมมิวนิสต์ ประกาศเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ย้ำขอหนุนใช้ ‘ม.112’ พร้อมเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน
29 มิถุนายน 2565 ที่เครือข่ายผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยรักสันติ บ้านสะพานหิน ต.นาบอน อ.คำม่วง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย , นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน ร่วมกับ นายสุพล หมื่นศรีพรม หรือ “สหายธวัชชัย” ประธานกลุ่ม ผรท.รักสันติ “รวมพลังอดีตสหาย ผกค.ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” โดยมีอดีตสหาย ผกค.เก่า และลูกหลานทำกิจกรรมเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” พร้อมประกาศดังลั่น “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” ตามแนวทาง “แรมโบ้” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนออกมาแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ
นายสุพล หมื่นศรีพรม หรือ “สหายธวัชชัย” ประธานกลุ่ม ผรท.รักสันติ กล่าวว่า ทางตนและอดีตสหาย หรือผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ผกค. เพื่อแสดงจุดยืนว่าอดีตสหาย ผกค.เก่า ได้พัฒนาตัวเองมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรือ ผรท. ต้องการสนับสนุนใช้มาตรา 112 และต้องการให้จัดการกับผู้ที่หวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเด็ดขาด
นายสุพล ระบุว่า วันนี้อดีตสหายเก่าได้ทำมาหากินจนมีลูกหลานมาพัฒนาชาติไทย ตามคำสั่ง 66/23 ประกาศใช้โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีการเจรจาให้วางอาวุธปืนมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเพื่อพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน และทางรัฐบาลก็ให้การเยียวยาดูแลการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชนอดีตสหายเก่ามาอย่างต่อเนื่อง ใต้ร่มโพธิสมภารของ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่รัชกาลที่ 9 จนมาถึงรัชกาลที่ 10 ทรงเป็นประมุขของประเทศ ทรงปกครองประชาชนและแผ่นดินไทยให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา ทรงเป็นมิ่งขวัญและเป็นศูนย์รวมความสามัคคีของประชาชนชาวไทยทั้งชาติ
นายสุพล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการต่อสู้ของอดีตสหาย ผกค.ออกมาเรียกร้องให้ความเสมอภาคต่อประชาชนโดยประชาชนอยู่ดีกินดีเท่านั้น และที่สำคัญเราออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกลุ่มอดีตสหายเองก็มีความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ไม่เคยคิดจะจาบจ้วงหรือหวังล้มล้างสถาบันแต่อย่างใด แต่มาวันนี้พวกเราเห็นพฤติกรรมของลูกหลานกระทำแล้วเหยียดหยามหัวใจของประชาชนอย่างมาก อยากจะบอกว่า บรรพบุรุษของเราแม้แต่อดีตสหาย ผกค.และประชาชนรุ่นหลังที่พวกเรายอมเสียเลือดเนื้อเพื่อปกป้องสถาบันหลักนั่นคือชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ ในการต่อสู้พวกเราจะจงรักภักดีเป็นอย่างมาก พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับพวกจาบจ้วงและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างรวดเร็วและให้ถึงที่สุด
ด้าน นายชัยวัฒน์ ปัดถาวโร หรือ “สหายพิษณุโลก” ผู้ประสานงาน ผรท.ภาคอีสาน กล่าวว่า วันนี้พวกเราอดีตสหาย ผกค.เก่า ได้ออกมารวมกันแสดงพลังจุดยืนเพื่อต่อสู้และปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ ที่ถูกกลุ่มนักการเมือง พรรคการเมืองบางพรรค และกลุ่มนักศึกษาบางคนที่มีความเห็นต่าง จาบจ้วงคิดจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวและเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน 20 จังหวัด ในครั้งนี้เพราะทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหาบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ที่มีคุณูปการหาที่สุดมิได้กับกลุ่ม ผรท.
“กลุ่ม ผรท. จึงจำเป็นต้องออกมาต่อต้านผู้ที่คิดไม่ดีต่อสถาบันหลัก เพื่อปกป้องยอมสละชีวิต เพื่อให้ชาติไทยอยู่ตลอดไปชั่วนิจนิรันดร์ มิให้ใครมาทำลาย พร้อมทั้งได้ตั้งขบวนเดินรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนชาวอดีตสหาย ผกค.และประชาชนผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมรวมตัวกันออกมาประณามกลุ่มที่จาบจ้วงหวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์” นายชัยวัฒน์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี