ตร.ยึด3แนวทาง
จับกุมความผิดคดีกัญชา
‘วิษณุ’โยนซูเปอร์บอร์ดฯ
ชี้ขาดอะไรทำได้หรือไม่ได้
“วิษณุ” โยน “คกก.ซูเปอร์บอร์ดกัญชา” ชี้ชัด กัญชา อะไรทำได้อะไรทำไม่ได้ ช่วงสุญญากาศ รอ ก.ม.กัญชา กัญชง เสร็จปลายกรกฎาคม-ต้นสิงหาคมแนะถ้าเป็นห่วงอย่าไปยุ่งดีที่สุด สธ. วาง 5 มาตรการใช้กัญชาอย่างปลอดภัย ไม่หนุนสันทนาการ ย้ำติดตามเข้มช่วงรอยต่อ “ทิชา”นำ 33 องค์กรเด็ก บี้สภาแก้ด้านมืดกัญชา ตำรวจยึดแนวทางจับกุม 3 ประเด็น ‘สูบที่สาธารณะ-หญิงมีครรภ์ ให้นมบุตรใช้-ขายเด็กต่ำกว่า 20 ปี’ ผบช.น. ดำเนินมาตรการควบคุม เร่งเก็บข้อมูลผู้ค้าทุกพื้นที่ ห่วงไม่รู้กัญชามาขายเป็นของจริงหรือไม่
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 1 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการออกกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … เสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ว่าเห็นนายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. … ระบุว่าประมาณปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นสิงหาคม น่าจะเสร็จจากสภาผู้แทนราษฎร
เมื่อถามว่าระหว่างที่กฎหมายยังไม่เสร็จ มีการซื้อขายกันแบบโจ๋งครึ่ม นายวิษณุ กล่าวว่า ระหว่างนี้เราก็ไล่จับกันไปเรื่อยๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำความเข้าใจกับกฎหมายเรื่องนี้ให้มากใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ตำรวจก็งง อย่าว่าแต่ตำรวจเลยตนก็งง เพราะไม่รู้ว่ามันจะถูกหรือผิดขนาดไหน อย่างไร เราถึงได้ตั้งคณะกรรมการซุปเปอร์บอร์ดใหญ่ในประเทศที่มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข เป็นประธานคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งจะต้องเป็นผู้ตอบว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรได้หรือไม่ได้ ในคณะกรรมการชุดนี้จะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสาธารณสุข ตำรวจ คณะกรรมการปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) แพทยสภา หมอ โดยเฉพาะ นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผอ.รพ.จุฬาฯ ก็อยู่ในคณะกรรมการฯชุดนี้
เมื่อถามว่า หลายคนก็ยังห่วงกับสุญญากาศ ตรงนี้ นายวิษณุ กล่าวว่า “ถ้าห่วงก็อย่าไปยุ่งกับมันเลยดีที่สุด อย่าไปเสพ อย่าไปสูบ อย่าไปเด็ด อย่าไปดม อย่าไปดอม ที่ยุ่งๆอยู่ก็คือประเภทกล้าๆ กลัวๆ อยากลอง”
นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงฯ สนับสนุนการใช้กัญชาทางการแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพ ไม่ได้สนับสนุนเรื่องของการสูบ การเสพ หรือการสันทนาการ โดยมีการวางมาตรการ 5 ด้าน เพื่อสนับสนุนการใช้กัญชาอย่างปลอดภัย ดังนี้
1.การส่งเสริมการใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ ให้ความรู้ประชาชนทั้งเรื่องประโยชน์ เรื่องโทษ และการใช้อย่างเหมาะสมต่อสุขภาพ โดยจัดทำคู่มือการใช้กัญชาอย่างเข้าใจ และมีแนวทางการใช้กัญชาทางการแพทย์ทั้งแผนปัจจุบันและแผนไทย 2.การควบคุมด้วยกฎหมาย ขณะนี้มีกฎหมายควบคุมการเสพที่สาธารณะ เรื่องกลิ่นและควันเป็นเหตุรำคาญ มีการออกประกาศไม่ให้ใช้ในผู้ที่ต่ำกว่าอายุ 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร และยังมีตัวแทนร่วมเป็นกรรมาธิการปรับแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กัญชง กัญชา พ.ศ. … ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้นโยบายชัดเจนว่าต้องสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ ไม่สนับสนุนการเสพและสันทนาการ จึงต้องขับเคลื่อนให้มีการควบคุมป้องกันในกฎหมายกัญชงกัญชา
3.การเฝ้าระวังป้องกันการใช้ในทางที่ผิด โดยวางระบบรายงานเฝ้าระวังผลการใช้กัญชา ทั้งพิษจากกัญชาหรือปัญหาทางด้านจิตประสาท 4.การวางระบบการดูแลรักษาพยาบาลและบำบัดรักษา ขณะนี้มีกลุ่มงานสุขภาพจิต และยาเสพติดทุกจังหวัดที่เปิดหอผู้ป่วยรองรับการดูแล 5.การกำกับติดตามผลการขับเคลื่อนตามมาตรการที่กำหนด
“สำหรับกรณีที่ไม่ได้ใช้ผ่านการควบคุม หรือไม่เป็นไปตามนโยบาย วัตถุประสงค์ของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากเรามีกฎหมายป้องปรามไว้แล้ว หากมีการฝ่าฝืน เช่น เสพ มวนขาย เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ดำเนินการ ส่วนเรื่องของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะติดตามตรวจสอบหลังการอนุญาตให้มีการใส่สารสกัดกัญชาตามกฎหมายกำหนด โดยในช่วงรอยต่อนี้จะมีการตรวจติดตามอย่างเข้มงวด”นพ.เกียรติภูมิ กล่าว
ที่รัฐสภา องค์กรด้านเด็ก เยาวชนและครอบครัว 33 องค์กร นำโดย นางทิชา ณ นคร ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน (ชาย) บ้านกาญจนาภิเษก พร้อมด้วยนายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายลดปัจจัยเสี่ยง เข้ายื่นหนังสือต่อ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. … เพื่อยื่นข้อเสนอต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว โดยให้เน้นการใช้กัญชาทางการแพทย์ ไม่เปิดสันทนาการและห้ามขายกัญชาให้เด็กต่ำกว่า 20 ปี และกลุ่มเปราะบางรวมทั้งห้ามใช้กัญชาในสถานศึกษา สถานที่ราชการ และศาสนาสถานอย่างเด็ดขาด ห้ามไม่ให้จำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชาผ่านเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติโดยเด็ดขาด เพื่อจำกัดการเข้าถึงและครอบคลุมอายุของผู้ซื้อ ควรห้ามการโฆษณากัญชา กัญชง และผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีส่วนผสมของกัญชา กัญชง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายที่มีวิธีการและเนื้อหาเชิญชวนเด็กและเยาวชนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ด้าน นายศุภชัย กล่าวว่า ทาง กมธ. จะรับเรื่องที่เสนอมาเสนอต่อ กมธ.เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาต่อไป แต่ขอยืนยันว่ากฎหมายฉบับนี้จะต้องออกมาแล้ว ทำให้กัญชาสามารถใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดต่อประเทศไทยและคนไทย
พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบช.น. ในฐานะรองโฆษก บช.น. กล่าวว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. มีความเป็นห่วงในเรื่องของกฎหมายกัญชาใหม่ ที่มีเรื่องการซื้อขายอย่างเสรี โดยขณะนี้ มีประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุมโดยมีประเด็นเรื่องการควบคุมและส่งเสริม โดยอาศัย พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 โดยมีการประกาศยกเว้นการสูบในที่สาธารณะ,การยกเว้นการใช้กัญชาโดยสตรีมีครรภ์ หรือให้นมบุตร และการยกเว้นการจำหน่ายให้กับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะใช้ 3 ประเด็นนี้เป็นหลักในการบังคับใช้กฎหมาย ตามที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการสูบในที่สาธารณะนั้นสามารถจับกุมได้ ซึ่งกัญชาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในเรื่องของการแพทย์ การปลดล็อกกัญชา มีจุดประสงค์ทางการแพทย์ การเสพ หรือสูบในที่สาธารณะนั้นตำรวจสามารถดำเนินการได้ มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
พล.ต.ต.นิธิธร กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่น่าเป็นห่วง คือการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบว่าการนำกัญชามาจำหน่ายนั้น เป็นกัญชาจริงหรือไม่ โดยเฉพาะการขายกัญชาในรูปแบบพันลำ ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการตรวจสอบสารดังกล่าวว่าเป็นกัญชาจริงหรือไม่ ในพื้นที่ เช่น ซอยสีลมที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวนั้น ต้องทำการทดลองขอซื้อมาเพื่อทำการตรวจสอบองค์ประกอบและทำการบันทึกข้อมูลของผู้ค้ากัญชาไว้ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการขายในรูปแบบใด ขายเพื่อจุดประสงค์ใด ขายอยู่ที่จุดใด ซึ่งหากผลตรวจออกมาว่ามีการผสมสารเสพติดที่ผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการออกหมายเรียกผู้ค้าดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.นิติวัฒน์ แสนสิ่ง รอง ผบก.น.6 กล่าวว่า ทาง กองบังคับการตำรวจนครบาล 6 (บก.น.6) จะสั่งการให้ในพื้นที่ บก.น.6 ทำการเก็บข้อมูลผู้ค้าทั้งหมด และหากพบผู้เสพในที่สาธารณะ ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนประกาศกระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการจับกุมทันที หากไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า จะแจ้งทางฝ่ายสอบสวนดำเนินการต่อไป
วันเดียวกัน เมื่อเวลาประมาณ 04.30 น. มว.QRF.ที่ 1 ร้อย.QRF ได้รับแจ้งจากชุดเฝ้าตรวจชายแดนว่าจะมีการลำเลียงวัตถุต้องสงสัย (กัญชาอัดแท่ง) ข้ามมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามายังฝั่งไทยในพื้นที่บ้านไผ่ล้อม ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงได้ประสานให้ ร.อ.นฤดล อุตม์สีขันธ์ ผบ.ร้อย.QRF วางแผนการจับกุม จนเวลา 05.00 น. พบเรือกีบหางยาวติดเครื่องยนต์พร้อมบุคคลต้องสงสัย 3-4 คน แล่นมาจากฝั่ง สปป.ลาวเข้ามายังประเทศไทยบริเวณพื้นที่ริมฝั่งโขง บ้านป่งขาม และได้ขนย้ายวัตถุต้องสงสัยคล้ายกระสอบห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น เมื่อกลุ่มบุคลคลดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้อาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่หลบหนีขึ้นเรือที่ติดเครื่องยนต์ไว้หลบหนีไปได้
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบกระสอบห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกดำ จำนวน 13 กระสอบ เมื่อเปิดออกพบเป็นพืชกัญชาอัดแท่งจำนวน 13 กระสอบ จึงได้นำของกลางไปยังฐานปฏิบัติการ มว.QRF ที่ 1 เพื่อทำการตรวจนับจำนวนโดยละเอียดและพิสูจน์หลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี