งวดเข้ามาแล้วสำหรับ “ศึกซักฟอก” อภิปรายไม่ไว้วางใจแบบลงมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 รวมทั้งสิ้น 11 รายถ้วน รอขึ้นเขียงให้ “ฝ่ายค้าน” พ่นจ้อกลางสภาฯ ล้วงหาจุดอ่อน จุดโกง หวังปิดจ็อบล้มรัฐบาลให้ได้ก่อนปลายปีนี้
เพียงรอ “วิป3ฝ่าย” ที่ประกอบด้วย ด เคาะ “วันเผด็จศึก” แบบชัดๆ ในห้วงตั้งแต่ 18 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป ก็จะได้รู้กันแล้วในอีกไม่ช้าว่า ใครจะอยู่ใครจะไปบนสมรภูมิรบวาระสุดท้าย
แต่ที่ถูกหยิบขึ้นมาเป็นไฮไลต์สำคัญหนึ่งบนหน้าการเมืองในห้วงรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา คงจะหนีไม่พ้น “รอยแค้นดังไฟสุมทรวง” รอวันชำระบนศึกซักฟอกรัฐบาล ของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย เจ้าของสวนกล้วยมือเติบ
ทั้งเวิร์ดดิ้งในคำให้สัมภาษณ์ของผู้กองธรรมนัส เมื่อพุธที่29มิ.ย. เล็งตรงพุ่งเป้าเขย่าไปยังคู่แค้นตัวจริง อย่าง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หนึ่งในเป้าหมายเบอร์ 1 ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลของการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้
เปลวเพลิงครุกรุ่นสุมมาตั้งแต่คราที่ ผู้กองฯ ถูก “บิ๊กตู่” หักดิบปลดออกจากตำแหน่ง “รมช.เกษตรและสหกรณ์” สมัยยังสังกัดมุ้งพลังประชารัฐ(พปชร.) เมื่อช่วงก.ย.2564 ด้วยครหาที่ว่ากันว่า เป็นตัวเป้งเดินเกมหักหลังหวังล้ม “นายกฯตู่” กลางสภาฯ ในศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบที่แล้ว ทั้งๆที่เป็นคนในครม.แท้ๆ
แต่พล.อ.ประยุทธ์ ดูจะรู้ทันเกม แก้ลำจนรอดมาได้แบบ “เส้นยาแดงผ่าแปด” สูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ แล้วเป่าปากออกมาแบบโล่งอกไปที จากนั้นจึงตามมาด้วยดาบแห่งการคืนสนองต่อ “ร.อ.ธรรมนัส” ที่ต้องเกมพ่ายศึกพ้นตำแหน่งรัฐมนตรีไม่พอ ตามมาด้วยถูกขับออกจากพปชร. อย่างที่เรารู้กัน จนมาตั้งตัวผงาดจากหางคชสีห์ขึ้นเป็นประมุขแห่งพรรคเศรษฐกิจไทย
ขนส.ส.ในคอนโทรลส่วนหนึ่งออกมาจากพปชร. มาร่วมหัวจมท้าย ที่จนถึงขณะนี้แล้วก็ยังไม่รู้ว่า จะยืนข้างไหน ฟากรัฐบาลก็ไม่ใช่ซะทีเดียว จะอิงไปซีกฝ่ายค้าน ก็ดูยังไม่สุด เหมือนยังแทงกั๊ก แต่ศึกซักฟอกคราวนี้ คงจะได้เห็นชัดเจนขึ้นว่า ผลศึกออกมาชี้ชัดว่า “ใครคือใคร” ในสนามการเมือง
แต่ที่แน่ๆ รอยแค้นที่ “ร.อ.ธรรมนัส” ฝากถึง “พล.อ.ประยุทธ์” นั้นชัดเจน งานนี้ถึงขนาดยก พี่ป้อม “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี แอนด์หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เอาไว้บนหิ้ง ไม่แตะแม้แต่ปลายเล็บ แบบละเอาไว้ในฐานที่เข้าใจ เพื่อ “ล้มบิ๊กตู่” เพียงรายเดียวเท่านั้น
นี้คือข้อความที่ ร.อ.ธรรมนัส ส่งสัญญาณรบแตกหัก
“ในส่วนของการตัดสินใจโหวตให้พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่นั้น ขณะนี้ผมยังไม่เห็นสาระในการอภิปราย พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หากรัฐมนตรีหลายรายโดนสอย หรือเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย แม้นายกฯจะยังอยู่ในหน้าที่ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ก็ต้องรับผิดชอบ”
“รัฐบาลอาจมีความมั่นใจว่าเสียงส่วนใหญ่ยังสนับสนุนในสภาฯ แต่การบริหารราชการแผ่นดิน ที่สภาฯสะท้อนให้เห็นว่าล้มเหลว หากได้รับเสียงสนับสนุนในสภาฯน้อย มันก็ควรที่จะต้องพิจารณาตัวเอง”
ยังทิ้งท้ายด้วยคำที่ตอกย้ำถึงรอยแค้นว่า “ถ้าเป็นผม ถ้าได้ที่โหล่อย่างนั้น ก็คงจะไป”
แม้จะยังไม่เห็นจุดอ่อนชัดๆของพล.อ.ประยุทธ์ แต่ร.อ.ธรรมนัส ก็อาศัยจังหวะของรัฐมนตรีในคณะรัฐบาลพรรคร่วมแบบผสม ที่ “ฝ่ายค้าน” อ้างว่ามีข้อหาชัดเจนว่าทุจริตในโครงการต่างๆ ฝากรอยแค้นเชื่อมโยงมาถึงในความเป็นผู้นำรัฐบาลเบอร์1 ก็จะต้องยืดอกรับผิดชอบด้วย ถ้าลูกน้องในครม. โดยสอยร่วมคานั่งร้าน
เรียกได้ว่าเล็กตรงเขย่าความแค้นโยนมาที่ “พล.อ.ประยุทธ์” โดยตรง แต่ก็เอาเถอะ เมื่อลองมองกลับกัน แบบสลับจากพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นร.อ.ธรรมนัส สลับร.อ.ธรรมนัส มาเป็นพล.อ.ประยุทธ์บ้าง มีหรือที่คนที่เกือบถูกหักหลังจากคนในร่วมรัฐบาลด้วยกันแท้ๆ นิ่งเฉยดูดาย ไม่ทำอะไรเลยให้เป็นบทเรียน มันก็คงไม่ใช่
เราคงไม่รู้อย่างลึกซึ้งว่า “ต้นสายปลายเหตุ” แห่งรอยแค้นของทั้ง2คนนั้น มันเกิดมาจากอะไรกันแน่ แต่ศึกซักฟอกครั้งนี้ ชวนให้น่าติดตามมากขึ้นอีกแน่ โดยเฉพาะการเดินเกมในสภาฯครั้งนี้ ของร.อ.ธรรมนัส ต้องจับตาดูให้ดี
ล่าสุดสดๆร้อนๆ เปิดภาพมาอีกแล้ว เป็นภาพ “ผู้กองธรรมนัส” เข้าไปนั่งสุมหัวเจรจาพาทีพลางจัดทัพจัดแถวกับบรรดา “พรรคเล็ก” ส่วนหนึ่งที่สถาปนาตัวเองเป็น “กลุ่ม16” คอยเดินเกมขู่เขย่ารัฐบาลอยู่เรื่อยๆ นั่งคุยยิ้มแย้มกันแบบมีเลศนัยกลางห้องประชุมสภาฯเมื่อ30มิ.ย.ที่ผ่านมา
ยิ่งทำให้คอการเมืองยิ่งต้องจับตาติดตามเข้าไปใหญ่ ว่าจะมีเกมล้มเบอร์1ผู้นำรัฐบาลอย่าง บิ๊กตู่ ในรูปแบบไหน ก็ในเมื่อ “สุมหัวกล้วย” กันอย่างไม่เกรงใจแบบนี้แล้ว ไฟในรอยแค้นมันคงพรั่งพรูรอระเบิดออดมาเต็มประดา
อย่าลืมว่า ถ้าหัวหน้ารัฐบาลอย่าง พล.อ.ประยุทธ์ ถูกโค่นกลางสภาฯแค่คนเดียว นั่นหมายความว่า ครม.ที่เหลือจะต้องไปทั้งหมด แต่ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ยังหนังเหนียว แต่รัฐมนตรีคนอื่นถูกสอย ก็จะต้องมาดูฝีมือการกดดันให้รับผิดรับชอบของ “ผู้กองธรรมนัส” จะออกมาในรูปแบบใด
ซีกพล.อ.ประยุทธ์ และคณะครม.เอง ก็คงจะอยู่เฉยไม่ได้แล้วตอนนี้ คงเตรียมระดมสรรพกำลังมารับมือเต็มที่ ด้วยเพราะเปรียบเสมือนเป็น “สงครามการเมืองครั้งสุดท้าย” ระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้าน ทุกองคาพยพคงต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ในที่สุด “ใครจะอยู่ใครจะไป” จะออก “หัวหรือก้อย” ไฟแค้นจะได้รอวันเช็คบิลสางชำระหรือไม่ หรือไฟแค้นที่เป็นรอยอยู่สุมอยู่ในอกจะถูกดันกลับเข้าไประเบิดคาอก อีก 2 สัปดาห์ คอการเมืองทั้งรุ่นใหม่ รุ่นเก่า รุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก หรือรุ่นเก๋า ได้รู้เรื่องหลังเปิดศึกปิดจ๊อบโหวตกันอย่างแน่นอน...!!!
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี