เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2565 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้โพสต์ Facebook แสดงความคิดเห็นต่อกรณีฝ่ายค้านขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลวันที่19-22ก.ค. และจะลงมติในวันที่23ก.ค.65 ระบุว่า ตนคิดว่า การที่ฝ่ายค้านจะโหมโรงยาว 5 วัน 5 คืนสงสัยว่า ขอเวลาอภิปรายหลายวัน นั้น ในวันสุดท้ายถ้าไม่มีผู้อภิปรายจะทำอย่างไร เพราะว่าตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ก็จะเห็นว่า ฝ่ายค้านมีเวลาอภิปรายเหลือ จึงทำให้เกิดภาพผู้อภิปรายในวันท้ายๆจะพูดประเด็นซ้ำกับผู้ที่ได้อภิปรายไปก่อนหน้าแล้ว ซึ่งไม่เป็นประโยชน์กับประชาชนเลย
นายสามารถ ระบุอีกว่า วันนี้ตนได้เห็นญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งอ่านแล้วก็รู้สึกตลก เพราะไม่รู้ว่า ไปจ้างเด็กอนุบาลเขียนหรือเปล่า?? ทั้งนี้ อ่านไป-มาหลายรอบ ก็ไม่เห็นว่า เกี่ยวข้องกับพลเอกประวิตร ซึ่งก็ไม่รู้ว่า จะยื่นอภิปรายฯพลเอกประวิตร ทำไม เพราะตลอด 3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นว่า ทุกครั้งฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประวิตร ซึ่งทุกครั้งท่านก็ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจผ่านฉลุยมาโดยตลอด
“ในครั้งนี้ฝ่ายค้านยื่นหัวข้อญัตติไม่ไว้วางใจพลเอกประวิตรว่า ‘หลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต’ ซึ่งตนเคยพูดก่อนหน้านี้แล้วว่า คนแถวบ้าน -พ่อแม่พี่น้องประชาชน ถามตนว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านจ้างเด็กอนุบาลเขียนญัตติหรือไม่อย่างไร ซึ่งเมื่อดูในรายละเอียดนั้น เขียนว่า ‘จงใจไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มุ่งสร้างความมั่งคั่งในตำแหน่งหน้าที่ รู้เห็นเป็นใจหรือปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะเกิดกับประเทศ ไร้จิตสำนึกและไร้ความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ ไม่เป็นแบบอย่างที่ดีในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่กลับทำตนเป็นแบบอย่างของการหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตามกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต เมื่อพบเห็นการทุจริตกลับปกป้องและไม่ดำเนินการแก้ไข’
ทั้งนี้ เมื่อได้อ่านแล้วผมรู้สึกตลกกับหัวข้อที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประวิตร ซึ่งทำให้ผมมั่นใจว่า ครั้งนี้พลเอกประวิตร คงตอบคำถามได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ก็เป็นได้ เพราะที่ฝ่ายค้านกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริงเลย ผมคิดเรื่องนี้ไม่ควรจะนำมาอภิปราย เพราะท่านพลเอกประวิตรนั้น เป็นคนที่ซื่อสัตย์สุจริต ดังจะเห็นว่า ท่านไม่เคยถูกป.ป.ช. ตั้งกรรมการสอบสวนและพลเอกประวิตร ก็ไม่เคยถูกชี้มูลความผิดแต่อย่างใด นอกจากนี้ พลเอกประวิตร ไม่เคยมีเรื่องอยู่ในศาล ไม่มีเรื่องอยู่โรงพัก ไม่มีเรื่องอยู่ที่อัยการเลยแม้แต่คดีเดียว ซึ่งไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่า ท่านทุจริต หรือมีตรงไหนที่บอกว่า ท่านใช้ตำแหน่งเอื้อประโยชน์ใคร เพราะท่านเป็นเพียงแค่รองนายกฯ ไม่ได้คุมกรม กอง กระทรวงใดเลยโดยตรง ท่านไม่ได้เป็นรัฐมนตรีว่าการแม้แต่กระทรวงเดียว ดังนั้น ท่านไม่สามารถเอื้อประโยชน์หน้าที่การงานให้ใครได้.
ซึ่งเราจะเห็นว่า พรรคฝ่ายค้าน มีความพยายามอย่างมากที่จะดิ้นรนทุกรูปแบบเพื่อให้ได้กลับมาเป็นรัฐบาล ทั้งปล่อยข่าวเท็จ ปล่อยข่าวหลอก ปั่นกระแสในโซเซียลให้ประชาชนสับสนและเข้าใจผิด
“งานนี้ต้องบอกว่า การที่ฝ่ายค้าน จะมาอภิปรายไม่ไว้วางใจพลเอกประวิตรนั้น เสียเวลาเปล่าๆ ซึ่งตนอยากจะให้การทำงานครั้งสุดท้ายของพรรคร่วมฝ่ายค้านได้ทำผลงานเพื่อประชาชน ผมแนะว่า เอาเวลาที่จะไปอภิปรายพลเอกประวิตร ไปอภิปรายรัฐมนตรีคนอื่น น่าจะเกิดประโยชน์กับพ่อแม่ พี่น้องประชาชนมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความเดือดร้อนถูกหลอกลวง ฉ้อโกงจากแก๊งค์คอลเซนเตอร์ สมิชชิ่ง ซึ่งประชาชนอยากจะเห็นฝ่ายค้านอภิปรายปัญหาเหล่านี้ โดยพูดให้มีน้ำหนัก สะท้อนให้เห็นความเดือดร้อน น้ำตาของชาวบ้าน ซึ่งเป็นการดีกว่าที่จะใช้วาทกรรมกล่าวหาบุคคลที่ไม่มีความเกี่ยวข้องให้เกิดความเสียหาย ทำให้พ่อแม่พี่น้องประชาชน คนทั่วไปเข้าใจพลเอกประวิตรไปในทางที่ผิด” และ ผมมั่นใจว่า พ่อแม่พี่น้องประชาชนทั้งประเทศไม่อยากเห็น ส.ส. ของฝ่ายค้านพูดจาแบบโกหกพกลมอีก เพราะสุดท้ายจะถูกดำเนินคดีอีก ผมเห็นแล้วสงสารจึงอยากเตือนสติของพรรคร่วมฝ่ายค้านอย่าได้อภิปราย พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เลย เพราะดูแล้วจะเหนื่อยเปล่า ดังคำโบราณว่าไว้ว่า ไม่เห็นน้ำอย่าเพิ่งตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอก อย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้ เปรียบเทียบได้ชัดกับการที่พรรคฝ่ายค้านเขียนญัตติอภิปรายพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้ ผมหวังว่าเรื่องที่ได้เสนอไปจะเข้าถึงจิตสำนึกของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่จะใช้การอภิปรายเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน และเลิกสร้างวาทกรรมดิสเครดิตเพื่อทำลายคนจะดีกว่า
อย่างไรก็ดี ผมมั่นใจว่า พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จะได้คะแนนเสียงไว้วางใจผ่านฉลุยในการอภิปรายฯอย่างแน่นอน และจะตอบคำถามได้เร็วสุดในประวัติศาสตร์ แต่เหนือสิ่งอื่นใดผมมั่นใจว่า มีรัฐมนตรีที่สอบตกในการอภิปรายฯครั้งนี้อย่างแน่นอน ดูได้จากการโหวตลงมติครั้งหลังๆเสียงไม่เป็นไปตาม มติครม ( พรบ คู่ชีวิต, พรบ สุราก้าวหน้า เป็นต้น) ดังนั้นแปลว่าในพรรคร่วมรัฐบาลก็อยากให้ปรับ ครม. เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี