‘อดีตสหาย’พรึ่บ!ประกาศปกป้องสถาบันฯ หนุน‘มาตรา 112’ฟันกลุ่มจาบจ้วง

‘อดีตสหาย’พรึ่บ!ประกาศปกป้องสถาบันฯ หนุน‘มาตรา 112’ฟันกลุ่มจาบจ้วง

วันพุธ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2565, 13.49 น.

“สหายธวัชชัย” นำอดีตสหายผู้ก่อการคอมมิวนิสต์ ประกาศเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ย้ำขอหนุนใช้ ‘ม.112’ พร้อมเปิดหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน

29 มิถุนายน 2565 ที่เครือข่ายผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยรักสันติ บ้านสะพานหิน ต.นาบอน อ.คำม่วง จ.อุดรธานี นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย , นางนิตยา นาโล หรือ “นักสู้ปอสี่” ประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันภาคอีสาน ร่วมกับ นายสุพล หมื่นศรีพรม หรือ “สหายธวัชชัย” ประธานกลุ่ม ผรท.รักสันติ “รวมพลังอดีตสหาย ผกค.ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” โดยมีอดีตสหาย ผกค.เก่า และลูกหลานทำกิจกรรมเปิด “หมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชัน” พร้อมประกาศดังลั่น “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” ตามแนวทาง “แรมโบ้” นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้ประชาชนออกมาแสดงพลังแห่งความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ที่เป็นเสาหลักของพสกนิกรชาวไทยทั้งประเทศ


นายสุพล หมื่นศรีพรม หรือ “สหายธวัชชัย” ประธานกลุ่ม ผรท.รักสันติ กล่าวว่า ทางตนและอดีตสหาย หรือผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ผกค. เพื่อแสดงจุดยืนว่าอดีตสหาย ผกค.เก่า ได้พัฒนาตัวเองมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรือ ผรท. ต้องการสนับสนุนใช้มาตรา 112 และต้องการให้จัดการกับผู้ที่หวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างเด็ดขาด

นายสุพล ระบุว่า วันนี้อดีตสหายเก่าได้ทำมาหากินจนมีลูกหลานมาพัฒนาชาติไทย ตามคำสั่ง 66/23 ประกาศใช้โดย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีสมัยนั้น ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ และอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มีการเจรจาให้วางอาวุธปืนมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเพื่อพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน และทางรัฐบาลก็ให้การเยียวยาดูแลการสร้างงานสร้างอาชีพให้กับประชาชนอดีตสหายเก่ามาอย่างต่อเนื่อง ใต้ร่มโพธิสมภารของ “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่รัชกาลที่ 9 จนมาถึงรัชกาลที่ 10 ทรงเป็นประมุขของประเทศ ทรงปกครองประชาชนและแผ่นดินไทยให้ได้รับความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา ทรงเป็นมิ่งขวัญและเป็นศูนย์รวมความสามัคคีของประชาชนชาวไทยทั้งชาติ

นายสุพล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการต่อสู้ของอดีตสหาย ผกค.ออกมาเรียกร้องให้ความเสมอภาคต่อประชาชนโดยประชาชนอยู่ดีกินดีเท่านั้น และที่สำคัญเราออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกลุ่มอดีตสหายเองก็มีความจงรักภักดีต่อองค์พระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ไม่เคยคิดจะจาบจ้วงหรือหวังล้มล้างสถาบันแต่อย่างใด แต่มาวันนี้พวกเราเห็นพฤติกรรมของลูกหลานกระทำแล้วเหยียดหยามหัวใจของประชาชนอย่างมาก อยากจะบอกว่า บรรพบุรุษของเราแม้แต่อดีตสหาย ผกค.และประชาชนรุ่นหลังที่พวกเรายอมเสียเลือดเนื้อเพื่อปกป้องสถาบันหลักนั่นคือชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ ในการต่อสู้พวกเราจะจงรักภักดีเป็นอย่างมาก พวกเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดกับพวกจาบจ้วงและล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างรวดเร็วและให้ถึงที่สุด

ด้าน นายชัยวัฒน์ ปัดถาวโร หรือ “สหายพิษณุโลก” ผู้ประสานงาน ผรท.ภาคอีสาน กล่าวว่า วันนี้พวกเราอดีตสหาย ผกค.เก่า ได้ออกมารวมกันแสดงพลังจุดยืนเพื่อต่อสู้และปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ ที่ถูกกลุ่มนักการเมือง พรรคการเมืองบางพรรค และกลุ่มนักศึกษาบางคนที่มีความเห็นต่าง จาบจ้วงคิดจะล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่ยึดเหนี่ยวและเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยการออกมาเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยภาคอีสาน 20 จังหวัด ในครั้งนี้เพราะทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหาบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ที่มีคุณูปการหาที่สุดมิได้กับกลุ่ม ผรท.

“กลุ่ม ผรท. จึงจำเป็นต้องออกมาต่อต้านผู้ที่คิดไม่ดีต่อสถาบันหลัก เพื่อปกป้องยอมสละชีวิต เพื่อให้ชาติไทยอยู่ตลอดไปชั่วนิจนิรันดร์ มิให้ใครมาทำลาย พร้อมทั้งได้ตั้งขบวนเดินรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนชาวอดีตสหาย ผกค.และประชาชนผู้จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมรวมตัวกันออกมาประณามกลุ่มที่จาบจ้วงหวังล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์” นายชัยวัฒน์ กล่าว

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top