เดือดยกแรกรับศึกปิดสวิตซ์ส.ว.! ‘กิตติศักดิ์’ ปะทะเดือด ‘โรม’ ของขึ้นเจอแซะ แก๊งแบ่งโควตานั่ง ‘สภาสูง’ ฉะใช้หนี้ ‘กยศ.’ ก่อน อย่าทะนงตัว เจอสวนกลับเคลียร์หมดไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว ขู่ฝ่อถ้าพูดข้างนอกสภาฯเจอฟ้องกลับแน่

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565  เมื่อเวลา 13.15 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมจำนวน5ฉบับ  โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ถึงการปิดสวิตซ์ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 272 ตอนหนึ่งว่า สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชุดนี้มีที่มาที่เลือกมาจากผู้สมัครแต่ละอำเภอ แต่ละจังหวัดจำนวน 50 คน จาก 250 คน คิดเป็นแค่ 20% และมาอ้างว่า ส.ว.ชุดนี้เป็นประชาธิปไตยแล้ว ในขณะที่อีก 80% คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นคนจิ้มมาล้วนๆ ซึ่งมีทั้งแก๊งเตรียมทหารรุ่น (ต.ท.) 12 เพื่อนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ 21 คน แก๊ง ต.ท.6 เพื่อนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ 5 คน รวมถึงเพื่อนพ้องน้องพี่ ศิษย์เก่าสภานิติญัตติแห่งชาติ (สนช.) และอีกสารพัดคณะที่เคยร่วมงานกับ คสช. จำนวนถึง 150 คน

โดยนายกิตติศักดิ์  รัตนวราหะ ส.ว. ลุกขึ้นประท้วงว่า ขอให้ถอนคำว่า แก๊ง วิจารณ์คนอื่นดูตัวเองบ้างหนี้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ยังไม่ใช้เลย สำเหนียกตัวเองบ้าง และเป็นส.ส.ที่มีคะแนนปัดเศษมาอย่าทะนงตัว ทำให้นายพรเพชร ในฐานะประธานที่ประชุม ได้ขอให้ นายกิตติศักดิ์หยุดกล่าวพาดพิง และขอให้นายรังสิมันต์ อย่าใช้คำพูดว่า แก๊ง เพราะไม่เหมาะสม โดยนายพรเพชร ระบุว่า วันนี้เพิ่งเริ่มต้น ขอให้เจ๊ากัน และขอให้ถอนคำพูดทั้งคู่

ด้านนายรังสิมันต์ จึงลุกขึ้นกล่าวว่า ขอถามว่า คำว่าแก๊ง ใครเสียหาย ถ้าใช้คำพูดรุนแรงทำให้เจ็บกระดองใจ ไม่ได้เป็นไปตามข้อบังคับ ทำให้นายกิตติศักดิ์ สวนกลับว่า ถ้าตนพูดบ้างว่ามีพวกที่ยังไม่ใช้หนี้ กยศ. นายพรเพชร จึงเบรคให้ลดคำพูดที่ไม่เหมาะสม และให้นายกิตติศักดิ์ถอนคำพูด แต่นายกิตติศักดิ์ ไม่ยอมถอน ทำให้นายพรเพชรห้ามนายกิตติศักดิ์ อภิปรายหรือพูดอีก

นายรังสิมันต์ จึงกล่าวว่า เข้าใจว่า การไม่ถอนโดยหลักต้องให้ออกจากห้องประชุม การให้นั่งเฉยๆและห้ามพูดไม่ได้เป็นการลงโทษ นายพรเพชร จึงชี้แจงว่า การห้ามพูดเป็นการลงโทษแล้ว แต่หากยังพูดอีกจะเชิญออกจากห้อง

จากนั้นนายรังสิมันต์ ได้ลุกขึ้นชี้แจงการไม่ใช้หนี้กยศ.ว่า ตนไม่เคยเบี้ยวหนี้ ก่อนหน้านี้ตนยากจนต้องกู้เรียน แต่ก็ชำระหนี้มาโดยตลอดไม่เคยผิดนัดแม้แต่ครั้งเดียว และหลังจากที่ตนมาเป็น ส.ส. ได้ใช้หนี้เพิ่มมาตลอดจนวันนี้ตนไม่เหลือหนี้กยศ.แม้แต่บาทเดียว

“ถ้ายังหยิบยกเอาเรื่องนี้มาพูดผมก็สงสารประเทศไทยจริงๆ เพราะเท่ากับพวกท่านผลิตซ้ำเรื่องเฟคนิวส์ เสียดายถ้าเกิดพูดข้างนอกสภาฯ จะไปฟ้องดำเนินคดีนำเงินเข้าพรรคก้าวไกล” นายรังสิมันต์