เตรียมยื่นปปช.หยุดสูตรหาร500
‘เพื่อไทย’ดิ้นสู้
จี้ฟัน‘สส.-สว.’โหวตสนับสนุน
ชี้ฝ่ายบริหารครอบงำสภาขัดรธน.
กลุ่มครป.ล่า99ชื่อเรียกร้อง‘บิ๊กตู่’ลาออก
‘น้องแรมโบ้’สวนเอาอำนาจอะไรมาบีบ
“เพื่อไทย”เตรียมยื่น“ป.ป.ช.”ฟัน“สส.-สว.”หนุนโหวตสูตรหาร 500ในขณะที่ “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” องครักษ์พิทักษ์ 3ป. โต้ฝ่ายค้านทุกอย่างเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ด้าน “นิพนธ์ บุญญามณี”จัดทัพปชป.พร้อมลงสนามเลือกตั้ง
ชูผลงานเด่นประกันรายได้ช่วยเกษตรกรทั่วประเทศ
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.กล่าวถึงการพิจารณาร่างพ.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.วาระสองต่อเนื่อง ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา ที่คาดว่าจะพิจารณาต่อได้ในวันที่ 3 ส.ค.ว่า ใน 2 มาตราที่กมธ.ได้ปรับปรุงและเสนอต่อที่ประชุมซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการแก้ไขสูตรคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ใช้จำนวน500คนหาค่าเฉลี่ยสส.พึงมี แทนจำนวณ 100คนนั้น ส่วนของสส.พรคเพื่อไทย จะงดออกเสียง เนื่องจากว่าการแก้ไขดังกล่าวพรรคเพื่อไทยไม่เห็นด้วยมาตั้งแต่แรก อย่างไรก็ดีพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะร่วมประชุมเพื่อให้การพิจารณาร่างพ.ร.ป.ดังกล่าวแล้วเสร็จตามกำหนดเวลา และสามารถลงมติในวาระสามได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าการพิจารณาของรัฐสภาจะไม่เกินกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้
ยื่นปปช.ฟันสส.สว.หนุนสูตร หาร500
นายสมคิด กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยเตรียมให้ฝ่ายกฎหมายยกร่างคำร้องที่จะส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อให้พิจารณากรณีที่สมาชิกรัฐสภาจงใจฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่...) พ.ศ... ในมาตรา23ว่าด้วยสูตรคำนวณสส.เพราะก่อนหน้านั้นมีกระบวนการที่ทำให้การทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มีพฤติกรรมที่ฝ่ายบริหารแทรกแซงการทำงานและทำให้ระบบการพิจารณาร่างกฎหมายของสภาฯ ไม่เป็นไปตามระบบ
“หลังจากที่ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.โหวตวาระ3แล้ว พรรคเพื่อไทยจะจัดประชุมส.ส. และจะขอให้ส.ส.ร่วมลงลายมือชื่อเพื่อส่งคำร้องไปยัง ป.ป.ช. ให้พิจารณา เบื้องต้นคาดว่าจะไม่ช้า ส่วนกรณีที่จะวางใจให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบหรือไต่สวนเรื่องนี้ได้หรือไม่ ผมเชื่อว่าเสียงของป.ป.ช.คงไม่เหนือไปกว่าเสียงของประชาชน” นายสมคิด กล่าว เมื่อถามถึงกระบวนการที่เตรียมยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยร่างพ.ร.ป.เลือกตั้งสส.นายสมคิด กล่าวว่า ส่วนของพรรคเพื่อไทยจะแยกดำเนินการและไม่รวมกับของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐที่แสดงเจตนาจะยื่น แต่ขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังรอความชัดเจนว่า หลังจากที่รัฐสภาลงมติวาระสามแล้ว จะส่งเรื่องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพียงองค์กรเดียว หรือ ส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ด้วย
ยื่นปปช.เอาผิด’อาคม-สันติ’ม.157
ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร สส.มหาสารคามและรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) แถลงว่า ความคืบหน้าหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา เกี่ยวกับการคัดเลือกเอกชนในการบริหารโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบส่งน้ำสายหลักในภาคตระวันออก (ท่อส่งน้ำสายหลัก อีอีซี) ปรากฏว่าทางกรมธนารักษ์ ได้มีหนังสือลงวันที่ 26ก.ค.ถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท วงษ์สยาม ก่อสร้าง จำกัด เรื่องการลงนามในสัญญาท่อส่งน้ำสายหลักอีอีซี โดยกรมธนารักษ์ได้กำหนดให้มีการลงนามในสัญญาโครงการในวันที่ 3 ส.ค.65 เวลา 10.00น.ที่ห้องประชุมชั้น 8 อาคาร 72 ปี ซึ่งในการอภิปรายไม่วางใจ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ตอบไม่ได้เลย แต่หลังอภิปรายผ่านไปไม่ได้สนเลยว่าคำชี้แจงตอบไม่ได้ ซึ่งตนถือว่าท่อส่งน้ำสายหลักอีอีซีเป็นมหากาฬการโกงครั้งนี้ซึ่งจะทำสำเร็จในอีก 2วันข้างหน้า
สงสัย’อนุพงษ์’ปล่อยไปได้อย่างไร
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า ส่วน รมว.มหาดไทย ที่กำกับดูแลการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งการประปาส่วนภูมิภาคถือหุ้นในบริษัทอีสท์ วอเตอร์ ร้อยละ40 ท่านปล่อยให้เรื่องเป็นแบบนี้ได้อย่างไร เพราะอีสท์ วอเตอร์ ถือว่าเป็นสมบัติของชาติส่วนหนึ่ง ตอนนี้ก็เสียหายหมด ถ้าอีสท์ วอเตอร์เจ๊งไป การประปาส่วนภูมิภาคก็เสียหายไปด้วย และตนทราบมาว่าตอนนี้มีแผนต่อไปคือจะมีคนในรัฐบาลไปฮุบอีสท์ วอเตอร์ มาประเคนให้วงษ์สยามฯ คอยดูเลยแล้วกันงานนี้หนังม้วนยาวแน่ ดังนั้น ตนจะไปยื่นเรื่องท่อส่งน้ำสายหลักอีอีซีต่อ ป.ป.ช. เอาผิด 1.นายอาคม 2.นายสันติ 3.คณะกรรมการที่ราชพัสดุ และ 4.คณะกรรมการคัดเลือกฯ ในวันที่ 1 ส.ค. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ปปช.สนามบินน้ำ โดยยื่นข้อหาเข้าข่ายการปฏิบัติ หรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอย่างร้ายแรง มีความผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และความผิดตาม พ.ร.บ.ฮั้ว เพราะไม่เปิดให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม
นายยุทธพงศ์ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการที่ราชพัสดุมีความผิดเพราะมีมติให้กรมธนารักษ์คัดเลือกเอกชนดำเนินการโครงการ โดยหลีกเลี่ยงการปฏิบัติตาม พรบ.ร่วมทุนระหว่างรัฐกับเอกชนปี 2562 และคณะกรรมการที่ราชพัสดุมีมติให้คัดเลือกโดยไม่ใช้วิธีการประมูลแข่งขัน ซึ่งมีนายอาคมเป็นประธานตามกฎหมาย และมอบให้นายสันติดำเนินการ และเป็นการเอื้อประโยชน์ให้เอกชนอย่างเห็นได้ชัด สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
“สามารถ”ออกโรงปกป้อง’3ป.’
ด้าน นาย สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรมผอ.ศูนย์ร้องทุกข์พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวในกรณีที่มีส.ส.ฝ่ายค้านได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การแก้การที่มาของ ส.ส.แบบัญชีรายชื่อจะหาร 100 หรือ หาร 500 หรือบางกระแสพูดไปถึงกรณี 3 ป อยู่เบื้องหลัง จะให้กลับไปบัตรใบเดียว โดย นายสามารถกล่าวว่า ขณะนี้มีนักการเมืองออกมาดิสเครดิต 3 ป.ซึ่งคงหมายถึง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ หัวหน้าพรรค พปชร. พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม นั้นไม่ยุติธรรม เพราะจะเป็นบัตรใบเดียว หรือ บัตรสองใบบัญชีรายชื่อ จะหาร 100 หรือ หาร 500 นั้นต้องเป็นเรื่องของการตกผลึกจากรัฐสภา เพราะในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2560 บัญญัติไว้ว่า ให้เลือกตั้งบัตรใบเดียว ดังนั้นการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ก็ต้องเป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
“ผมมั่นใจว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในครั้งต่อไป นักการเมืองที่ทำงานเพื่อพ่อแม่พี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง เค้าไม่สนใจหรอกว่าจะออกแบบกติกาการเลือกตั้ง แบบใด อย่างใดเพราะสุดท้ายคนที่ตัดสินใจคือพ่อแม่พี่น้องประชาชน แต่ขอให้การเลือกตั้งนั้น เป็นไปตามหลักการ5 ประการ คือ หลักการเลือกตั้งโดยทั่วไป โดยเสมอภาค โดยตรง โดยลับ และโดยเสรี”นายสามารถ กล่าวและว่า ส่วน คนที่ออกมาใส่ร้าย 3 ป และ พยายามดิสเครดิตอยู่นั้น ชาวบ้านจะเข้าใจ และจะไม่เลือกนักการเมืองที่ชอบใส่ร้ายป้ายสีเข้าสู่สภาอย่างแน่นอน
คืนรางวัล ‘ตราชั่งทอง’ ให้ ‘สามารถ”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเร็วๆนี้ เครือข่ายส่งเสริมสังคมไทย ได้ออกแถลงการณ์คืนรางวัล “ตราชั่งทอง” คุณธรรม สาขาผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมดีเด่น ให้แก่นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และบันทึกในทำเนียบประวัติดั้งเดิม เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณต่อไป
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ โครงการคุณธรรมแห่งชาติ โดยเครือข่ายส่งเสริมสังคมไทยได้มอบรางวัลดังกล่าวให้กับนายสามารถ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2564 แต่ต่อมามีการร้องเรียนเรื่องการส่งคนเข้าสอบแทนในหลักสูตรภาษาอังกฤษระดับปริญญาเอก ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทางโครงการจึงถอนรางวัลดังกล่าวของนายสามารถ แต่เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2565 กองกิจการนักศึกษา งานวิจัยนักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้สรุปผลการพิจารณาสอบวินัยว่านายสามารถ เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีความผิด จึงให้ยุติเรื่องการสอบวินัย ทางเครือข่ายส่งเสริมสังคมไทย จึงคืนรางวัลดังกล่าวให้กับนายสามารถ
พปชร.เชื่อ3สค.กม.ลูกจบ-เคาะสูตร500
นายวีระกร คำประกอบ สส.เขต2 จ.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กระแสข่าวที่จะย้อนกลับไปใช้บัตรเลือกตั้งแบบใบเดียว ว่า อาจจะมีการพูดกัน แต่มันเป็นไปไม่ได้ ทั้งนี้อาจจะเป็นคนรอบตัวของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่เป็นพวกทหารมองว่าแก้แบบนี้พรรคพปชร.น่าจะได้ประโยชน์ แต่พวกเขาอาจจะลืมไปว่าสภาสมัยนี้มาจากประชาชนจะสั่งซ้ายหันขวาหันไม่ได้ และรัฐธรรมนูญเพิ่งจะแก้เสร็จยังไม่ทันใช้อยู่ๆคุณจะมาแก้กลับอย่างนี้จะบอกกับประชาชนอย่างไร เพราะจะต้องมีเหตุมีผลอธิบายกับประชาชน ฉะนั้นเลิกคิดเลิกวิจารณ์กันได้แล้วข่าวก็คือข่าวคนพูดก็พูดไป ที่สำคัญต่อให้ทำทามไลน์มันไม่ได้มันไม่ทันเลือกตั้ง และการเลือกตั้งแบบบัตร 2 ใบ ส.ส.เขตที่ลงพื้นที่จะได้เปรียบ ฉะนั้นการแก้กลับไปเป็นแบบบัตรใบด้วยส.ส.เขตในสภาคงไม่ยอมกัน เมื่อถามว่าร่างพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะนำกลับเข้ารัฐสภาในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ จะจบเลยหรือไม่ นายวีระกร กล่าวว่า จบ เพราะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายลูก จะแก้ไขให้มาตราอื่นๆสอดรับกับมาตรา 23 ที่มีมติแก้ไขใช้สูตรคำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ หารด้วย 500 ซึ่งกมธ.ฯจะมีการปรึกษากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าทำได้หรือไม่ ตนก็เชื่อว่าเมื่อกฎหมายผ่านสภาเสร็จแล้วกกต.น่าจะไม่มีปัญหาเห็นด้วยกับการเอาสูตรหารด้วย 500
‘ประดิษฐ์’มั่นใจภท.กวาดสส.พิจิตร
นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตรมช.คลัง และอดีตส.ส.พิจิตร 4 สมัย กล่าวถึงเหตุผลที่มาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ว่า คาดเดาว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง พรรคภูมิใจไทยน่าจะมีส่วนร่วมเข้าไปบริหารประเทศได้อีก จากนโยบายของพรรคที่ทำได้จริง ซึ่งมีเพียงไม่กี่พรรคที่ทำได้ อะไรที่สัญญาไว้กับชาวบ้านแล้วทำได้ คนในพื้นที่จะได้ประโยชน์ ถ้าทำไม้ได้จะเสียเครดิต และเสียหายในระยะยาว ซึ่งพรรคภูมิใจไทยทำจริง ทำได้ และทำดี การเลือกตั้งครั้งหน้าใครก็คาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่จากประสบการณ์ของผม พรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่จะประสบความสำเร็จได้น้อย ผมก็ผ่านมาแล้ว จึงคิดว่าพรรคภูมิใจไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมา10กว่าปี คิดว่าเป็นพรรคที่ชาวพิจิตรน่าจะเลือกให้มาพัฒนาบ้านเมืองได้
เมื่อถามว่า มั่นใจได้อย่างไรว่าจะชนะทั้ง 3 เขต นายประดิษฐ์ กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง ทุกพรรค และผู้สมัครทุกเขต จะมีความมั่นใจทุกคน แต่ผลลัพธ์จะเป็นอย่างไรต้องดูกัน สำหรับสองตระกูล คือ ภัทรประสิทธิ์กับขจรประศาสน์ ถ้านับตั้งแต่ปี 2518 ถึงวันนี้เกือบ 50 ปี เห็นได้ว่าทั้งสองตระกูลรับใช้คนพิจิตรมายาวนาน ตนกับพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ มีความเคารพเหมือนพ่อลูกกัน ซึ่งในเขต 3 ที่นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชายพล.ต.สนั่น จะมาลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นโอกาสที่ตนจะได้ตอบแทนบุญคุณพล.ต.สนั่น ซึ่งตนพร้อมช่วยสนับสนุนนายศิริวัฒน์มาเป็นส.ส. จ.พิจิตร อีกครั้ง โดยเราจะทำงานเต็มที่ และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน“ผมทำงานการเมืองมา 20 กว่าปี ครั้งนี้ขอช่วยเหลือน้องกับหลาน และตอบแทนบุญคุณพล.ต.สนั่น ส่วนตำแหน่งทางการเมืองหลังจากนี้ ผมพอแล้ว อายุจะ 70 แล้ว ขอช่วยหลานช่วยน้องเท่านั้น” นายประดิษฐ์ กล่าว
‘ธรรมนัส’วางคิวสิงหาคมบุกพิจิตร’
ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองพิจิตร นายพรชัย อินทร์สุข ส.ส.เขต 1 จ.พิจิตร พรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมคณะ เดินทางมาพบปะประชาชนในตลาดเทศบาลเมืองพิจิตร เพื่อรับฟังปัญหาและความเดือดร้อนในเรื่องเศรษฐกิจที่ปัจจุบันมีผลกระทบอย่างมาก เพื่อนำไปกำหนดนโยบายของพรรคเศรษฐกิจไทย พร้อมกับนำผ้ากันเปื้อนที่ใช้ในครัวเรือนและการค้าขายของบรรดาแม่ค้าในตลาดสด 500 ตัว แจกจ่ายให้กับพ่อค้าแม่ค้า เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ นายพรชัย กล่าวว่า หลังจากที่อภิปรายในสภาฯ ทางพรรคนำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรค ได้มีนโยบายให้ ส.ส. ลงพื้นที่รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน กำหนดนโยบายของพรรคเศรษฐกิจไทยสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน
นายพรชัย กล่าวอีกว่า ในส่วนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วยนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งของ จ.พิจิตร ตนในฐานะ ส.ส.พิจิตร ก็ดีใจด้วยที่จะมีคู่แข่งทางการเมืองเพราะถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากได้รับเลือกกันมาแล้วก็ขอให้อยู่กับประชาชน เหมือนที่ตนเป็น ส.ส. เพราะตนเมื่อได้รับเลือกเข้ามาแล้ว ไม่เคยทิ้งพื้นที่ ขณะนี้ ร.อ.ธรรมนัส ทราบเรื่องแล้วที่ทางพรรคภูมิใจไทย เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง3 เขต และสั่งสู้ไม่ถอย ในปลายเดือนสิงหาคมนี้ ร.อ.ธรรมนัส จะเดินทางมาเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง3เขตเลือกตั้งของพรรคเศรษฐกิจไทย และมั่นใจว่าสามารถสู้ว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทยได้แน่นอน
ปชป.ลุยหนักพื้นที่ภาคใต้
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคปชป.เป็นประธานเปิดการประชุมเวทีระดมความคิดนำคอหงส์สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยมี นายสมยศ พลานด้วง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคปชป.เขต 3 สงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกอบจ.สงขลา นายนิพัฒน์ อุดมอักษร ว่าที่ผู้สมัคร เขต 2 พรรคปชป. นายทวีศักดิ์ อรัญดร ส.อบจ.สงขลา ประธานสาขาพรรคและกรรมการสาขาพรรค ปชป.เขต 3 สงขลา รวมถึงแกนนำในขุมชน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และสมาชิกพรรคร่วมเปิดเวทีระดมความคิดเห็น และข้อเสนอแนะในการทำงานในพื้นที่ตำบลคอหงส์ ที่โรงแรมต้นอ้อย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
นายนิพนธ์ กล่าวว่า ถือโอกาสนี้แสดงความขอบคุณทุกคนในเขต 3 สงขลา ที่มีความเข้มแข็ง รวมถึงประธานสาขาพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ในเขต 3 สงขลา ถือเป็นตัวอย่างของประเทศไทยทั้งประเทศ ในการทำกิจกรรมทางการเมืองในการให้ความรู้แก่สมาชิกในระดับรากหญ้า เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับสมาชิกของพรรคปชป. พรรคปชป.จัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้พี่น้องมีความมั่นใจในพรรคปชป. ซึ่ง พรรคปชป.ถือเป็นสถาบันทางการเมืองที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ กว่า 77 ปีที่พรรคปชป.มีการเปลี่ยนยุคเปลี่ยนสมัย จนถึงปัจุบัน มาถึงคนรุ่นใหม่ที่กำลังผลิใบในการ สืบทอดเจตนารมณ์ของพรรคปชป.ต่อไปในอนาคต นี่คือการทำการเมืองที่ถูกต้อง ตั้งแต่ฐานรากในการร่วมแสดงความคิดเห็น ถือเป็นการเตรียมพร้อมทั้งในเรื่องนโยบาย ในเรื่องแผนงาน และในเรื่องของตัวบุคคล ครั้งนี้จึงถือเป็นการเตรียมความพร้อมของพรรคอุดมการณ์ของพรรคปชป.ได้ประกาศอุดมการณ์ 10 ข้อ ซึ่งในข้อที่ 5 พรรคปชป.เน้นในเรื่องของการกระจายอำนาจ ตั้งแต่นายชวน ที่มีนโยบายในเรื่องของการกระจายอำนาจจากในเมืองสู่ชนบท และในสมัยป๋าเปรม ถือเป็นสมัยที่มีการเร่งรัดในเรื่องของการพัฒนาชนบท เพื่อไม่ให้เกิดชุมชนแออัด จนเกิดเป็นเมืองขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก นี่คือนโยบายการกระจายอำนาจของพรรคปชป. เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในอดีต ซึ่งตนมีความเชื่อว่า ถ้าทำท้องถิ่นเข้มแข็ง ประเทศไทยก็จะเข้มแข็งไปด้วย ดังนั้นพรรคปชป.จึงมีนโยบายในเรื่องของการกระจายงบประมาณลงสู่ท้องถิ่น เพื่อสร้างความเจริญ และสร้างความเข้มแข็งให้กับท้องถิ่น
พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง
วันนี้เราต้องใช้กลไกสมาชิกในการสื่อสาร การประชาสัมพันธ์ของมวลสมาชิกจึงเป็นสิ่งจำเป็น ซึ่งจะเป็นการปรับรูปแบบในการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบโซเซียลให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสมาชิก เพื่อสร้างกลุ่มในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งจะเป็นการเตรียมความพร้อมกับการเลือกตั้งในสมัยหน้า จึงต้องย้ำในเรื่องของการปรับเปลี่ยนการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบว่า พรรคปชป.ทำอะไรบ้างที่ผ่านมา ตั้งแต่เรื่องของนมโรงเรียน เรื่องอาหารกลางวันนักเรียน เรื่องของเงิน กยศ. การสร้างถนนสี่เลนทั่วประเทศ เรื่องเงินค่าตอบแทนแก่ อสม. เงินผู้สูงอายุ สวัสดิการเหล่านี้เป็นเรื่องของพรรคปชป. ที่ได้วางรากฐานไว้จนถึงปัจจุบัน
วันนี้พรรคปชป.จึงมีความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง ทั้งเรื่องของนโยบาย และเรื่องของตัวบุคคล 77 ปีของพรรคปชป. เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ในหลายๆเรื่องที่พรรค ปชป.ทำ กว่า 520,000 ล้าน ที่พรรคปชป.เข้ามาดูแลพี่น้องเกษตรกรได้ประโยชน์กว่า 10 ล้านครัวเรือน 35ล้านคนในเรื่องของการประกันรายได้ การลดต้นทุนการผลิต ช่วยเหลืออชาวสวน เป็นต้น ในตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ขอให้ประธานสาขาพรรค สมาชิกพรรค ได้นำเรื่องราวที่พรรคได้ทำและเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชนไปประชาสัมพันธ์ เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมาถึง ในต้นปีหน้า