วันที่ 16 สิงหาคม 2565 เวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา(ส.ว.) ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด
โดยเป็นการประชุมลับและลงคะแนนลับให้บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อคือ นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ รองประธานศาลปกครองสูงสุด ทั้งนี้ ผลการออกเสียงปรากฏว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบด้วยคะแนน 188 คะแนน ไม่ให้ความเห็นชอบ คะแนน 4 และไม่ออกเสียง 7 คะแนน จึงถือว่านายวรพจน์ ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เนื่องจากได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของ ส.ว.ที่มีอยู่ จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
ทั้งนี้ การคัดเลือกประธานศาลปกครองสูงสุดคนใหม่ สืบเนื่องจาก นายชาญชัย แสวงศักดิ์ ประธานคนปัจจุบัน มีอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ในปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 21 วรรค 1 (3) ประกอบมาตรา 31 วรรค 3 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542
สำหรับประวัติการศึกษา และประสบการณ์การทำงานนั้น นายวรพจน์ จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับสอง) จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ประกาศนียบัตรชั้นสูงทางกฎหมายมหาชน (Diplôme d’études approfondies (DEA) en droit public) จาก Université de Strasbourg III สาธารณรัฐฝรั่งเศส และปริญญาเอกทางกฎหมาย (Doctorat en droit) สาขากฎหมายมหาชน จาก Université des Sciences sociales Toulouse I สาธารณรัฐฝรั่งเศส มีประวัติการรับราชการตามลำดับ ดังนี้
พ.ศ. 2519-2544 อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2544-2548 อธิบดีศาลปกครองกลาง
พ.ศ. 2549-2553 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด
พ.ศ. 2553-2558 ตุลาการหัวหน้าคณะศาลปกครองสูงสุด
พ.ศ. 2558-2559 ตุลาการหัวหน้าแผนกคดีบริหารงานบุคคลในศาลปกครองสูงสุด
พ.ศ. 2559- ปัจจุบัน รองประธานศาลปกครองสูงสุด
ขณะที่ พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด โดยเป็นการประชุมลับและลงคะแนนลับให้บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลปกครองสูงสุด 3 คนคือ 1.นายสมชาย กิจสนาโยธิน 2.นายบรรยาย นาคยศ และ 3.พล.ท.สุรพงศ์ เปรมบัญญัติ
ทั้งนี้ ผลการออกเสียงปรากฏว่า สำหรับนายสมชาย ที่ประชุมให้ความเห็นชอบด้วยคะแนน 189 ต่อ 2 คะแนน และไม่ออกเสียง 9 คะแนน จึงถือว่านายสมชัย ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เนื่องจากได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของ ส.ว.ที่มีอยู่
ขณะที่ นายบรรยาย ที่ประชุมให้ความเห็นชอบด้วยคะแนน 189 ต่อ 2 คะแนน และไม่ออกเสียง 9 คะแนน จึงถือว่านายบรรยาย ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เนื่องจากได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของ ส.ว.ที่มีอยู่
ส่วนพล.ท.สุรพงศ์ ที่ประชุมให้ความเห็นชอบด้วยคะแนน 192 ต่อ 0 คะแนน และไม่ออกเสียง 8 คะแนน จึงถือว่าพล.ท.สุรพงศ์ ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เนื่องจากได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของ ส.ว.ที่มีอยู่
เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช.
โดยเป็นการประชุมลับและลงคะแนนลับให้นายอภิรัฐ ศิริราธิวัตร อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. (ด้านกิจการโทรคมนาคม) ทั้งนี้ ผลการออกเสียงปรากฏว่า ที่ประชุมวุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบด้วยคะแนน 137 ต่อ 18 คะแนน และไม่ออกเสียง 24 คะแนน จึงถือว่า นายอภิรัฐ ไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เนื่องจากได้รับคะแนนเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่งของ ส.ว.ที่มีอยู่
ขณะที่ผลการลงคะแนนบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการ กสทช. (ด้านอื่นๆ ที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของ กสทช. (ด้านกฎหมาย)) คือ พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร ข้าราชการบำนาญ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ผลการออกเสียงปรากฏว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบด้วยคะแนน 146 ต่อ 24 คะแนน และไม่ออกเสียง 9 คะแนน จึงถือว่าพล.ต.อ.ณัฐธร ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา เนื่องจากได้รับคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของ ส.ว.ที่มีอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี