มีแค่บันทึกเจตนารมณ์ทำรธน.
ขาดชวเลขยืนยัน
สภาฯแจงศาลรธน.ปม8ปีบิ๊กตู่
‘วิษณุ’ชี้ไม่แปลกเรียกเอกสารเพิ่ม
‘สุดารัตน์’ผงาดหน.ไทยสร้างไทย
ดันชิงนายกฯ/นำปลดล็อกประเทศ
‘อุ๊งอิ๊ง’ลุยเชียงใหม่/ขอแลนด์สไลด์
เลขาสภาฯฟิตส่งสำเนาบันทึกประชุมกรธ.ครั้งที่ 501 ให้ศาลรธน.หลังขอรายละเอียดเพิ่ม ยันสภาฯเป็นแหล่งจัดเก็บเอกสารประวัติศาสตร์สถาบันนิติบัญญัติ มีครบหมดทุกอย่าง เผยมีแค่บันทึกประชุมช่วงทำความมุ่งหมายรัฐธรรมนูญปี’60 ไม่มีรายงานชวเลขถอดทุกคำพูดเหตุ “มีชัย” สั่งไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข เพราะผ่านขั้นตอนการทำรธน.แล้ว “วิษณุ” ไม่แปลกใจ ศาลเรียกดูบันทึกประชุม ถึงอย่างไรต้องทำให้ทุกอย่างกระจ่าง ชี้ปมเอกสารหลุดเกิดขึ้นได้ทุกคดี ยันไม่ได้คุยกับ “มีชัย” พรรคไทยสร้างไทย เลือก “หญิงหน่อย”นั่งหน.พรรค ดันแคนดิเดตนายกฯ ชูผู้นำแกร่งสุดในปฐพี ประกาศปลดล็อกประเทศ
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ที่รัฐสภา นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่501 เมื่อวันที่ 11ก.ย.61 ซึ่งมีวาระการประชุม รับรองการประชุมครั้งที่500 วันที่ 7ก.ย.61 ที่คณะอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุม และรายงานการประชุมตรวจทานแล้วโดยไม่มีการแก้ไข ให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายในวันที่ 13ก.ย.นั้น เพื่อพิจารณาประกอบคำร้องของพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ส่งผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎรขอให้วินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา170วรรคสอง ประกอบมาตรา158 วรรคสี่หรือไม่ ว่า สำนักงานเลขาธิการสภาฯเตรียมเอกสารไว้แล้ว เนื่องจากศาลฯได้ส่งหนังสือขอเอกสารมาทางอีเมล์ เมื่อเวลา 15.00น.วันที่ 8ก.ย.ที่ผ่านมา แต่เอกสารทางการมาถึงสำนักงานเลขาธิการสภาฯเวลา 18.00น.วันเดียวกัน ซึ่งสำนักงานฯเตรียมส่งเอกสารที่ศาลขอมาในวันที่ 9กันยายนนี้
เมื่อถามว่า เอกสารของสำนักงานเลขาธิการสภาฯถือเป็นหลักฐานทางชั้นศาลได้หรือไม่ นางพรพิศ กล่าวว่า เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญที่จะพิจารณา อย่างไรก็ตามยืนยันว่า สำนักงานเลขาธิการสภาฯมีเอกสารครบ เพราะเราเป็นแหล่งจัดเก็บเอกสารทางประวัติศาสตร์ของสถาบันนิติบัญญัติทั้งหมด ดังนั้นทุกอย่างจึงมีครบ
มีแค่บันทึกประชุม-ไม่มีถอดทุกคำพูด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า มีรายงานข่าวจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประชุม กรธ.แจ้งว่า การประชุมกรธ.ในช่วงที่ทำความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่ทำรัฐธรรมนูญ2560แล้วเสร็จพบว่า มีเพียงการทำบันทึกการประชุมเท่านั้น โดยไม่มีรายงานการประชุมที่ใช้เจ้าหน้าที่ชวเลขดำเนินการบันทึกจดคำพูดทุกตัวอักษร เนื่องจาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ อดีตประธานกรธ.ระบุว่า ไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่ชวเลข เพราะผ่านขั้นตอนการทำรัฐธรรมนูญแล้ว
ส่วนกรณีที่เป็นประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการประชุมกรธ.ครั้งที่500 ซึ่ง นายมีชัย ระบุในคำชี้แจงที่ส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า เป็นการจดรายงานที่ไม่ครบถ้วนและสรุปตามความเข้าใจของผู้จด อีกทั้ง กรธ.ยังไม่ได้ตรวจรับรองรายงานการประชุมนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ในบันทึกการประชุมกรธ.ครั้งที่501 เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2561 มีคำยืนยันว่า ผ่านการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมและรายงานการประชุม โดยคณะอนุกรรมการฯที่มี นายอภิชาต สุขัคคานนท์ อดีต กรธ.ในฐานะประธานอนุกรรมการ ซึ่งคณะดังกล่าว มีนายสุพจน์ ไข่มุกด์ เป็นรองประธานกรธ.คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่อนุกรรมการตรวจบันทึกการประชุมด้วย
จัดเก็บทำบันทึกการประชุมทุกครั้ง
“หากบันทึกการประชุมของกรธ.ครั้งที่500 ทำไม่ถูกต้องตามที่ นายมีชัย ระบุในคำชี้แจงที่ให้ต่อศาลรัฐธรรมนูญ นายสุพจน์ ที่ร่วมเป็นอนุกรรมการพิจารณาตรวจบันทึกการประชุมฯ ต้องทักท้วงและท้วงติงก่อนที่จะนำเสนอให้ที่ประชุมกรธ.พิจารณาแล้ว เนื่องจากในบันทึกการประชุมกรธ.ครั้งที่500 มีจดบันทึกและรายงานการแสดงความคิดเห็นของ นายสุพจน์ ไว้คู่กับ นายมีชัย ด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับบันทึกการประชุมนั้นเป็นเอกสารที่เผยแพร่ได้ในห้องสมุดรัฐสภาและอดีตกรธ.ทุกคน จะมีบันทึกการประชุมทุกนัดไว้คนละหนึ่งฉบับ”รายงานข่าว ระบุ
‘วิษณุ’ชี้ไม่แปลกศาลขอเอกสารเพิ่ม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจัดส่งสำเนาบันทึกการประชุมและรายงานการประชุมคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ครั้งที่501 ซึ่งรับรองบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่500 โดยให้ส่งต่อศาลภายในวันอังคารที่ 13ก.ย.ว่า ไม่ทราบ ตนไม่รู้ว่าศาลพูดอะไรอย่างไรบ้าง แต่เมื่อมันเป็นประเด็นออกมาจึงเรียกมาดูอีกที ถูกต้องแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่ศาลเรียกดูบันทึกการประชุมของ กรธ.ศาลอาจอยากรู้ว่า การประชุมเป็นอะไรอย่างไร ไม่ถือว่าแปลกประหลาดอะไร แค่มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญบางคนติดใจเขาก็เรียกให้แล้ว ทั้งนี้ การพิจารณาของศาลไม่มีกำหนดเวลา สามารถพิจารณาไปได้เรื่อยๆ แต่กรณีแบบนี้ดูท่าแล้วคงจะไม่มีพิจารณาไปเรื่อยๆ เห็นบอกว่าวันที่ 14ก.ย.หมดเขตที่จะส่งเอกสารแล้ว อาจจะพิจารณาได้ตั้งแต่วันนั้นหรือวันรุ่งขึ้นเลย แต่พิจารณาจบหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ
เอกสารหลุดมีทุกคดีเหตุผ่านคนเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่เอกสารหลุดออกมาจะมีผลกระทบอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนยังคิดไม่ออกว่าจะมีผลกระทบอะไรหรือไม่ เพราะการที่จะมีเอกสารหลุดออกมามันเกิดขึ้นได้ในทุกคดี จริงๆแล้วมันคือคำให้การที่ยื่นไป ไปผ่านคนตั้งเยอะแยะ ฉะนั้นการหลุดออกมาไม่ได้แปลกประหลาดอะไร เมื่อถามย้ำว่า มันอาจมีผลกระทบกับรัฐบาล เพราะการที่เอกสารหลุดอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามทำข้อมูลยื่นไปเพิ่มเติมเพื่อหักล้างคำชี้แจง นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรต้องทำความจริงให้กระจ่างแจ้งเป็นการดีที่สุด อย่าไปคิดอะไรมาก
ไม่เคยคุย’มีชัย’-ศาลเรียกก็ส่งไป
เมื่อถามว่า ได้คุยกับ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.เกี่ยวกับการบันทึกการประชุม กรธ.ที่มีการโต้แย้ง นายมีชัย ว่า มีการรับรองบันทึกการประชุมครั้งที่500แล้วหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่เคยคุยกับ นายมีชัย แม้จะถูกมองว่าอยู่ก๊วนเดียวกัน ไม่เคยคุย ไม่เคยปรึกษาใดๆทั้งสิ้น ยืนยันได้ เมื่อถามย้ำว่าบันทึกการประชุม กรธ.ครั้งที่500 กับครั้งที่501 มันต่างกันอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ตอบแล้วเพราะพูดเรื่องนี้กันทุกวันแล้ว เมื่อศาลเรียกแล้วของจริงเป็นอย่างไรก็ส่งไป ชัดเจนอยู่ในนั้น ตนก็ไม่เคยเห็น ไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร เห็นแต่หนังสือที่เขาแจกกันที่เป็นแนวทางตีความรายมาตรา ซึ่งเขาแจกทุกคนเป็นบันทึกเกี่ยวกับเจตนารมณ์มาตราต่างๆและรัฐบาลใช้ตัวนี้อ้างไป
‘บิ๊กป้อม’ปรับครม.ได้/แต่เป็นเรื่องยาก
เมื่อถามว่า กรณีศาลรัฐธรรมนูญยังไม่วินิจฉัย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรักษาราชการแทนนายกฯ สามารถตัดสินใจปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนยืนยันว่าโดยทฤษฎีนั้นทำได้ แต่ในทางปฏิบัติถ้าจะทำมันก็มีหลายอย่าง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ถ้าจะตอบว่า ทำไม่ได้มันก็ผิด จึงต้องตอบว่า ทำได้ แต่อย่าไปแสดงว่าทำได้ เดี๋ยวจะทำแล้ว มันไม่ใช่ เพราะถ้าทำได้ง่ายๆ ที่ว่างมา 2ตำแหน่งคงจะทำไปแล้ว มันมีความยุ่งยากอยู่ในทางปฏิบัติ ไม่อย่างนั้นเขาทำไปนานแล้ว
เมื่อถามว่า ถ้าดูแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ เพื่อทำหน้าที่การประชุมเอเปคเสร็จแล้วยุบสภาหรือลาออกแบบไหนจะดีกว่ากัน นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าลาออกต้องหานายกฯใหม่ โดยเข้าสภาเลือกนายกฯใหม่ แต่ถ้ายุบสภาไม่ต้องหานายกฯใหม่ แต่ตนยืนยันว่าการยุบสภามันทำให้เกิดความยุ่งยากในเมื่อกฎหมายลูกมันยังไม่ประกาศใช้
‘วราวุธ’เชื่อไม่เกิดอุบัติเหตุการเมือง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงระหว่างนี้ที่ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาปม 8 ปี การดำรงตำแหน่งนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมอยู่ ว่า คิดว่าไม่น่าจะมีสถานการณ์ใดๆรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปรับ ครม.ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้บอกเองว่า จะยังไม่ทำอะไร ตนเชื่อว่าขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ทุกคนกำลังรอดูจนถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีมติออกมาอย่างไรมากกว่า ดังนั้นช่วงนี้จึงไม่คิดว่าจะมีอุบัติเหตุทางการเมืองแต่อย่างใด
เหลือ6เดือนทุกพรรคเตรียมเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้หลายพรรคการเมืองดำเนินการปรับโครงสร้างพรรค อาทิ พรรคสร้างอนาคตไทย ได้เปิดตัว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นประธานพรรค พรรคชาติพัฒนา เตรียมให้นายกรณ์ จาติกวณิช นั่งหัวหน้าพรรค นายวราวุธ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เพราะจากนี้ไปจนถึง สิ้นอายุของรัฐบาลชุดนี้ในวันที่ 24มี.ค.66 เหลือเวลาเพียง 6เดือนเท่านั้น ดังนั้นขั้นตอนการหาเสียงเลือกตั้ง ช่วงเวลา6เดือนก่อนเลือกตั้งจึงเป็น ช่วงเวลาที่ถูกต้อง ไม่ได้น่าแปลกใจแต่อย่างใด
เปิดตัวผู้สมัครสส.ยโสธร13ก.ย.นี้
เมื่อถามถึงการวางนโยบายการเตรียมเปิดตัวผู้สมัครของพรรคชาติไทยพัฒนา นายวราวุธ กล่าวว่า ตอนนี้พรรคชาติไทยพัฒนามีการเตรียมเปิดตัวผู้สมัครเป็นระยะๆ และในวันอังคารที่ 13 ก.ย. เวลา 13.00 น. พรรคจะเปิดตัวผู้สมัครเขต3 จังหวัดยโสธร อีกหนึ่งคน คือ นายตรงสิทธิ์ ตั้งจตุรวิธ นักธุรกิจ อย่างไรก็ตามพรรคชาติไทยพัฒนา จะมีการเปลี่ยนแปลงและประกาศตัวออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้นโยบายกำลังดำเนินการยกร่าง วางกรอบใหญ่ได้แล้ว เหลือแต่ลงในรายละเอียดว่าในแต่ละด้านจะออกมาเป็นในรูปแบบใด ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาตั้งเป้าอยู่ที่ 25 เก้าอี้ เพื่อเป็นพรรคการเมืองที่สามารถยื่นเสนอกฎหมายได้ ทำงานได้ทุกมิติ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเสียงของพรรคอื่น ส่วนเรื่องเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค พิจารณาแนวทางกันอีกครั้งหนึ่งเมื่อถึงเวลา
‘ไทยสร้างไทย’เลือก’สุดารัตน์’หน.
ที่โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ ศูนย์การค้าสยามสแควร์วัน พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) จัดประชุดใหญ่วิสามัญ “มาร่วมกันเปลี่ยนประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่ากับพรรคไทยสร้างไทย” บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก สมาชิกและโหวตเตอร์จากทั่วประเทศกว่า 700คน พร้อมผู้บริหารพรรคเข้าร่วมงาน เช่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ดร.โภคิน พลกุล นายสุพันธุ์ มงคลสุธี น.ต.ศิธา ทิวารี นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น นายอุดมเดช รัตนเสถียร นายประวัฒน์ อุตตะโมต นายสิทธิชัย โควสุรัตน์ เข้าร่วมประชุม
จากนั้นไฮไลต์สำคัญที่ประชุมการเลือกกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ จำนวน 50 คน และที่ประชุมได้เลือก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นหัวหน้าพรรคและมีมติสนับสนุนให้เป็นแคนดิเดต นายกรัฐมนตรีของพรรค พร้อมด้วย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี เป็นรองหัวหน้าพรรค นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น เป็นรองหัวหน้าพรรค นายประวัฒน์ อุตตะโมต เป็นรองหัวหน้าพรรค พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ เป็นรองหัวหน้าพรรค น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นเลขาธิการพรรค และ นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ เป็นโฆษกพรรค
มุ่งต้องเปลี่ยนแปลง-สร้างชีวิตที่ดีกว่า
จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นแสดงวิสัยทัศน์ โดยกล่าวถึงความมุ่งมั่นตั้งใจเชิญชวนพี่น้องประชาชน”มาร่วมกันเปลี่ยนแปลงประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่ากับพรรคไทยสร้างไทย”โดยระบุว่า ขอบคุณพี่น้องชาวไทยสร้างไทย ที่ได้ให้ความไว้วางใจเลือกเป็นผู้นำพรรค ขอให้คำมั่นว่าจะทุ่มเททำงานอย่างสุดความสามารถ ขอนำประสบการณ์ 30ปี ที่ทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน มานำทัพไทยสร้างไทย ให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่เราได้ตั้งปณิธานไว้
“เราจะมุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก เพื่อร่วมกันเปลี่ยนประเทศ สร้างชีวิตที่ดีกว่าให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน เพราะพี่น้องชาวไทยเหนื่อยมามากแล้ว ถูกละเลย ถูกทอดทิ้ง ปล่อยให้สู้ปัญหาเพียงลำพัง โดยขาดการเหลียวแลจากผู้มีอำนาจ จากนี้ไปพรรคไทยสร้างไทยขออาสาที่จะเหนื่อยแทนพี่น้องประชาชนทุกคน เพื่อทำให้ชีวิตของพี่น้องดีขึ้น ไทยสร้างไทยจะไม่ปล่อยให้พี่น้องต้องสู้กับความยากลำบากตามยถากรรมอีกต่อไป เราขอสู้เคียงข้างพี่น้อง ดิฉันขอสัญญาค่ะ”
‘สุพันธ์’ลุยการเมืองเห็นเจ๊หน่อยมุ่งมั่น
ด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคคนและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคไทยสร้างไทย ได้ขึ้นมากล่าวแสดงความยินดีแก่ คุณหญิงสุดารัตน์ ว่า คุณหญิงสุดารัตน์เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตนตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมือง ทั้งๆที่เป็นนักธุรกิจมาตลอดชีวิต ไม่เคยคิดที่จะเข้ามาในวงการเมือง แต่เมื่อพูดคุยกันถึงความทุกข์ยากของประชาชน ปัญหาปากท้องที่ประชาชนต้องเผชิญและรู้สึกว่าตนต้องทำอะไรสักอย่าง จึงได้ตัดสินใจมาลงเล่นการเมืองกับพรรคไทยสร้างไทย จากความเป็นนักธุรกิจที่ไม่คุ้นชินกับการเมือง เมื่อมีโอกาสได้ลงพื้นที่กับ คุณหญิงสุดารัตน์ ทำให้มุมมองต่อการเมืองเปลี่ยนไปมาก และเชื่อมั่นว่า คุณหญิงสุดารัตน์ พรรคไทยสร้างไทย จะช่วยประชาชนแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศได้
‘โภคิน’เชื่อแปลงแปลงปท.ได้สำเร็จ
ขณะที่ ดร.โภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ พรรคไทยไทยสร้างไทย กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับ คุณหญิงสุดารัตน์ ในโอกาสที่ที่ประชุมพรรคได้ให้ความไว้วางใจดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยมั่นใจว่า คุณหญิงสุดารัตน์ จะเป็นผู้นำพรรค เพื่อร่วมกับพี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนเปลี่ยนประเทศให้สำเร็จ เพื่อปลดปล่อย(Liberate) และสร้างพลัง (Empower) ให้กับพี่น้องประชาชนในทุกๆด้าน ต้องร่วมกัน ทำให้ประเทศหลุดพ้นจาก แนวคิดและวัฒนธรรมแบบ “อำนาจนิยม” ตลอดจน “รัฐราชการ”ที่กดทับการดำรงชีวิต และการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะคนตัวเล็ก
ดร.โภคิน กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการร่วมทำงานกับ คุณหญิงสุดารัตน์ ได้เห็นความตั้งใจ ความเสียสละ การใฝ่หาความรู้อยู่ตลอดเวลา การมีน้ำใจและมิตรไมตรีกับผู้คนทั้งหลาย การให้ความสำคัญกับผู้คนทุกรุ่นทุกวัย ตลอดจนความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะมาทำงานเพื่อบ้านเมือง ไม่ใช่มาทำเพื่อตัวเอง เพราะประเทศกำลังอยู่ในสภาวะอันตรายอย่างยิ่งในทุกๆด้าน อันจะนำไปสู่ความตกต่ำจนยากจะแก้ไข
ชมให้เกียรติทุกวัย-มีความเป็นผู้นำ
“ผมได้เห็นความตั้งใจของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่จะสร้างพรรคไทยสร้างไทยให้เป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชน เอาตัวเองเป็นเสาเข็มและสะพานเชื่อมให้กับคนทุกรุ่นทุกวัย มีความเป็นผู้นำ พร้อมเป็นกองหน้าของผู้คนที่รักชาติ รักประชาธิปไตย และต้องการทำเพื่อคนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนตัวเล็ก ที่กำลังประสบกับความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสในเวลานี้ ผมจะเสนอคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อเสนอคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค และของคนไทยทุกคนต่อไป” ดร.โภคิน กล่าว
‘ศิธา’ชี้เดินติดดิน-จอมกอดแห่งยุค
ขณะน.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า การประชุมพรรคไทยสร้างไทยในวันนี้ เป็นก้าวย่างที่สำคัญที่พรรคได้มีการคัดเลือกกรรมการบริหารพรรค เพราะการที่ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นนักการเมืองที่มากประสบการณ์กว่า 30 ปี เปรียบเสมือน “ปลาช่อนค้างบ่อ”ที่เป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์อย่างโชกโชน ไม่เคยมีข้อครหาในทุกๆ ด้าน อีกทั้งยังเป็นนักการเมืองที่อยู่ฝ่ายประชาธิปไตยและต่อสู้กับฝ่ายเผด็จการมาโดยตลอด เป็นคนติดดินที่พร้อมเดินทางไปทุกที่ทั่วประเทศเป็น”จอมกอดแห่งยุค”ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ จึงเป็นทิศทางที่ดีของสังคมไทยที่จะมีผู้นำ พร้อมอาสาเป็นกองหน้า เพื่อส่งมอบประเทศไทยที่ดีที่สุดให้กับลูกหลานของเรา
มุ่งแก้สังคมขัดแย้ง-เชื่อมผู้คนทุกวัย
“เดิมที ผมตั้งใจไว้ว่าจะหันหลังให้กับวงการเมือง หลังจากถูกตัดสิทธิทางการเมือง แต่เนื่องด้วยสังคมไทยในปัจจุบันความขัดแย้งทางสังคมได้ทวีความรุนแรงขึ้น จนเป็นการแบ่งขั้วระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ซึ่งมีมุมมองการพัฒนาประเทศที่แตกต่างกัน ดังนั้นการกลับมาสู่สนามทางการเมืองในครั้งนี้ เหตุผลเดียวที่กลับมา คือผมมีความเชื่อว่าคุณหญิงสุดารัตน์ จะเป็นผู้นำที่นำพาประชาชน และประเทศออกจากมหาวิกฤตที่ติดหล่มมานานนับ 10ปี พรรคไทยสร้างไทยจะเป็นเสาเข็ม เป็นนั่งร้านและสะพานเชื่อมฐานรากให้กับโครงสร้างที่ชื่อว่าประเทศไทย เพื่อเปิดโอกาสพื้นที่เชื่อมประสานคนทุกช่วงทุกวัย ทั้งคนรุ่นเก๋าที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น ได้มาทำงานร่วมกัน เพื่อส่งมอบประเทศไทยที่ดีที่สุดให้กับลูกหลานของเรา”น.ต.ศิธา กล่าว
‘อุ๊งอิ๊ง’นำครอบครัวเพื่อไทยลุยเชียงใหม่
ที่ สหกรณ์การเกษตร อ.สันป่าตอง จ.เชียงราย คณะครอบครัวเพื่อไทย นำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย พร้อมด้วย กก.บห.ได้พบปะตัวแทนเกษตรกรภาคเหนืออาทิชาวสวนลำไย เกษตรกรผู้ปลูกหอมใหญ่ เพื่อรับฟังปัญหาและนำไปจัดทำเป็นนโยบาย ปัญหาส่วนใหญ่คือสินค้าเกษตรราคาตกต่ำ ถูกจำกัดการส่งออก จึงขอให้เร่งผลักดันร่างพรบ.ลำไย รวมถึงนำงานวิจัยและนวัตกรรมมาผลักดันสินค้าเกษตร และขอให้พรรค พท.ช่วยสะท้อนไปยังรัฐบาลเร่งเยียวยาเกษตรกร
นพ.ชลน่าน กล่าวว่าสิ่งที่ได้รับฟังจากเกษตรกรในวันนี้ พรรคพร้อมนำไปจัดทำนโยบายทันที ซึ่งขณะนี้กำลังยกร่างพระราชบัญญัติ(พรบ.)ลำไยและจะเร่งผลักดันให้เร็วที่สุด ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าต้องผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นหากรัฐบาลอยู่ครบเทอมในเดือนมี.ค. 2566 คาดว่าจะเลือกตั้งประมาณเดือนพ.ค.2566 โดยพรรคพท.มั่นใจจะได้แลนด์สไลด์แน่นอน แต่ล่าสุดได้ยินว่า หลังการประชุมเอเปคเดือนพ.ค.นี้เสร็จสิ้น จะมีการยุบสภาก็จะทำให้การเลือกตั้งเร็วขึ้น
โวขอแลนด์สไลด์แก้ปัญหาให้ทุกคน
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกพื้นที่มีปัญหาแตกต่างกัน แต่รัฐบาลต้องดูแลใส่ใจประชาชน พรรคพท.เห็นใจเกษตรกรทุกคนเป็นอย่างมาก วันนี้ปัญหาหลักคือรัฐบาลไม่ให้ความร่วมมือและให้การดูแลอย่างที่ควรจะเป็นซึ่งในสมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย (ทรท.) เราให้ความสนใจในการพัฒนาภาคเหนือมาโดยตลอด ถ้าพรรค พท.ได้รับโอกาสเป็นรัฐบาล เราจะดูแลเกษตรกรทุกคนเป็นอย่างดี เพราะคือจิตวิญญาณของพวกเราที่มีมาอย่างยาวนานไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่พรรคก็ตาม อย่างไรก็ตาม หลังได้มาร่วมฟังปัญหา จึงได้ไอเดียใหม่ๆที่จะเป็นคำตอบในการนำไปใช้ได้จริง เราจะดูแลชาวเกษตรกรให้ดีที่สุด
“ขอให้กำลังใจพี่น้องทุกคน ขอให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ถึงวันเลือกตั้งเมื่อไรพรรคเพื่อไทยขอแลนด์สไลด์ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค เพื่อให้เรามาแก้ไขปัญหาให้ทุกคน” น.ส.แพทองธาร กล่าว
‘บิ๊กตู่’ปิดหลักสูตรให้กำลังใจกระหึ่ม
วันเดียวกัน เวลา14.00น.ที่อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตดินแดง กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีปิดหลักสูตรของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 64 วิทยาลัยเสนาธิการทหาร รุ่นที่ 63 วิทยาลัยการทัพบก ชุดที่ 67 วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่นที่ 54 และวิทยาลัยการทัพอากาศ รุ่นที่56 โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.นเรนทร์ สิริภูบาล รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และตัวแทนเหล่าทัพร่วมพิธี ทั้งนี้ นักศึกษา วปอ.รุ่น 64 ได้มอบช่อดอกไม้ พร้อมกับร้องเพลง“บ้านเกิดเมืองนอน”และ“จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน”เพื่อเป็นกำลังใจให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งผู้จัดงานได้แจ้งงดสื่อมวลชนเข้าติดตามทำข่าวครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี