เพื่อไทยเปิดข้อสอบซักฟอกใช้เผด็จศึกรบ.
‘โควิด-มิก29’ถล่มบิ๊กตู่
ฝ่ายค้านย้ำขอชำแหละ5วัน
นัดถกวิป3ฝ่าย6ก.ค.วางกติกา
พปชร.เตรียมจัดโรดโชว์หลังเสร็จศึก
โว‘บิ๊กป้อม’มีทีเด็ดอีกหลายชุด
“ฝ่ายค้าน” ยืนกรานซักฟอก 11 รัฐมนตรีขอ 5 วัน บวกลงมติ 1 วัน รอชี้ขาดในวันประชุมวิป 3 ฝ่าย 6 กรกฎาคมนี้ “โจ้-ยุทธพงศ์” เปิดข้อสอบอีก ปมโควิด-บินรบพม่าล้ำแดน จ้องเล่นงาน“บิ๊กตู่”ด้านโฆษกรัฐบาลสวน“ก้าวไกล”เล่นการเมืองแต่พองาม จวกเรื่องละเอียดอ่อน หากไม่รู้จริงก็อยู่เงียบๆ ยังจะดีกว่า เหน็บไหนว่ามี “ไม้เด็ด” ซักฟอกแต่เห็นเรื่องไหนเป็นกระแส มีแต่รีบโดดผสมโรง‘ชัยวุฒิ’ไม่กังวลรับมือซักฟอก ห่วงบรรยากาศประชุมสภามากกว่า วอนฝ่ายค้านอย่าพูดใส่ร้าย ไม่รู้‘ธรรมนัส’หมายถึงใคร รมต.ปากดี
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาลยืนยันให้เวลาฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี 4วัน ไม่รวมวันลงมติว่า ฝ่ายค้านยืนยันต้องได้วันอภิปราย 5วัน ไม่รวมวันลงมติอีก 1วัน รวม6วัน หากพร้อมให้อภิปรายวันที่ 19 ก.ค.ก็จะอภิปรายถึงวันที่ 23ก.ค. และลงมติวันที่ 24 ก.ค.
ขณะนี้ต้องไปตกลงในที่ประชุมวิป 3ฝ่ายคือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และครม. วันที่ 6 ก.ค. เพื่อตกลงกรอบเวลาอภิปรายให้ชัดเจน ฝ่ายค้านยืนยันต้องได้ 5วัน ไม่รวมวันลงมติ หากฝ่ายรัฐบาลจะหักคอฝ่ายค้านในที่ประชุมวิป 3ฝ่าย ให้แค่ 4วันก็ไม่เป็นไร ฝ่ายค้านไม่ตกลงด้วยอยู่แล้ว ถ้าถึงวันอภิปราย หากครบ4วันเมื่อไร แล้วฝ่ายค้านยังอภิปรายรัฐมนตรีไม่ครบ 11คน จะปิดอภิปรายไม่ได้ เพราะผิดข้อบังคับการประชุมสภาฯที่ระบุให้การยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีต้องอภิปรายให้ครบทุกคน จึงจะปิดอภิปรายได้ ถ้า 4วัน ยังไม่ครบ วันรุ่งขึ้นก็ลงมติไม่ได้ ต้องอภิปรายต่ออีก 1วันให้ครบก่อน
ยันฝ่ายค้านไม่อภิปรายซ้ำซาก
“ไม่ต้องห่วงฝ่ายค้านจะอภิปรายวกวนซ้ำซาก ถ้าทำเช่นนั้นประธานที่ประชุมไม่ให้ทำอยู่แล้ว ฝ่ายค้านจะเสียเอง ฝ่ายรัฐบาลอย่ากังวลมากไป โดยไม่มีเหตุผล จะกลัวอะไรนักหนา ถ้าเพิ่มอีกแค่ 1วัน หรือกลัวข้อมูลฝ่ายค้านพูดไปแล้วได้สาระดี รัฐบาลจะตอบไม่ได้ ฝ่ายค้านจะปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุมคือ อภิปรายครบ 11คน จึงปิดอภิปรายได้ อาจใช้เวลาไม่ถึง 4วัน หรือใช้เวลา 5วัน ขึ้นอยู่กับอภิปรายครบเมื่อไร แต่ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับการประชุม ส่วนข้อตกลงต่างๆเป็นเรื่องที่เราไปกำหนดกันเอง เพื่อให้การอภิปรายราบรื่น แต่ต้องยึดข้อบังคับเป็นหลัก หากครบ 4วันแล้วยังอภิปรายรัฐมนตรีไม่ครบ 11คน แต่รัฐบาลจะชิงปิดอภิปราย ฝ่ายค้านไม่ยอมแน่” นายสุทิน กล่าว
ยกโควิดชำแหละบิ๊กตู่-เสี่ยหนู
นายยุทธพงศ์ จรัสเถียร ส.ส. มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค พท. กล่าวว่า สถานการณ์โควิดในไทยหนักสาหัสมาก สัปดาห์ที่แล้ว มีรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ติดโควิด-19 2 ท่าน ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เห็นยอดติดโควิด-19
ล่าสุด คนป่วยใหม่ 2.3 พันคน ที่พบยอดติดเชื้อน้อย เพราะไม่ได้แจ้ง พอตรวจเจอไปรักษาเองที่บ้าน ปัญหาคือคนติดโควิด-19 เยอะมากแต่ไม่มียาดีรักษา รัฐมนตรีสาธารณสุขป่วย ให้ยาโมลนูพิราเวียร์ ส่วนคนทั่วไปต้องกินยาแก้ป่วย หรือหากหาซื้อต้องซื้อตลาดมืดกล่องละ 5 พัน ยาดังกล่าวกิน 5 วันหาย นายอนุทิน ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับยาดังกล่าว เพราะอายุไม่ถึง 60 ปี สุขภาพยังแข็งแรง แต่กลับได้รับยาดังกล่าว ประเทศไทยกำลังวิกฤตเพราะขาดแคลนยา เรียกร้องให้นำเข้ายาโมลนูพิราเวียร์ มารักษาผู้ป่วยโควิด-19
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า นี่คือความล้มเหลวของ ผู้อำนวยการ ศบค. พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนายการ ศบค. เตรียมตัวในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เลย เพราะเรื่องบริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง มียารักษาให้แต่นักการเมืองใหญ่ ไม่มีให้ประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นถึง รมว.กลาโหม ปล่อยให้เครื่องบินรบเมียนมารุกล้ำอธิปไตยของประเทศไทย 15 นาที นี่เป็นการฉายหนังตัวอย่างของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เจอของจริงในสภาฯ พล.อ.ประยุทธ์ อย่าร้องจ๊าก ว่าทำไมหนักนัก เที่ยวนี้พรรคพท.มีข้อมูลพร้อมถึงการล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน การทุจริต นอกจากการทุจริตแล้วยังปล่อยให้รัฐมนตรี ในคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุจริต คอร์รัปชั่น เต็มไปหมด
“ชัยวุฒิ”ไม่กลัวฝ่ายค้านเชือด
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า การเตรียมพร้อมต้องเป็นของฝ่ายค้าน ตนเป็นเพียงผู้ฟัง อะไรที่ไม่ถูกต้องข้อเท็จจริงหรือไม่ถูกต้องนั้น ทางรัฐบาลต้องชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน และเท่าที่ตนได้พูดคุยกับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกคนมั่นใจสามารถชี้แจงได้ เพราะก็รู้ว่าทำอะไรกันอยู่ เราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ก็จะเซ็นเอกสารหรือขับเคลื่อนในเรื่องต่างๆ ก็จะมีการตรวจสอบอยู่แล้ว มีข้าราชการประจำ ที่มาดูทุกอย่างเพื่อให้ถูกต้องถึงจะทำกัน ฉะนั้นในเรื่องทุจริตผิดกฎหมายยืนยันว่าไม่มีอยู่แล้ว
ส่วนบางเรื่องที่แก้ไม่ได้จริงไม่เป็นปัญหาของประชาชนเราก็ต้องชี้แจงทำความเข้าใจ เช่น เรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงแพง ทางรัฐบาลก็พยายามพยุงราคา จ่ายเงินชดเชยผ่านกองทุนน้ำมัน เพื่อไม่ให้ราคาสูงเกินไป แต่สุดท้ายถ้าเงินไม่พอก็ประกันไม่ไหว เพราะน้ำมันที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นราคาตลาดโลก ถ้ากลไกตลาดโลกมีราคาสูงขึ้น เราก็ต้องยอมรับเพราะเป็นกันทั่วโลก นั่นเป็นปัจจัยภายนอกที่จะต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ตนไม่มีประเด็นใดที่ไม่สบายใจ กังวลเพียงอย่างเดียวคือเรื่องบรรยากาศในการประชุมขอให้ราบรื่นและเรียบร้อยขอให้ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างสร้างสรรค์มีข้อเท็จจริงก็พูดไป อย่าไปพูดทำนองใส่ร้ายหรือเสียดสี จนเกิดการประท้วงขอให้ทำงานกันอย่างสร้างสรรค์
เมื่อถามว่ายังมั่นใจฝ่ายรัฐบาลในเรื่องของพรรคเล็กหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องถามวิปรัฐบาลอีกทีหนึ่ง ผู้สื่อข่าวถามถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ระบุ ในการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น อาจมีรัฐมนตรีบางคนได้คะแนนบ๊วยโดยเฉพาะรัฐมนตรีปากดี นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนก็ไม่รู้ว่าเขากล่าวถึงใครขอไม่พูดถึงดีกว่า
รบ.เหน็บฝ่ายค้านเล่นแต่พองาม
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกล ระบุยังมีข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจเข้ามาเรื่อยๆ และยังมีประเด็นใหม่เพิ่มขึ้นมา เช่น การรุกล้ำน่านฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และท่าทีของประเทศไทยที่ตอบสนองในเรื่องนี้ เป็นไปในท่าทีที่เป็นมิตรมากกว่าที่จะปกป้องประชาชนของตนเอง ว่า หากฝ่ายค้านจะโหมโรงเรียกร้องความสนใจก็โหมโรงไป แต่ต้องอยู่บนความพอเหมาะพอดีด้วย เรื่องบางเรื่องเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากไม่รู้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงก็ควรอยู่เงียบๆ ยังจะดีกว่า
ทั้งนี้ ไม่ใช่พยายามโยงทุกเรื่องให้เป็นเรื่องการเมืองไปหมด ประเทศจะเสียหายหรือไม่อย่างไรไม่สน แบบนั้นเรียกว่าใช้ไม่ได้ เพราะเอาแต่ได้ ไม่ได้ยึดประโยชน์ประเทศและประชาชนเป็นหลัก อยากให้นึกถึงประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม การที่ฝ่ายค้านหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดนั้นเท่ากับการยอมรับไปในตัวว่า ข้อมูล หลักฐาน หรือข้อเท็จจริงที่อ้างว่าเป็นไม้เด็ดนั้นอาจจะไม่มีอยู่จริง พอเจอเรื่องที่เป็นกระแสจึงรีบกระโดดเข้าใส่ ผสมโรงไปกับเขาด้วย ถือว่าน่าผิดหวัง
เมื่อฝ่ายค้านบอกว่ามีข้อมูลของรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องของการทุจริต การเอื้อประโยชน์ให้แก่พวกพ้องก็ควรนำมาแสดงด้วย อย่าอภิปรายลอยๆ หรือเอาเรื่องในอดีตมาปนกับเรื่องในปัจจุบันโดยไม่ได้ตรวจสอบ เพราะไม่เช่นนั้น คนที่จะทำผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงก็คือฝ่ายค้านเสียเอง ไหนๆ ก็จะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ก็อยากจะขอให้สร้างผลงานให้ประชาชนได้จดจำบ้างว่า ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อะไรในสภาฯ บ้าง เพื่อลบภาพจำที่พรรคก้าวไกลมักจะเอาแต่ไปร่วมกับม็อบบนท้องถนนจนไม่สนใจงานในสภาฯ เหมือนที่ผ่านมา” นายธนกร กล่าว
ปชป.ชี้กรอบซักฟอกต้องเป็นธรรม
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี และกรอบเวลาในการอภิปรายว่า ในวันที่ 6 ก.ค. นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาฯ ได้มีการนัดปะชุมวิป 3 ฝ่าย ทั้งวิปฝ่ายค้าน วิปฝ่ายรัฐบาล และคณะรัฐมนตรี(ครม.)เพื่อพูดคุยเรื่องกรอบเวลาในการอภิปรายว่าในแต่ละฝ่ายจะใช้เท่าใด
ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์มีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช และประธานวิปพรรคฯ ในฐานะรองประธานวิปฝ่ายรัฐบาล จะเข้าร่วมประชุมเพื่อกำหนดกรอบระยะเวลาดังกล่าว เชื่อว่าจะมีการตกลงเป็นที่เข้าใจตรงกันได้ไม่น่ามีปัญหา ทั้งนี้ รัฐมนตรีของพรรคฯที่ถูกอภิปรายไม่กังวลเรื่องชี้แจง แต่ในเรื่องกรอบเวลาก็สำคัญ หากฝ่ายค้านต้องการกรอบเวลาตามที่ต้องการ ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องได้รับการจัดสรรเวลาที่เท่าเทียมกันในการชี้แจง ไม่เช่นนั้นฝ่ายค้านอภิปรายมากกว่ารัฐบาลก็จะไม่เป็นธรรมต่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายอีกเช่นกัน
แขวะฝ่ายค้านอย่าทำตามอำเภอใจ
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ที่พยายามโจมตีว่าการกำหนดกรอบวลาอภิปราย รัฐบาลขี้เหนียวเวลา ด้อยค่าการตรวจสอบ หวาดกลัวการชี้แจง นั้น ต้องบอกว่าฝ่ายรัฐบาลเชื่อว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีทุกคนพร้อมชี้แจงในสภาฯอยู่แล้ว เพราะเป็นกระบวนการตรวจสอบตามระบอบประชาธิปไตย นักการเมืองที่อยู่ในสภาฯ เชื่อว่าไม่มีใครคิดด้อยค่าการตรวจสอบ หรือด้อยค่าองค์กรของตนเอง
รัฐบาลอยู่มา 3 ปีแล้วคงไม่มีรัฐมนตรีคนไหนกลัวการตรวจสอบ ส่วนเรื่องเวลาการคิดเห็นที่ไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ ฝ่ายรัฐบาลเห็นว่า 4 วันเหมาะสมที่สุด ฝ่ายค้านเห็นว่า 5 วัน ก็ต้องพูดคุยกันในการประชุมร่วมสามฝ่ายในวันที่ 6 ก.ค.นี้ แต่จะเอาเวลาตามอำเภอใจของฝ่ายค้านฝ่ายเดียวคงไม่ได้ เพราะนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็จำเป็นอย่างยิ่งในการที่จะต้องใช้เวลาในการชี้แจงอธิบายข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านอย่างเท่าเทียม และเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร การที่นายสุทิน ยกข้อบังคับมาบางส่วนว่าต้องอภิปรายรัฐมนตรีให้ครบตามญัตติก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง แต่รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายก็ต้องมีเวลาในการชี้แจงให้ครบทุกประเด็นที่ถูกกล่าวหาเช่นกัน
‘สนธิรัตน์’รอจังหวะปิดตัว’สมคิด’
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเปิดตัวนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค สอท. ว่า พรรคมีขั้นตอนการทำงานของพรรค โดยจะเลือกสรรบุคลากรที่พร้อมรับใช้ประชาชน ส่วนการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯจะดูจังหวะเวลา และสถานการณ์ทางการเมืองเป็นองค์ประกอบ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าพรรคมีความพร้อม ทั้งบุคลากร นโยบายและวิธีการทำงาน ต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่นำไปสู่การเลือกตั้ง โดยการลงพื้นที่วันนี้เพื่อส่งสัญญาณว่าเราพร้อม และมีวิธีการที่จะแก้ปัญหาที่จะแก้ปัญหาให้ประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคจะเริ่มขยับครั้งใหญ่เพื่อปูทางเตรียมตัวสู่การเลือกตั้งเมื่อใด นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราดำเนินการอยู่ต่อเนื่องไม่ได้หยุด เมื่อถามว่าจากปรากฏการณ์ “ชัชชาติฟีเวอร์”จะทำให้พรรคการเมืองต้องเริ่มขยับตัวลงพื้นที่ทำงานเชิงรุกมากขึ้นหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า มองว่าเป็นมิติใหม่ทางการเมือง ที่มีการเปลี่ยนแปลงและนำเสนอสิ่งใหม่ๆให้โอกาสประชาชน ได้ตัดสินใจ โดยการลงพื้นที่ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.เป็นมิติที่น่าสนใจและเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ทางการเมือง และเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อถามว่าการดำเนินงานของนายชัชชาติ อาจทำให้พรรคการเมือง ต้องกังวลมากขึ้นหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า คงไม่ถึงกับทำให้กังวลใจ แต่เป็นมิติหนึ่งที่แต่ละพรรคต้องมาพิจารณาในการดำเนินงานทางการเมือง ซึ่งรูปแบบการทำงานของแต่ละพรรคอาจจะแตกต่างกัน แต่คิดว่าถ้าทำเพื่อประชาชน ทุกพรรคก็ต้องนำเสนอการทำงานให้ประชาชนในรูปแบบที่แต่ละพรรคถนัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี